ทลายรังแก๊งคอลเซ็นเตอร์ จับได้เกือบ 70 คน ใช้อพาร์ทเมนต์ทั้งหลัง เงินหมุนเวียน 200 ล้าน

Home » ทลายรังแก๊งคอลเซ็นเตอร์ จับได้เกือบ 70 คน ใช้อพาร์ทเมนต์ทั้งหลัง เงินหมุนเวียน 200 ล้าน


ทลายรังแก๊งคอลเซ็นเตอร์ จับได้เกือบ 70 คน ใช้อพาร์ทเมนต์ทั้งหลัง เงินหมุนเวียน 200 ล้าน

บุกทลายรังแก๊งคอลเซ็นเตอร์ จับได้เกือบ 70 คน ใช้อพาร์ทเมนต์ทั้งหลัง เงินหมุนเวียน 200 ล้าน ชักชวนเหยื่อลงทุน-เล่นพนันออนไลน์ เหยื่อโดนไป 12 ล้าน

วันที่ 15 ก.พ.65 พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผบช.สอท., พล.ต.ต.กานตพงศ์ ชัยรุ่งเรือง ผบก.สอท.2 นำกำลังปิดล้อมตรวจค้นหอพักคิตตี้ หมู่ 10 ต.ท่าตูม อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี หลังสืบทราบว่ามีการใช้สถานที่ดังกล่าวเป็นฐานปฏิบัติการแก๊งคอลเซ็นเตอร์

ที่เกิดเหตุเป็นอพาร์ทเม้นท์ 2 ชั้น โดยแบ่งเป็นชั้นๆ ละ 18 ห้อง รวม 36 ห้อง ชั้นบนเป็นที่พักพนักงาน ชั้นล่างเป็นที่ทำงาน ไม่รับบุคคลนอกและไม่ได้เปิดให้ประชาชนทั่วไป แต่ใช้เป็นที่ทำงาน Call Center & Admin page ในการชักจูงและหลอกให้ประชาชนทั่วไปเข้าร่วมลงทุนการพนันผ่านทางช่องทางเฟซบุ๊กและทางไลน์ ซึ่งการทำงานของกลุ่มคนร้าย จะแบ่งการทำงานแต่ละห้อง พบคอมพิวเตอร์และโทรศัพท์มือถือในการกระทำความผิดและพักอาศัยอยู่ตึกดังกล่าวทั้งหมด

จากการตรวจค้นพบผู้กระทำความผิด 66 คน, เงินสด 1,300,000 บาท, ทองคำ 20 บาท, รถยนต์ 3 คัน, คอมพิวเตอร์ 87 เครื่อง, โทรศัพท์มือถือ 23 เครื่อง, อาวุธปืน ขนาด .45 จำนวน 1 กระบอก, เครื่องกระสุนปืน .45 จำนวน 25 นัด, บัญชีธนาคาร 50 เล่ม ซึ่งพบเงินหมุนเวียนกว่า 200 ล้านบาท ทั้งนี่จากการสอบสวนคนร้ายให้การว่าได้รับการว่าจ้างจากนายทุน ให้เงินเดือนเดือนละหมื่นต้นๆ โดยอาศัยที่ดังกล่าว รวมถึงมีอาหารไว้ให้พนักงานที่ร่วมกระบวนการโดย การชักจูงให้โอนมาลงทุน เมื่อได้รับเงินก็จะหลอกหลวงให้ผู้เสียหายโอนเงินมาเพิ่มเรื่อยๆ และเมื่อผู้เสียหายเริ่มรู้ก็บล็อคหนี

พล.ต.ท.กรไชย กล่าวว่า สำหรับการตรวจค้นครั้งนี้ ทางผู้เสียหายเข้ามาแจ้งความร้องทุกข์ต่อกองบัญชาการสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ว่าได้ถูกคนร้ายหลอกให้หลงเชื่อเพื่อให้นำเงินไปลงทุน โดยอ้างว่าสามารถทำกำไรได้สูง ซึ่งต่อมาคนร้ายได้แจ้งให้ผู้เสียหายว่าได้รับกำไรจากการลงทุนดังกล่าวแล้ว แต่ผู้เสียหายต้องโอนเงินเป็นค่าถอน ค่าธรรมเนียม ค่าภาษี และค่ารหัสผ่านในการถอนเงิน ผู้เสียหายหลงเชื่อจึงได้โอนเงินให้แก่กลุ่มคนร้ายหลายครั้ง รวมเป็นเงินจำนวน 12,139,000.25 บาท ต่อมาภายหลัง เมื่อผู้เสียหายทราบว่าตนถูกหลอกลวง จึงได้มาแจ้งความร้องทุกข์เพื่อให้ติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมาย

เบื้องต้นแจ้งข้อหา “ร่วมกันจัดให้มีการเล่น อุบายประกาศ โฆษณา หรือชักชวนโดยทางตรงหรือทางอ้อมให้ผู้อื่นเข้าเล่นการพนันออนไลน์โดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม พรบ.การพนัน” และ ดำเนินคดีกับ ผู้ที่มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อม ดำเนินการขยายผลในความผิดฐานฟอกเงิน และ การกระทำความผิดฐาน ฉ้อโกงประชาชน นำส่งสภ.ศรีมหาโพธิ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

 

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