ทราย เจริญปุระ โต้คลั่งผอม ลดน้ำหนักเพื่อสุขภาพ ไม่สนคำคน ถ่ายรูปเห็นไหปลาร้า

ยืนยันว่าลดน้ำหนักเพื่อสุขภาพ สำหรับ ทราย เจริญปุระ ได้ออกมาเปิดใจเหตุผลที่ออกมาดูแลตัวเองมากขึ้น หลังประสบอุบัติเหตุ ต้องผ่าคอใสน็อต กลับมามีน้ำหนักอยู่ที่ 50 กก. ดังเดิม แต่กลับถูกบูลลี่ว่าป่วย คลั่งผอม ไม่มีนม

เห็นโพสต์ล่าสุด โดนบูลลี่มานานแล้ว? “นาน คือต้องบอกก่อนว่าเมื่อก่อนเราไม่ได้ตัวเท่านี้ น้ำหนักสูงสุดตอนก่อนลด คือ 72 กก. เท่ากับมากกว่าตอนนี้ 22 กก. แต่มันเป็นการเพิ่มที่ค่อยๆ เพิ่ม จริงแล้วปัญหาเรื่องความงามยังไม่เป็นประเด็นเท่าไหร่ ซึ่งเราเคยเกิดอุบัติเหตุผ่าคอ ใส่น็อตไว้ 6 ตัว ซึ่งร่างกายเราไม่ควรจะน้ำหนักเกินจากก่อนที่ผ่า คือหมอเขาบอกตั้งแต่เราเข้ารับการรักษาแล้วว่าน้ำหนักเกินมากไม่ได้

เพราะมันมีผลต่อการที่เราผ่ากระดูกไว้ มันเป็นเรื่องที่รู้กันโดยทั่วไปสำหรับเรื่องน้ำหนักและไขข้อกระดูก ของเราก็ค่อนข้างจะวิกฤตถ้าจะปล่อยให้น้ำหนักมันเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทีนี้น้ำหนักมันขึ้นไปถึง 72 กก. มันไม่ได้แล้วในวัย 40 กว่าปี กระดูกมันจะพรุน มันจะนำพามาทุกสารพัดโรค เราเลยต้องลดอย่างจริงจังตามที่หมอขอ”

“เราก็ลดใช้เวลาประมาณ 2-3 ปี ซึ่งน้ำหนักตอนนี้ 50 กก. ใกล้เคียงกับช่วงที่ผ่าคอน้ำหนักเราก็ประมาณนี้ ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ปกติ แต่ว่าคราวนี้อาจจะแปลกตาหลายๆ คนที่เห็นกับรูปร่างในตอนนี้ก็เลยเป็นที่มาของคำวิจารณ์ต่างๆ ต้องบอกก่อนว่าเราไม่เคยโฆษณาในเรื่องของการลดน้ำหนัก หรือกินอาหารเสริม

แต่มันก็มีคำวิจารณ์ เอาจริงๆ ตอนที่เราน้ำหนักเยอะๆ ยังไม่โดนเท่านี้เลยอ่ะ กลายเป็นมาโดนตอนนี้เยอะมาก แล้วมันค่อนข้างบั่นทอน เพราะเราแบกปัญหาสุขภาพของตัวเองอยู่ แล้วการลดมันก็ไม่ได้ง่าย ทุกคนจะรู้ว่าการลดน้ำหนักมันต้องใช้ความพยายามสูงพอสมควร ในการเปลี่ยนวิถีชีวิต เลยรู้สึกว่าแย่

เพราะเราเห็นคอมเมนต์เสมอ ถึงคนจะบอกว่าอย่าไปคิดมาก มันไปกันใหญ่ค่ะ แล้วยิ่งในไอจี เขาโพสต์รุนแรงขนาดที่ในระบบมันแบนไปเลย แล้วส่งรายงานมา คือทรายก็ไม่เคยลงอัพเดตว่าทำอะไรบ้าง คือลงบ้าง แต่น้อยตอนออกกำลังกาย อันนั้นก็โดนเมนต์ไปอีกทางว่าตัวจะแตกแล้ว กล้ามมันลง”

ออกกำลังกายจนนมลด เห็นคนคอมเมนต์ว่า? “ถ้าผอมขนาดนี้ ไม่มีนมเลย คือต้นทางใช้คำแบบนี้ก็รับแรงกดจากผู้ชายไม่ได้น่ะสิ ซึ่งเราแบบ…เหรอวะ คือคนเราสามารถพูดคำแบบนี้ใส่คนที่ไม่ได้รู้จักกันเป็นการส่วนตัวด้วยเหรอ”

