‘ทวี’ ปลุกสภาร่วมปลดโซ่ตรวนลูกหนี้กยศ.ทั่วไทย ชี้ละเมิดสิทธิ-ล้วงข้อมูลผู้กู้

Home » ‘ทวี’ ปลุกสภาร่วมปลดโซ่ตรวนลูกหนี้กยศ.ทั่วไทย ชี้ละเมิดสิทธิ-ล้วงข้อมูลผู้กู้


‘ทวี’ ปลุกสภาร่วมปลดโซ่ตรวนลูกหนี้กยศ.ทั่วไทย ชี้ละเมิดสิทธิ-ล้วงข้อมูลผู้กู้

พ.ต.อ.ทวี ชี้พ.ร.บ.กยศ.ยุคคสช.ขัดรัฐธรรมนูญ ละเมิดสิทธิ ล้วงข้อมูลผู้กู้ ดันร่าง พ.ร.บ.ฉบับพรรคประชาชาติ ใช้คืนแค่เงินต้น ยืดเวลาใช้หนี้ 30 ปี

เมื่อวันที่ 28 ม.ค.65 พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ส.ส.บัญชีรายชื่อ และเลขาธิการพรรคประชาชาติ กล่าวสรุปในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ 25 ปีที่ 3 ครั้งที่ 25 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่สอง) เมื่อวันพุธที่ 26 ม.ค.ที่ผ่านมา ระบุว่า สรุปการอภิปรายร่างพระราชบัญญัติกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (ฉบับที่…) พ.ศ…. หลังจากที่ ส.ส.ของพรรคประชาชาติอภิปรายถึงร่าง พ.ร.บ.กยศ.ที่ทางพรรคประชาชาติได้เสนอ

พ.ต.อ.ทวี อภิปรายว่า จากร่าง พ.ร.บ.ที่มีทั้งหมด 5 ร่าง ฐานคิดของพรรคประชาชาติอาจจะต่างจากอีก 4 ร่างในบางประการ ฐานคิดที่พรรคประชาชาติมองว่า การศึกษาเรียนรู้เป็นการพัฒนามนุษย์ สิ่งที่มนุษย์ทุกคนมีติดตัวคือ สมองกับความคิด สมองกับสติปัญญา มนุษย์ทุกคนเกิดมาเพื่อจะศึกษาเรียนรู้ เพราะความรู้เท่านั้นที่จะสามารถนำประเทศและสังคมไปสู่การพัฒนา การวัดคุณภาพของสังคมใดสังคมหนึ่งเขาจะวัดกันที่คุณภาพของคน ไม่ได้วัดกันที่คุณภาพของอำนาจ ไม่ได้วัดกันที่คุณภาพของความกว้างขวาง

พ.ต.อ.ทวี กล่าวต่อว่า ที่สำคัญหลักคิดของพรรคประชาชาตินั้น เรามองว่าการศึกษาเป็นสิทธิมนุษยชน การศึกษาเป็นสิทธิขั้นพื้นที่ฐาน และการศึกษาเป็นเรื่องที่รัฐจะต้องดูแลคนในประเทศ เพราะรัฐบาลในทางความเป็นจริงคือผู้ที่เก็บภาษีอากรจากประชาชน ในรัฐธรรมนูญ ปี 2560 บอกหน้าที่ของประชาชนไว้ในมาตรา 50 (4) ว่าประชาชนต้องเข้ารับการศึกษาอบรม การศึกษาภาคบังคับ หน้าที่ของประชาชนทุกคนยังต้องศึกษา และมีกำหนดเป็นหมวดใหม่คือ “หน้าที่ของรัฐ” ระบุในมาตรา 51 ว่า อะไรในหมวดหน้าที่ของรัฐ ย่อมเป็นสิทธิของประชาชน ย่อมเป็นสิทธิของชุมชน แล้วประชาชนหรือชุมชน

