ทร.ปลื้ม ต้อนรับ เรือหลวงช้าง เสริมเขี้ยวราชนาวีไทย ขึ้นแท่นใหญ่ที่สุดในกองทัพเรือ

Home » ทร.ปลื้ม ต้อนรับ เรือหลวงช้าง เสริมเขี้ยวราชนาวีไทย ขึ้นแท่นใหญ่ที่สุดในกองทัพเรือ


ทร.ปลื้ม ต้อนรับ เรือหลวงช้าง เสริมเขี้ยวราชนาวีไทย ขึ้นแท่นใหญ่ที่สุดในกองทัพเรือ

ทร.รับ เรือหลวงช้าง ขนาด 2.5 หมื่นตัน ขึ้นอันดับหนึ่งเรือลำใหญ่ที่สุดในกองทัพเรือ ด้าน ผบ.ทร.มั่นใจขีดความสามารถ ตั้งงบฯ67 อีก 950 ล้าน เสริมเขี้ยวเล็บ ระบบอำนวยการรบ- ติดตั้งปืน เรด้าห์ ยืนยัน แม้นลำใหญ่ แต่ไม่สินเปลื้อง ส่งผลดีสัมพันธ์ ทร. ไทย-จีน

เมื่อวันที่ 25 เม.ย. 2566 พล.ร.อ.เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) ผู้แทนรมว.กลาโหม เป็นประธานในพิธีต้อนรับเรือหลวงช้าง เรืออเนกประสงค์ยกพลขึ้นบกลำใหม่ของกองทัพเรือ ที่สั่งต่อจากสาธารณรัฐประชาชนจีนและเดินทางถึงประเทศไทย ณ ท่าเรือจุกเสม็ดฐานทัพเรือสัตหีบ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี

เรือหลวงช้าง

ผบ.ทร. ต้อนรับ เรือหลวงช้าง

โดยมี คณะนายทหารชั้นผู้ใหญ่ ข้าราชการกองทัพเรือในพื้นที่ ตลอดจนครอบครัวของกำลังพลประจำเรือ รวมถึงครอบครัวของทหารกองประจำการ (พลทหาร) ที่เดินทางไปรับเรือ ร่วมในพิธี

ในเวลา 15.45 น. ผู้บัญชาการทหารเรือเป็นประธานในพิธีเจริญพระพุทธมนต์เพื่อความเป็นสิริมงคล จากนั้นในเวลา 16.00 น. ได้ขึ้นแท่นรับความเคารพจากกำลังพลประจำเรือ โดย พล.ร.อ.อะดุง พันธ์เอี่ยม ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ ได้กล่าวรายงานถึงความเป็นมาในการจัดหาเรือหลวงช้างเข้าประจำการ

ผู้บัญชาการทหารเรือ กล่าวต้อนรับเรือหลวงช้าง และให้โอวาทกำลังพลประจำเรือตอนหนึ่งว่า ตามที่กองทัพเรือดำเนินการจัดหาเรือหลวงช้างเข้าประจำการเพื่อรองรับภารกิจในการป้องกันรักษาอธิปไตยและการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ด้วยการปฏิบัติการสะเทินน้ำสะเทินบกและสนับสนุนการปฏิบัติการเรือดำน้ำตลอดจนถึงการช่วยเหลือประชาชนบรรเทาสาธารณภัยพิบัติต่างๆ

นับเป็นการพัฒนากำลังรบที่สำคัญของกองทัพเรือซึ่งตนมั่นใจว่าด้วยขีดความสามารถของเรือหลวงช้างลำนี้ จะเพิ่มศักยภาพให้กองทัพเรือที่จะส่งผลให้การสนับสนุนการปฏิบัติภารกิจของประเทศประสบความสำเร็จลุล่วงตามที่ได้รับมอบหมายเป็นอย่างดี

เรือหลวงช้าง

ผบ.ทร. ต้อนรับ เรือหลวงช้าง

ในส่วนของกำลังพลประจำเรือขอชื่นชมทุกท่านที่ได้รับการคัดเลือกให้เป็นกำลังพลชุดแรกปฏิบัติงานในเรือลำนี้และสามารถนำเรือเดินทางจากสาธารณรัฐประชาชนจีนถึงประเทศไทยด้วยความเรียบร้อยและปลอดภัย และขอให้ตั้งใจปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มความสามารถเพื่อเป็นกำลังสำคัญให้เรือลำนี้มีความพร้อมในการปฏิบัติภารกิจตามที่ได้รับมอบหมายต่อไป

