เพชรบูรณ์ ทหารผ่านศึกสู้ชีวิต ทำไส้อั่วสมุนไพรขาย อร่อยถึงขั้น ผู้ว่าฯ เพชรบูรณ์ โพสต์เฟซบุ๊กการันตี ลูกค้าแห่อุดหนุนมากขึ้น ขายดี 1-2 พันบาทต่อวัน
ผู้สื่อข่าวได้รับทราบว่า มีทหารผ่านศึกรายหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 3 ต.สะเดียง อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ สู้ชีวิตทำงานมาแล้วหลายอย่าง กระทั่งล่าสุดหันมาทำไส้อั่วสมุนไพรขายตอนเช้า ปรากฏว่าลูกค้าแห่อุดหนุนแน่นทุกวัน รวมถึงผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ ถึงขั้นการันตีในความอร่อย
จึงเดินทางไปตรวจสอบ พบเตาย่างไส้อั่วสมุนไพรดังกล่าว ตั้งอยู่เยื้องกับศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืดเพชรบูรณ์
สิบตรีพันคำ เทศประสิทธิ์ อายุ 61 ปี บ้านเลขที่ 27/11 หมู่ 3 ต.สะเดียง เปิดเผยว่า ตนเป็นทหารผ่านศึก เมื่อครั้งประจำการอยู่ที่กองพันทหารปืนใหญ่ ที่ 11 รอ.(รักษาพระองค์) จังหวัดลพบุรี หลังจากปลดประจำการก็ได้กลับมาอยู่บ้านที่ จ.เพชรบูรณ์ และมีครอบครัว
ก่อนหน้านี้ ประกอบอาชีพหลายอย่าง ทั้งเร่ขายซาลาเปา ขายไอศกรีม ขายหมูย่าง เป็น รปภ.ของสำงานแห่งหนึ่ง รวมทั้งทำงานด้านสื่อมวลชนท้องถิ่นในพื้นที่จังหวัดเพชรบูรณ์
แต่เนื่องจากที่ผ่านมา ประสบกับภาวการณ์ระบาดของเชื้อโควิด-19 เศรษฐกิจตกต่ำ ทำให้การประกอบอาชีพต่างๆ ไม่ดีเท่าที่ควร จึงเกิดแนวคิดที่จะทำ ไส้อั่วสมุนไพรขาย และใช้ชื่อว่า “ไส้อั่วสมุนไพรนายพัน” โดยตั้งโต๊ะ ตั้งเตาย่างขายอยู่ที่หน้าบ้าน วันแรกลองทำขาย 5 กิโล ปรากฏว่า ลูกค้าให้การอุดหนุนเป็นอย่างดี วันต่อมาจึงเพิ่มปริมาณขึ้นเรื่อยๆ กระทั่งทุกวันนี้ขายวันละประมาณ 12 – 15 กิโลกรัม มีรายได้หลังจากหักค่าใช้จ่ายแล้ววันละ 1-2 พันบาท
สิบตรีพันคำ เปิดเผยอีกว่า สำหรับไส้อั่วสูตรของตนนั้นนอกจากเนื้อหมูที่คัดสรมาเป็นอย่างดีแล้ว เครื่องปรุงต่าง ๆ ล้วนอัดแน่นไปด้วยสมุนไพรพื้นบ้านเช่นพริก หอมแดง กระเทียม ใบมะกรูด ผิวมะกรูด ขมิ้น ผักชี พริกไทยดำ ข่า ตะไคร้ รากผักชี ซึ่งสมุนไพรทุกอย่างจะต้องใช้วิธีการหั่นแล้วนำมาตำให้เข้ากัน ซึ่งการตำในครกนี้จะช่วยทำให้สมุนไพรมีกลิ่นหอมมากขึ้น
จากนั้นก็นำมาคลุกเคล้ากับหมูบดจนเข้าที่ และมาใส่เครื่องสำหรับยัดใส่ไส้หมู ต่อจากนั้นก็นำไปย่างบนเตาจนสุก ส่วนไฟที่ใช้ย่างก็จะเป็นไฟอ่อน ๆ ใส่กากมะพร้าวไปด้วย เพื่อให้มีควัน ซึ่งควันจากกากมะพร้าวจะทำให้ไส้อั่วมีกลิ่นหอมน่ารับประทานยิ่งขึ้น
สำหรับ ไส้อั่วที่ทำขายนี้ ตนเน้นความสด ใหม่ ไม่ทำค้างคืน โดยตนจะตื่นมาตั้งแต่ตี 4 เพื่อไปเอาหมูบดที่ตลาด จากนั้นก็นำมาคลุกเคล้ากับพริกแกงและสมุนไพรที่ได้เตรียมไว้จนเข้าที่ และนำใส่เครื่องสำหรับยัดใส่ไส้หมู ซึ่งจะเริ่มย่างขายตั้งแต่เวลา 06.00 น. เป็นต้นไปไม่เกิน 10.00 น.ก็ขายหมดแล้ว
โดยลูกค้าที่มาซื้อก็จะมีทั้งนักเรียนและคนทำงาน โดยจะขายเป็นชิ้นๆ ละ 20 บาท ข้าวเหนียวห่อละ 5 บาท ส่วนลูกค้าบางรายก็จะสั่งซื้อจำนวนมาก ซึ่งตนก็จะขายอยู่ที่กิโลกรัมละ 370 บาท ครึ่งกิโล 185 บาท
ทั้งนี้ ลูกค้าที่มาซื้อต่างก็ชื่นชมว่า ไส้อั่วของตนเองนั้นไม่เหมือนเจ้าอื่น เพราะย่างจนแห้งพอดี มีความหอมของสมุนไพร และที่สำคัญชิ้นใหญ่มาก กินชิ้นเดียวกับข้าวเหนียว 5 บาท ก็อิ่มแล้ว
แต่ที่ตนภาคภูมิใจเป็นอย่างมากก็คือ ท่านผู้ว่าฯ กฤษณ์ คงเมือง ผวจ.เพชรบูรณ์ ได้ซื้อไปรับประทาน จากนั้นท่านก็ได้โพสต์เฟซบุ๊กการันตีถึงความอร่อย ยิ่งทำให้ลูกค้าแห่มาอุดหนุนมากขึ้นกว่าเดิม ทำให้ขายหมดเร็วจนลูกค้าบอกให้เพิ่มปริมาณ
แต่ตนก็จะทำเพียงเท่าที่ทำได้ เพราะจะเน้นคุณภาพ ไม่เน้นปริมาณ จึงทำให้ตอนนี้ในแต่ละวันจะมีลูกค้าโทรมาจองล่วงหน้ากันเลยทีเดียว
ท่านใดที่สนใจที่จะอุดหนุนหรือลองลิ้มชิมความอร่อยของไส้อั่วสมุนไพรนายพัน โดยร้านจะตั้งอยู่เยื้องกับศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืดเพชรบูรณ์หรือจะโทรศัพท์สั่งจองไว้ก่อนก็ได้ที่หมายเลข 089-4614954