แคร์ไหม ที่คนใช้คำนี้ว่าไม่มีนม? “เราเฉยๆ ร่างกายของใครทุกคนรู้ตัวอยู่แล้ว เรามีหุ่น อก สะโพก คือเราไม่ได้เพิ่งเกิดมากับร่างกายนี้ เราเกิดมา 40 กว่าปีแล้ว นี่ก็คือรูปร่างของเราเหมือนกับตอนที่เราเพิ่งทำงานใหม่ๆ ถ้าใครไปย้อนตัวทรายก็ตัวเท่านี้ แล้วไม่ใช่เพิ่งไม่มีนม ฉันไม่ได้แบบจากเคยมีนมแล้วไปตัดนมทิ้ง

คือตัวเท่านี้มาโดยตลอด คือเราก็ใส่ยกทรง ดันทรงนะ แต่ตอนนี้เสื้อในมันกด มันเจ็บ มันอึดอัดเพราะมันใกล้แผลของเรา เลยไม่ใส่บรา มันก็เลยกลับมาสู่สภาพเดิม ดูเป็นตัวแห้งๆ เราก็คิดว่าทำไมเราต้องพยายามดันเพื่อให้เรารู้สึกว่ามีหุ่น ในเมื่อมันก็คือร่างกายของเราที่เรามีมาแบบนี้มาตลอด”

“จริงๆ เรื่องหน้าอก เรื่องหุ่นมันโดนมาเรื่อยๆ ค่ะ แต่อันนี้เรารู้สึกว่ามันคุกคามมันเหมือนเขาเอามาตรฐานเข้ามาตัดสินเราอีก แบบว่าทำนมเลยสิ โดยไม่ได้รู้เลย สมมุติถ้าเราจิตอ่อนมากๆ ไปทำแล้วกันเพื่อให้ทุกคนมีความสุข ก็เท่ากับว่าน้ำหนักที่เราลดมาทั้งหมดมันไม่มีความหมายอะไรเลย เพราะเราก็ไปเพิ่มน้ำหนักซิลิโคนที่นมอีก”

ไม่มีความคิดอยากเสริมนม? “ไม่เลย ทั้งในด้านรูปลักษณ์และในด้านสุขภาพคือไม่มีไอเดีย ไม่ได้มั่นนะว่าสวย แต่เรารู้สึกว่าที่เราเป็นอยู่ทุกวันนี้ เราโอเคแล้ว เราสบายใจ”

ชาวเน็ตเป็นห่วง ผอมจนเห็นซี่โครง? “ไม่รู้จะบอกยังไง เป็นมนุษย์แล้วไหปลาร้าสูง เป็นคนพกไหมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว คือทรายก็ยังไม่เคยเจอศัลยกรรมตัดไหปลาร้านะ คือข้างบนมันไม่มีเนื้อ ก็เลยยิ่งดูผอมมากๆ แบบหูย กระดูก คือเราน้ำหนัก 50 กก. มันก็ไม่ได้น้อยนะ ก็ดูปกติ แต่ก็จะมีคนบอกเพิ่มเนื้อหน่อย เพิ่มกล้ามหน่อย

คือเราเพิ่มไม่ได้เพราะยกของหนักไม่ได้ เราเล่นได้แค่ที่สังขารจะเอื้อ ซึ่งโดยรวมๆ แล้วเราก็เข้าใจว่าเขาเป็นห่วงจริง แต่ก็อยากจะบอกว่าตั้งแต่เริ่มลดมาจนถึงตอนนี้ ไม่เคยหาหมอเลย แข็งแรงมากกว่าตอนน้ำหนักเยอะ โควิด-19 ยังไม่เคยเป็นเลย ปกติจะเป็นหวัด เป็นกรดไหลย้อน ลำไส้อักเสบ ตอนนี้ก็ไม่เป็นอะไรเลย เพราะเราพยายามกินให้มันโอเคขึ้น มีคุณภาพขึ้น แล้วเราก็เลิกดื่มเหล้าไปเลย สุขภาพดีมาก หมอก็แฮปปี้”

