ทริปจบคดีไม่จบ! จับแล้ว 1,300 คัน แก๊งจยย. ‘น้ำไม่อาบ’ ยึดรถอีกเกือบร้อยคัน

Home » ทริปจบคดีไม่จบ! จับแล้ว 1,300 คัน แก๊งจยย. ‘น้ำไม่อาบ’ ยึดรถอีกเกือบร้อยคัน



ผบก.ภ.จว.เพชรบูรณ์ สั่งเข้ม “ทริปน้ำไม่อาบ” สามารถจับกุมและดำเนินคดีแล้วกว่า 1,300 คัน ยึดรถอีกเกือบร้อยคัน

จากกรณี แก๊งจยย.มาเที่ยวที่ภูทับเบิก อ.หล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์ ใช้ชื่อว่า “ทริปไม่อาบน้ำ” โดยมีการรวมกลุ่มกันหลายร้อยคัน บางส่วนขี่ด้วยความประมาทหวาดเสียว สร้างความเดือดร้อนให้แก่ผู้ร่วมใช้รถใช้ถนน อีกทั้งทำให้เกิดอุบัติเหตุทรัพย์สินได้รับความเสียหาย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ

ล่าสุดวันที่ 8 พ.ย. 64 พล.ต.ต.นิพนธ์ พานิชเจริญ ผบก.ภ.จว.เพชรบูรณ์ เปิดเผยว่า จากกรณีดังกล่าว ตนได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งด่านตรวจสอบทั้งขาไปและขากลับผลปรากฏว่า สามารถจับกุมและดำเนินคดีทั้งในเรื่องการทำผิดกฎหมายทั่วไป เรื่องทำผิดกฎหมายจราจร สามารถจับกุมดำเนินคดีได้ 1,300 กว่าคัน และตรวจยึดรถจักรยานยนต์ไว้รอการตรวจสอบจำนวน 80 กว่าคัน มีการเกิดอุบัติเหตุ 2 ครั้ง ในพื้นที่ อ.บึงสามพัน และอ.หนองไผ่ ซึ่งตนก็ได้สั่งการให้มีการขยายผลติดตามคู่กรณีมาดำเนินคดี

ผบก.ภ.จว.เพชรบูรณ์ กล่าวต่อว่า จังหวัดเพชรบูรณ์เป็นจังหวัดท่องเที่ยวยินดีต้อนรับนักท่องเที่ยวทุก ๆ ท่าน แต่ขอให้ปฏิบัติตามกฎระเบียบของกฎหมายไม่ว่าจะเป็นด้านการควบคุมโรคโควิดและกฎหมายทั่วไป โดยเฉพาะรถจักรยานยนต์จะต้องมีการติดป้ายทะเบียนและไม่ขับขี่ด้วยความประมาทหวาดเสียว

ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจขอความร่วมมือจากประชาชนทั่วไปรวมทั้งผู้ใช้รถใช้ถนน หากพบมีการรวมกลุ่มกันแข่งขันรถจักรยานยนต์ มีการขี่โดยประมาทหวาดเสียวอาจจะก่อให้เกิดอันตรายแก่บุคคลอื่น ขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจที่หมายเลข 191 เพื่อจะได้เข้าไปตรวจสอบและป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุได้ทันท่วงที

ด้าน พ.ต.อ.ชูศักดิ์ แสงอุทัย ผกก.สภ.หนองไผ่ กล่าวว่า จากอุบัติเหตุดังกล่าวมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ซึ่งเป็นผู้ขี่รถจักรยานยนต์ที่ขับตามกันมา โดยจากการสอบสวนเบื้องต้นพบว่าได้รวมกลุ่มกันมาเที่ยวภูทับเบิก ขากลับจึงได้ขับขี่ตามกันมา เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุได้เกิดการเกี่ยวกันและรถได้เสียหลักไปชนกับรถเก๋งของประชาชนที่ใช้เส้นทางดังกล่าวอยู่ ส่วนรถจักรยานยนต์ได้ไถลตกลงไปข้างทาง ทำให้ผู้ขี่ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย จึงนำตัวส่งโรงพยาบาลหนองไผ่ ขณะนี้ได้ส่งตัวไปยังโรงพยาบาลที่จังหวัดนครราชสีมา แต่ยังไม่ได้มีการแจ้งข้อหาใด ๆ เพราะต้องรอการสอบสวนในรายละเอียดอีกครั้ง

ในส่วนของซากรถจักรยานยนต์นั้นครั้งแรกที่ได้มีการนำขึ้นรถยนต์ไปโดยที่เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ได้ตรวจสอบนั้นทราบมาว่า เป็นเพื่อนของผู้ที่ได้รับบาดเจ็บและขับรถยนต์ตามมาในกลุ่มด้วยกัน หลังเกิดเหตุได้นำซากรถยกขึ้นท้ายรถยนต์ เพื่อที่จะนำไปเก็บให้เพื่อนโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ซึ่งต่อมาก็ได้นำกลับคืนให้เจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