พล.ร.อ. เชิงชาย กล่าวอีกว่า สำหรับเรือหลวงช้างลำนี้ เป็นเรือสนับสนุนยกพลขึ้นบก เป็นเรือพี่เลี้ยงเรือดำน้ำ ใช้ในการช่วยเหลือประชาชนบรรเทาสาธารณภัย ซึ่งเรือหลวงช้างที่เดินทางกลับมาประเทศไทย การติดตั้งอุปกรณ์บางอย่างยังไม่เรียบร้อย เนื่องจากงบประมาณไม่เพียงพอติดต้้งอุปกรณ์ เช่นระบบอาวุธ ปืนหลัก ปืนรอง ศูนย์ยุทธการ ระบบตรวจการณ์เรดาร์อากาศ และเรดาร์การควบคุมบังคับบัญชาของเรือผิวน้ำ

รวมถึงห้องยุทธการ กองทัพเรือจะได้การว่าจ้างบริษัทติดตั้งระบบต่างๆพร้อมปฎิบัติภารกิจโดยกองทัพเรือได้ตั้งงบประมาณในร่างพระราชบัญญัติงบประมาณ 2567 ซึ่งผ่านคณะรัฐมนตรีและรอสภาฯใหม่พิจารณาต่อไปวงเงิน 950 ล้านบาท

ทั้งนี้ภารกิจในการเป็นเรือพี่เลี้ยงเรือดำน้ำยังต้องมีการติดตั้งระบบในระยะต่อไป เมื่อมีการจัดหาเรือดำน้ำเข้ามาประจำการก็ค่อยมาดำเนินการตรงนี้ได้ ดังนั้นจึงยังมีเวลา แต่เรื่องระบบอาวุธ ศูนย์ยุทธการ และอาวุธปืน จำเป็นต้องติดตั้งให้เรือก่อน ยืนยันว่างบประมาณที่ใช้จ่ายไปมีความคุ้มค่าอย่างแน่นอน

เรือหลวงช้าง

ผบ.ทร. ต้อนรับ เรือหลวงช้าง

นอกจากภารกิจในการจัดหายกพลขึ้นบกตามยุทธศาสตร์ของกองทัพเรือแล้ว เรือดังกล่าวยังสามารถใช้ในงานด้านการบรรเทาสาธารณภัย ช่วยเหลือประชาชนเมื่อเกิดภัยพิบัติ ซึ่งเรือยกพลขนาดใหญ่จะทำให้เราสามารถปฏิบัติการได้ในช่วงที่คลื่นลมแรง

เมื่อถามว่า มีก็วิจารณ์เรื่องค่าใช้จ่ายสิ้นเปลืองเมื่อมีการออกปฏิบัติการพล.ร.อ.เชิงชายกล่าวว่า แม้เรือดังกล่าวจะเป็นเรือใหญ่แต่เมื่อออกไปปฎิบัติภารกิจตามปกติจะใช้ความเร็วมัธยัสถ์ในการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง หากไม่มีความจำเป็นเร่งด่วน เรือช้างมีความเร็วสูงสุด 25 น็อตแต่ความเร็วมัธยัสถ์ 18น็อต ถ้าเราเดินเรือด้วยความเร็ว 12 น็อตก็จะใช้น้ำมันไม่มากนัก อาจจะเทียบเท่ากับ เรือจักรีนฤเบศหรือเรือหลวงอ่างทอง

ส่วนความกังวลเรื่องระบบของเรือจีน ผบ.ทร.กล่าวว่า เรือที่มายังไม่ได้มีการติดตั้งระบบอาวุธ ระบบเซ็นเซอร์ระบบอำนวยการ ซึ่งในงบประมาณปี67 ก็จะมีการคัดเลือกบริษัทที่มาดำเนินการไม่จำกัดว่าต้องเป็นของจีน แต่ต้องมาดูความต้องการและภารกิจของเรือว่าต้องการแบบไหน และเข้ากันได้กับระบบของเรือหลวงช้างหรือไม่

“การจัดหาเรือลำนี้ก็ส่งผลดีต่อเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับจีน ผมและคณะได้มีโอกาสเดินทางไปเยือนกองทัพเรือจีนอย่างเป็นทางการ ก็ได้มีการเข้าพบ ผบ.ทร.จีน และเข้าเยี่ยมคำนับรัฐมนตรีกลาโหมจีน ถือเป็นการเสริมสร้างความสัมพันธ์กองทัพเรือสองชาติหลังจากสถานการณ์โควิดที่ห่างหายไป นอกจากนั้นจะมีการจัดประชุมเนวีทอล์คระหว่างกองทัพเรือสองชาติครั้งแรกโดยมีไทยเป็นเจ้าภาพ ก็จะมีการเสนอผู้บังคับบัญชาเพื่ออนุมัติแนวทางการประชุมต่อไป รวมถึงการ สร้างความสัมพันธ์ในการฝึกร่วมอย่างต่อเนื่องเช่นการฝึกภายใต้รหัส บลูสไตร์ครั้งที่ห้ากองทัพเรือไทยจะเป็นเจ้าภาพ”ผู้บัญชาการทหารเรือ กล่าว