ไม่ได้เป็นโรคคลั่งผอม? “ผอมมันไม่ได้สนุกนะ การคุมน้ำหนักจาก 100 คนมันต้องมีสัก 80 คนที่เข้าใจว่าคุมน้ำหนักไม่ใช่เรื่องง่าย แล้วเราไม่ได้ใช้สูตรลด 3 เดือน มันไม่มีอยู่จริง คือใช้เวลาเป็นปีๆ ด้วย คนที่รู้จักก็จะรู้ว่าเราเปลี่ยนไลฟ์สไตล์เพื่อที่จะให้สุขภาพมันดี คือเราก็ตัวเท่านี้ แต่มันอาจจะเป็นเท่าเดิมที่หลายคนลืมไปแล้ว”

ยืนยันว่าไม่ได้เป็นโรค ยังรู้สึกแข็งแรงดี ใช้ชีวิตปกติ? “ใครที่มาเห็นทรายกินข้าวนี่ช็อกนะ เพราะเรากินเยอะมาก เพราะเราจำเป็นต้องกินโปรตีนเพื่อให้มันพอเพียงกับสารอาหารที่จะได้รับในแต่ละวัน ถามว่าคุมน้ำหนักมั้ย ใช่คุมในแง่ที่ไม่กินชาไข่มุกหวาน 100 เปอร์เซ็นต์ ด้วยวัยและสุขภาพ แต่ถามว่าเรากินหมูกะทะ ชาบู คือเรากินทุกอย่างแล้วก็กินเยอะ แบบเยอะเลย

เพราะการลดน้ำหนักมันต้องกินให้มากพอเท่าที่ร่างกายต้องการในแต่ละวัน เราไม่กินเรื่อยเปื่อย ไม่กินมื้อดึก นอนไวไวจะได้ไม่หิวมาเป็นผีตู้เย็น ตอน 5 ทุ่ม เที่ยงคืน แล้วเราก็เลือกดื่ม มันก็เป็นพ็อยที่สำคัญอีกอันหนึ่งที่เกิดการเปลี่ยนแปลง คลั่งผอมนี่อยู่นอกจักรวาลในความคิดเรามาก เราไม่รู้สึกว่าต้องผอมไปกว่านี้ แล้วที่น้ำหนักเท่านี้คือหมอขีดเส้นไว้ว่าต้องกลับมาหนักเท่านี้ เหมือนตอนก่อนผ่าตัด”

อย่างที่หลายคนทราบมาก่อนว่าพี่เคยเป็ยซึมเศร้า มันทำให้เรากินข้าวน้อยลง ทำให้รู้สึกดาวน์ไหม? “ตอนที่ลดได้คือหยุดกินยาซึมเศร้าด้วยค่ะ มันก็ส่งต่อการใช้ชีวิต การจัดวางตารางชีวิต ซึ่งมันก็แล้วแต่ละคนที่กินยาอยู่จะปรับตัวยังไง หลายคนอาจจะเจอปัญหาเดียวกับทรายว่าช่วงที่ออนยามันค่อนข้างคุมน้ำหนักยาก เพราะการกินคือความสุขที่เร็วที่สุด หาได้ง่ายที่สุด

ซึ่งพอออฟยาเราก็พยายามปรับเปลี่ยนตารางชีวิตเพื่อให้มันกลับมาลงตัวที่สุด ถามว่าคอมเมนต์มันส่งผลต่ออารมณ์ ความรู้สึกมั้ย มันส่งผล คือหลายคนพูดมันเหมือนง่ายค่ะ บอกเราว่าอย่าคิดมาก ไม่ต้องไปอ่าน อ่านแต่ข้อความดีๆ เราไม่ได้จัดการได้ง่ายขนาดนั้น แล้วเราก็คิดว่ามันจะไม่วง่ายกว่าเหรอที่คนจะพิมพ์แบบดีๆ

เพราะบางครั้งไม่ได้โจมตีเรื่องรูปร่างอย่างเดียว มันโจมตีความเป็นตัวเราหมดเลย เช่นให้ไปทำนม หรือว่าคลั่งผอม คือมันโจมตีด้วยวิธีคิด วิธีที่เราดูแลตัวเอง เราก็รู้สึกแย่ เพราะก่อนหน้านี้ที่เราน้ำหนักเกิน เรารู้สึกว่าเขาเห็นแล้วสบายตา คุณไม่ได้เป้นคนที่จะต้องไปโรงพยาบาล จ่ายเงินค่ากายภาพทุก 2 เดือน คุณไม่ได้เป็นกรดไหลย้อนแบบที่เราต้องรับมือกับตัวเอง คือคุณไม่รู้อะไรเลย”