ถ้าเห็นว่ารัฐไม่เร่งดำเนินการ ปล่อยปละละเลย ประชาชนก็จะมีสิทธิที่จะฟ้องเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องได้ และตามคำสั่ง คสช.จึงออกคำสั่งที่ 28/2559 เรื่องจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน 15 ปี ก็คือการศึกษาตั้งแต่อนุบาล จนถึงการศึกษาระดับมัธยมศึกษาปีที่ 6 หรือ ระดับ ปวช.3 อันนี้ต้องเป็นการศึกษาฟรีแบบมีคุณภาพ

เลขาธิการพรรคประชาชาติ กล่าวอีกว่า “วันนี้รัฐบาลไม่บังคับตามรัฐธรรมนูญ แต่ไปว่ามีกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา ในรัฐธรรมนูญบอกไว้แล้วว่า คนที่ไม่มีสินทรัพย์ คนยากไร้ขาดแคลนทุนทรัพย์ รัฐต้องทำ 2 อย่าง คือ 1.สนับสนุนโดยรัฐ 2.รัฐต้องมีกองทุน ซึ่งรัฐก็มีกองทุนจริง คือ กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา ที่ได้งบประมาณปีละ 5-6 พันล้านบาท

ปรากฏว่ากองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษาเกือบ 99 เปอร์เซ็นต์ ไปแย่งทำงานกับการเรียนฟรี 15 ปี แต่ไม่ไปดำเนินการกับผู้ขาดแคลนทุนทรัพย์ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 54 (5) (6) ดังนั้นกองทุน กยศ.ที่เกิดขึ้น ผมเห็นว่าจะต้องมีบทบาทหนึ่งเป็นกองทุนเพื่อการศึกษาสำหรับผู้ขาดแคลน”

พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ประเทศไทยเราการศึกษาถูกทำลายอย่างรุนแรงในยุคของ คสช. สิ่งที่เห็นได้ดีที่สุดคือ พ.ร.บ.กองทุนให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา พ.ศ.2560 ที่ไปทำลายหลักการสำคัญของ พ.ร.บ.กองทุนให้กู้ยืมเพื่อการศึกษาปี 2541 คือการศึกษาในกองทุนฯปี 41 บอกว่าจะคิดดอกเบี้ยก็ได้ แต่ต้องคิดเท่ากับดอกเบี้ยเงินฝากธนาคารออมสินที่วันนี้ไม่ถึง 50 สตางค์ด้วยซ้ำ แต่ใน พ.ร.บ.ปี 60 ไปคิดดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี เท่านั้นยังไม่พอ ไปคิดเบี้ยปรับร้อยละ 18 ต่อปี รวมเบี้ยปรับกับดอกเบี้ยเป็นร้อยละ 25.5 ต่อปี ถือว่ากำไรสูงมาก

“เท่านั้นยังไม่พอยังทำลายหลักการละเมิดสิทธิมนุษยชน คือการทวงหนี้ที่สามารถเข้าถึงข้อมูลของผู้กู้ได้หมดเลย เปิดเผยข้อมูลได้ ซึ่งปกติต้องไปขออำนาจศาลในการเปิดเผย แต่กยศ. สามารถบุกเข้าถึงได้ และที่สำคัญ มาตรา 50 ยังให้ กยศ.มีบุริมสิทธิเหนือทรัพย์สิน (บุริมสิทธิ คือ สิทธิเหนือทรัพย์สินของลูกหนี้ในการที่จะได้รับชําระหนี้อันค้างชําระแก่ตนจากทรัพย์สินนั้นก่อนเจ้าหนี้อื่นๆ)

คือสมมติถ้าลูกหนี้ กยศ. ไปกู้ธนาคาร ธนาคารก็จะไม่ให้กู้ เพราะ กยศ.เป็นหนี้บุริมสิทธิ ถ้าปล่อยกู้แล้วมีปัญหาลูกหนี้ต้องจ่ายหนี้ กยศ.ก่อน และทำให้ลูกหนี้ กยศ. ต้องเดือดร้อนจนต้องไปหาเงินจากหนี้นอกระบบ จึงเป็นวิกฤติอย่างในทุกวันนี้” พ.ต.อ.ทวี กล่าว

