ทวี สอดส่อง ห่วงคนชายแดนตากใบ ปิดด่าน 2 ปีกระทบหนัก ชี้รัฐบาลต้องเปิดด่านควบคู่เปิดสนามบิน ย้ำประชาชาติพร้อมดันตากใบเป็นเมืองพัฒนาต้นแบบ

วันที่ 14 พ.ย.2564 ที่จ.นราธิวาส พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ส.ส.บัญชีรายชื่อ และเลขาธิการพรรคประชาชาติ พร้อมด้วยนายกูเฮง ยาวอหะซัน ส.ส.เขต 3 นราธิวาส นายกมลศักดิ์ ลีวาเมาะ ส.ส.เขต 4 นราธิวาส นายซูการ์โน มะทา ส.ส.เขต 2 ยะลา และนายอารีเพ็ญ อุตรสินธุ์ รองหัวหน้าพรรค ลงพื้นที่เยี่ยมพ่อค้าแม่ค้าในตลาดตาบา อ.ตากใบ จ.นราธิวาส ซึ่งได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 และการปิดด่านชายแดน

พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า อ.ตากใบและอ.สุไหงโก-ลก เป็นเมืองชายแดนที่มีต้นทุนและเป็นพื้นที่เศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศ แต่เมื่อประสบปัญหาการระบาดของโควิด-19 ทำให้ชีวิตและความเป็นอยู่ของประชาชนได้รับผลกระทบเป็นวงกว้าง รัฐบาลจำเป็นต้องแก้ปัญหาในทุกมิติ โดยเฉพาะการเปิดประเทศ ซึ่งการเปิดสนามบินก็เป็นมาตรการหนึ่ง แต่ยังไม่มีผลโดยตรงกับพื้นที่ยุทธศาสตร์โดยเฉพาะเมืองชายแดนอย่างอ.ตากใบและสุไหงโก-ลก

“รัฐบาลควรเปิดชายแดนควบคู่กันกับการเปิดสนามบิน เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจการค้าชายแดน ที่มีการจับจ่ายใช้สอยระหว่างไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน ควรจัดงบประมาณพัฒนาเมืองชายแดนและมอบให้ท้องถิ่นเป็นผู้ดำเนินงาน ซึ่งในอดีตเคยมีความตกลงกับมาเลเซีย จะทำสะพานมิตรภาพที่สุไหงโก-ลกและตากใบ โดยฝ่ายไทยจะเป็นผู้ออกแบบและมาเลเซียเป็นผู้ตรวจ สลับกันไปมาระหว่าง 2 สะพาน แต่ยังไม่มีการผลักดันในระดับพื้นที่อย่างจริงจัง มีการตั้งงบไว้ไม่ต่ำกว่า 5 พันล้านบาท แต่ไม่ทราบด้วยเหตุผลประการใดว่าโครงการทั้งสอง เป็นอันต้องพับเก็บไป” พ.ต.อ.ทวี กล่าว

พ.ต.อ.ทวี เยี่ยมตลาดตลาดตาบา อ.ตากใบ จ.นราธิวาส

เลขาธิการพรรคประชาชาติ กล่าวด้วยว่า โครงการต่างๆ ของรัฐบาล โดยเฉพาะรถไฟรางคู่ ต้องหยุดชะงักไปแถมโครงการรถไฟรางคู่ที่จะมาถึงจ.นราธิวาส ถูกจัดให้เป็นโครงการสุดท้าย หรือช่วงที่ 3 ในปี 2570 และเสร็จปี 2579 จึงทำให้การพัฒนาล่าช้าออกไป ทำไมไม่อยู่ในช่วงแรกปี 2560 เสร็จปี 2564 หรือช่วงที่ 2 ปี 2565 เสร็จปี 2569 เหมือนกับจังหวัดอื่นๆ ทำไมพื้นที่สามจังหวัดจึงถูกเลือกพัฒนาท้ายสุด

พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า รัฐบาลต้องให้ความสำคัญและพัฒนาเมืองชายแดนให้ทัดเทียมกับประเทศเพื่อนบ้าน ที่สำคัญต้องเร่งรัดสร้างทางรถไฟรางคู่ เพื่อเชื่อมระหว่างนราธิวาสและหาดใหญ่ และต้องไม่ทำให้ดูเสมือนหนึ่งว่าปฏิบัติกับประชาชนในสามจังหวัดชายแดนแบบ 2 มาตรฐาน ขณะที่ฝั่งมาเลเซียมีรถไฟฟ้าจ่อมาถึงใกล้ชายแดนตากใบด้วย ซึ่งเป็นโอกาสที่จะขยายการขนส่ง และการเปิดด่านชายแดน จะเป็นเรื่องที่ดีเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจโดยเฉพาะการค้าขายระหว่างประเทศ มั่นใจว่าประเทศเพื่อนบ้าน มีมาตรการเฝ้าระวังเป็นการเฉพาะที่รอบคอบและไม่เกิดผลกระทบเสียหายแก่ประชาชนของทั้งสองฝ่ายในวงกว้าง

ตากใบเป็นพื้นที่ที่ได้รับความเจ็บปวดจากเหตุการณ์ในปี 2547 เกิดบาดแผลที่ฝังลึก สิ่งเดียวรัฐบาลควรทำและเยียวยาคือ การคืนความเป็นธรรมในทุกมิติ และในระยะสั้น คือการชดเชยการการขาดโอกาสทางเศรษฐกิจของประชาชน และคืนความยุติธรรมแก่ผู้ได้รับผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อม แต่การพัฒนาในมิติต่างๆ ที่เกิดขึ้น ต้องอาศัยการเมืองและกลไกที่เกี่ยวข้อง

ถึงเวลาแล้วที่ชาวตากใบต้องมีตัวแทนเป็นของตนเอง ร่วมกันกำหนดอนาคต เพราะการเมืองจะทำให้คนจนและคนรวยมีความเท่ากัน เพราะในวันไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งคะแนนของคนรวยและคนจนจะเท่ากัน 1 สิทธิ์ 1 เสียง และ ถือเป็นเสียงที่มีเกียรติยศและเป็นสิทธิ์โดยชอบ

พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า พรรคประชาชาติ มิได้เป็นพรรคของคนใดคนหนึ่ง และตั้งใจใช้ตากใบเป็นต้นแบบพัฒนาเมือง งานของพรรค มิได้จับต้องยาก เช่น เมื่อเข้ารัฐสภาและถือเป็นครั้งแรกที่เสนอกฎหมายเรื่องการซ้อมทรมาน และถ้าผลักดันให้มีกฎหมายฉบับนี้ออกมาได้ เราจะช่วยป้องกันมิให้คนถูกนำไปดำเนินตามอำเภอใจ หรือขัง โดยไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดและกฎหมายต้องเป็นกฎหมายที่ใช้บังคับกับคนทุกคน ตำรวจและทหารต้องอยู่ในกฎหมายเท่าเทียมกันกับประชาชน และต้องทำให้ประชาชนได้รับความเป็นธรรม มั่นใจว่าหากกฏหมายฉบับนี้ออกใช้บังคับจะเป็นกฎหมายที่สร้างความปลอดภัยให้กับประชาชนในระดับหนึ่ง

“เรื่องที่สำคัญโดยเฉพาะเศรษฐกิจชายแดน เราจะต้องไม่เอาคนหวังดีมาแก้ แต่เราต้องเอาคนรู้ดีโดยเฉพาะคนตากใบเป็นกลไกมาแก้ไขปัญหาของประชาชน และในปีหน้าต้องการให้ประชาชนชาวตากใบเป็นผู้ตื่นรู้และสร้างความเป็นจริงให้เกิดขึ้น หากพรรคประชาชาติได้เป็นรัฐบาลและเข้าไปบริหารบ้านเมือง สิ่งที่ได้พูดและแถลงไว้จะไม่เป็นเรื่องไกลตัวเพราะเป็นสิ่งที่ทำได้จริง” พ.ต.อ.ทวี กล่าว