ขณะที่แหล่งข่าวในกองทัพเรือเผยว่า ปัจจุบันกองทัพเรือมีจำนวนเรืออเนกประสงค์ยกพลขึ้นบกขนาดใหญ่ไม่เพียงพอตามยุทธศาสตร์ที่วางไว้ จึงมีความจำเป็นที่จะต้องจัดหาเพิ่มเติม เพื่อให้มีขีดความสามารถเป็นไปตามยุทธศาสตร์ที่กำหนด

ตั้งแต่ในภาวะปกติโดยมีขีดความสามารถในการปฏิบัติการยุทธ์สะเทินน้ำสะเทินบก การขนส่งลำเลียงอีกทั้งเป็นเรือบัญชาการ พร้อมให้การสนับสนุนการปฏิบัติการเรือดำน้ำ การค้นหาและกู้ภัยทางทะเล รวมทั้งสนับสนุนการช่วยเหลือ กู้ภัยเรือดำน้ำ และการช่วยเหลือและบรรเทาสาธารณภัย การอพยพประชาชน สนับสนุนการป้องกันและต่อต้านการก่อการร้ายในทะเล และท่าเรือ

ทั้งนี้ ตามระเบียบของกองทัพเรือ ได้กำหนดหลักเกณฑ์การตั้งชื่อเรือรบ ตามประเภทของเรือ โดยในส่วนของเรือยกพลขึ้นบก กำหนดให้ตั้งชื่อตามเกาะต่างๆ ในประเทศไทย โดยเรือยกพลขึ้นบกลำใหม่นี้ ได้รับพระราชทานชื่อจาก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวว่า “เรือหลวงช้าง” (เกาะช้าง จ.ตราด)

ทั้งนี้ เรือหลวงช้าง เป็นเรือประเภทอเนกประสงค์ยกพลขึ้นบกขนาดใหญ่สนับสนุนการปฏิบัติการเรือดำน้ำ มีกำลังพลประจำเรือจำนวนทั้งสิ้น 196 นาย ปัจจุบันมี นาวาเอก ธีรสาร คงมั่น เป็นผู้บังคับการเรือ

คุณลักษณะที่สำคัญมีความยาวตลอดลำ 210 เมตร ความกว้าง 28 เมตร กินน้ำลึก 7 เมตร ระวางขับน้ำ 25,000 ตัน ทำให้เรือลำดังกล่าวเป็นเรือมีขนาดใหญ่ที่สุดของกองทัพเรือ แทนเรือหลวงจักรีนฤเบศร เรือบรรทุกเฮริลคอปเตอร์ ที่ทร. ไทยจัดซื้อจากสเปนซึ่งมีระวางขับน้ำ 11,544 ตัน

ทำความเร็วสูงสุดได้ 25 นอต
– ดาดฟ้ายานพาหนะที่ 1 สามารถบรรทุก รถสะเทินน้ำสะเทินบก (AAV) ได้ 8 คัน หรือ ยานเกราะล้อยาง (MBT) 11 คัน
– ดาดฟ้ายานพาหนะที่ 2 สามารถบรรทุก รถสะเทินน้ำสะเทินบก (AAV) ได้ 8 คัน หรือ ยานเกราะล้อยาง (MBT) 9 คัน
– อู่ลอย สามารถบรรทุกเรือระบายพลขนาดกลาง(LCM) 6 ลำ หรือ เรือระบายพลขนาดเล็ก (LCVP) 9 ลำ หรือรถสะเทินน้ำสะเทินบก (AAV) 57 ลำ หรือ ยานเบาะอากาศ (LCAC) จำนวน 2 ลำ นอกจากนั้นยังสามารถบรรทุกกำลังรบยกพลขึ้นบกได้ถึง 600 นาย ใช้งบประมาผณในการจัดซื้อ 6,100 ล้าน

เมื่อเข้าประจำการในกองเรือยกพลขึ้นบกและยุทธบริการ กองเรือยุทธการแล้ว เรือหลวงช้าง จะมีภารกิจหลักในการปฏิบัติการยุทธสะเทินน้ำสะเทินบก การขนส่งและลำเลียง อีกทั้งเป็นเรือบัญชาการโดยมี ภารกิจรองในการสนับสนุนการปฏิบัติการเรือดำน้ำ อาทิ การช่วยเหลือและบรรเทาสาธารณภัย (HADR) การอพยพประชาชน การสนับสนุนการป้องกันและต่อต้านการก่อการร้ายในทะเลและท่าเรือ เป็นต้น

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