ทหารเกณฑ์ บุกเดี่ยว ปล้นร้านสะดวกซื้อ กระซิบบอกพนักงานสาว “ขอเงินในลิ้นชัก” ก่อนไหวตัวกดสัญญาณเตือน ตำรวจตามรวบทันควัน อ้างหาเงินกลับบ้าน
เมื่อเวลา 03.30 น. วันที่ 15 มี.ค.2565 ร.ต.อ.แสวง ประศรีธรสัมบัติ รองสวป.สภ.เมืองระยอง รับแจ้งเหตุมีสัญญาณเตือนภัยดังขึ้นที่ ร้านสะดวกซื้อ สาขาหน้าขนส่งระยองเก่า ต.ท่าประดู่ อ.เมือง จ.ระยอง จึงรายงาน พ.ต.อ.อภิชนันท์ วัฒนวรางกูร ผกก.สภ.เมืองระยอง และรุดไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ
ที่เกิดเหตุพบ น.ส.กิ่งกาญจน์ (ขอสงวนนามสกุล) พนักงานร้านสะดวกซื้อที่เป็นผู้กดสัญญาณแจ้งเตือน ให้การด้วยอาการตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า ขณะที่กำลังอยู่ในร้านรวม 2 คน ปรากฏว่า มีลูกค้าเป็นผู้ชาย รูปร่างเล็ก ผิวขาว ตัดผมเกรียนใช้เสื้อทหารโพกศีรษะ ใส่เสื้อยืดสีขาว กางเกงขาสั้นสีเขียว สวมรองเท้าผ้าใบสีดำ เดินเข้ามาในร้าน แล้วเดินตรงมาหาตนที่กำลังอยู่หน้าเคาท์เตอร์ แล้วก็มากระซิบบอกว่า “จะมาปล้น ขอเงินในลิ้นชัก 1,000-2,000 บาท ได้หรือเปล่า” โดยที่มือจับกุมอยู่ที่เอวตลอดเวลา คล้ายกับจับอาวุธอยู่
น.ส.กิ่งกาญจน์ กล่าวต่อว่า ตนเห็นท่าไม่ดีจึงรีบเดินเข้าไปในเคาท์เตอร์ที่มีพนักงานอีกคนยืนอยู่ ชายคนดังกล่าวได้เดินตรงมาที่หน้าเคาท์เตอร์ แล้วพูดซ้ำอีกว่า “จะมาปล้น ขอเงินในลิ้นชักได้หรือเปล่า” พนักงานอีกคนจึงกดปุ่มสัญญาณเตือนภัยที่ขึ้นตรงกับสถานีตำรวจ ผู้ก่อเหตุเห็นเกิดอาการตกใจรีบเดินหนีออกจากร้านไปทันที สำหรับผู้ก่อเหตุคล้ายกับทหารที่เข้ามาซื้อของก่อนหน้าที่จะเกิดเหตุขึ้น 2 ครั้ง
ต่อมาตำรวจได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดถายในร้าน พบว่าเกิดเหตุขึ้นจริง จึงกระจายกำลังออกติดตามคนร้ายรายนี้ทันที ปรากฏว่ามีพลเมืองดีแจ้งพบกับผู้ชายที่มีรูปพรรณสัณฐานคล้ายกับผู้ก่อเหตุ ยืนอยู่หน้าแผงผลไม้ ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 300 เมตร ตำรวจจึงระดมกำลังไปตรวจสอบ พบกับผู้ชายสวมชุดทหาร จึงเข้าไปแสดงตัวตรวจสอบ ทราบชื่อคือ นายศุภชัย (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 22 ปี ปัจจุบันเป็นพลทหารเกณฑ์ สังกัดกองบังคับการและบริการกองบัญชาการ หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน ค่ายตากสิน จ.จันทบุรี
จากการสอบสวนยอมรับสารภาพว่า เป็นทหารเกณฑ์ และเป็นผู้ก่อเหตุในร้านสะดวกซื้อจริง เพราะต้องการนำเงินไปใช้เป็นค่ารถกลับไปที่ จ.ชลบุรี และนำไปใช้จ่าย หลังก่อเหตุได้หนีไปที่ห้องเช่าที่เช่าไว้ก่อนหน้านี้ เปลี่ยนชุดทหารแล้วเดินออกมาเตรียมเดินทางไป จ.ชลบุรี แต่มาถูกควบคุมตัวไว้ก่อน
ต่อมาตำรวจได้ประสานไปยังกองสารวัตรทหารให้มาตรวจสอบว่าเป็นทหารจริงหรือไม่ หลังตรวจสอบเอกสารพบว่าเป็นพลทหารจริง สังกัดกองทัพเรือ โดยยังประจำการอยู่ที่ค่ายตากสิน จ.จันทบุรี หลังการสอบสวนจึงควบคุมตัวส่งให้กับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองระยอง ดำเนินคดีในข้อหา พยายามกรรโชกทรัพย์ ก่อนจะส่งตัวสารวัตรทหารนำตัวกลับกลับไปดำเนินคดีต่อที่ ททบ.14 ค่ายทหารราบ ปรมินทร์ ชลบุรี