พ.ต.อ.ทวี อภิปรายอีกว่า สรุปแล้ว พ.ร.บ.กยศ.ถ้าไม่แก้ ปัญหาไม่รุนแรงขนาดนี้ เพราะใน พ.ร.บ.กยศ.ปี 41 ถ้ามีดอกเบี้ยก็แค่ 1 สลึง แล้วจริงๆ พอหลังจากรัฐธรรมนูญปร 60 ประกาศใช้แล้ว การมีดอกเบี้ยจะทำไม่ได้เด็ดขาด เพราะดอกเบี้ยคือ คนที่ได้เรียนจบ และมีการศึกษา ทำให้ประเทศมีกำไร นี่คือหลักคิดของพรรคประชาชาติ

“เราจึงแก้กรณีที่ 1 คือ มาตรา 6/1 ให้การกู้ยืมของผู้ที่ขาดแคลนทุนทรัพย์เป็นทุนการศึกษา แต่มีเงื่อนไขให้คณะกรรมการได้พิจารณา แต่หลักใหญ่ก็คือเป็นหนี้ต้องใช้หนี้ และมาตรา 44 ที่เป็นมาตราหลักก็คือ การใช้หนี้เฉพาะเงินต้น การใช้หนี้ต้องไม่มีดอกเบี้ยและเบี้ยปรับ

ผมถือว่าการมีดอกเบี้ยสำหรับผู้ขาดแคลนทุนทรัพย์เป็นการละเมิดรัฐธรรมนูญ ทำผิดกฎหมาย และการมีเบี้ยปรับอย่างโหดร้ายก็ต้องยกเลิก และให้ใช้หนี้เมื่อมีความพร้อม ภายในระยะเวลา 30 ปี ซึ่งผมเชื่อว่าภายใน 30 ปี ลูกหนี้มีความพร้อม” พ.ต.อ.ทวี กล่าว

เลขาธิการพรรคประชาชาติ กล่าวว่า เราแก้ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง (ป.วิแพ่ง) ในการบังคับคดีว่า ถ้าจะบังคับคดีกับลูกหนี้ ลูกหนี้ต้องมีเงินอยู่ 20,000 บาท เงินสงเคราะห์ต่างๆ ไปบังคับไม่ได้ แต่ทาง กยศ. ทำได้หมด ทำแบบนี้นอกจากทำตัวเป็นธนาคารพาณิชย์ ยังเป็นการรีดเลือดเอากับคนที่จะเป็นอนาคตของประเทศ คน GEN Y อายุ 21-37 ปี GEN X ถึง 60 ปี เกิดมาต้องมีทุกข์กับการเป็นหนี้และเป็นหนี้ที่เป็นภาษีอากรของประชาชน

เลขาธิการพรรคประชาชาติ อภิปรายอีกว่า อยากให้เพื่อนสมาชิกทุกคนรับร่าง พ.ร.บ.นี้ เรามาร่วมกันปลดโซ่ตรวนที่เป็นภาระอันยิ่งใหญ่ การศึกษาเป็นสิทธิขั้นพื้นที่ฐานที่รัฐจะต้องจัดการให้ แต่เมื่อไปดูงบการเงินของ กยศ. ปรากฏว่าเบี้ยปรับ 1.6 หมื่นล้านบาท ดอกเบี้ยรวม 3 หมื่นกว่าล้านบาท

เงินก้อนนี้แทนที่จะไปส่งน้องเรียนตามที่อ้าง เอาไปให้ กยศ. กรรมการเอาไปใช้ รวมตัวเลข 8 พันกว่าล้าน นี่มันคืออะไร คุณกำลังเอาเงินจากผู้ยากไร้ ทั้งที่ในหลักการทั้งศาสนาพุทธและศาสนาอิสลาม คนมือบนต้องช่วยมือล่าง แต่นี้กลับเอาเงินจากคนมือล่างมาหล่อเลี้ยง

“ดังนั้นผมอยากให้พิจารณาร่างของพรรคประชาชาติ โดยคนที่ถูกฟ้องร้องหรือคนที่กู้อยู่ 6.1 ล้านคน จะต้องนำกลับมาทบทวน ต้องไม่มีดอกเบี้ยและเบี้ยปรับ คนที่อดีตถูกฟ้องร้องและถูกดำเนินคดีไปแล้ว 1.2 ล้านคน ก็ควรจะถูกส่งคืนเฉพาะเงินต้น ไม่ได้ไปยกเว้นหนี้ให้ และประเด็นสำคัญที่เรายกเว้นให้ ไม่ว่าจะเป็นการเรียนดีได้เกียรตินิยม หรือเป็นหลักสูตรที่รัฐเห็นว่ามีความจำเป็นต่อประเทศอันนี้ก็สำคัญ” เลขาธิการพรรคประชาชาติ กล่าว

พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า วันนี้ พ.ร.บ.ที่รัฐบาลยกร่างมาอันตรายอย่างยิ่ง มีกรรมการที่มาจากกระทรวงการคลัง คือ ต้องการทำให้ กยศ.เป็นธนาคารพาณิชย์ แต่ธนาคารพาณิชย์ยังต้องจ่ายดอกให้คนฝากเงิน แต่ กยศ.ไม่ต้องจ่าย ที่สำคัญไปยกเลิกอนุกรรมการ 2 ชุดที่มาจากกระทรวงศึกษาธิการ เพราะอาจจะไปขัดขวางการดำเนินการต่างๆของกรรมการ จึงเป็นเหตุให้กรรมการใช้เงินได้ตามอำเภอใจ

พ.ต.อ.ทวี อภิปรายทิ้งท้ายว่า ถ้าจะดูอดีตสังคมใดให้ไปดูที่พิพิธภัณฑ์ ถ้าจะดูปัจจุบันให้ไปดูที่หน่วยปฏิบัติ ถ้าจะดูอนาคตให้ไปดูที่การศึกษา วันนี้อนาคตของประเทศไทยแทบจะไม่มีเลย เรียนฟรี 15 ปี ไปตั้งกองทุน แต่ให้อีกกองทุนไปแย่งกันใช้เงินก้อนนั้น แต่กับคนที่ขาดแคลนยากไร้ตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดถูกปล่อยปละละเลย

“จึงอยากเรียกร้องว่า เมื่อเราตั้งกรรมาธิการแล้วอยากให้เรามาร่วมกันสร้างชาติด้วยการศึกษา การศึกษาเท่านั้น ความรู้เท่านั้น จะเปลี่ยนทุกอย่างให้ดีได้ รัฐสภาที่เป็นตึกที่เราอยู่นี้ เกิดด้วยความรู้นะ ไม่ได้เกิดด้วยอาวุธ ไม่ได้เกิดด้วยกำลัง ความรู้จะเกิดขึ้นได้ต้องมีการศึกษา

ผมจึงข้อสนับสนุนร่างของรัฐบาลและพรรคฝ่ายค้านทั้ง 5 พรรค และอยากให้ไปพิจารณาในวาระ 2 และวาระ 3 อย่างใช้สติปัญญาและมองที่อนาคตของชาติเป็นสิ่งสำคัญ เพราะคนกลุ่มนี้เป็นคนกลุ่มใหญ่ของประเทศ แต่ต้องมาเป็นหนี้ ที่เกิดจากการเรียนรู้ ผมคิดว่า เราควรมาร่วมกันสร้างวาระสำคัญของชาติ” พ.ต.อ.ทวี กล่าว

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