09.10 น. 18 ต.ค.67 ที่ ศูนย์ รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ช่วงเช้า (18 ต.ค.67) ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ตำรวจเวรอำนวยการที่ ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ได้สั่งข้าวกะเพราหมูไข่ดาวมาให้บอสพอลทานเป็นมื้อเช้า แต่ไม่รู้ว่าบอสพอลได้ทานหรือเปล่า
ก่อนที่พนักงานสอบสวน บก.ปคบ.จะมาเบิกตัวบอสพอลไปฝากขังศาลอาญาในช่วงเวลา 9 โมง ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เฝ้าห้องขังบอกว่าบอสพอได้นั่งทำสมาธิเพื่อให้จิตใจสงบตลอดทั้งคืน ทั้งนี้เมื่อเวลา 9.30 เจ้าหน้าที่ได้นำตัว “บอสพอล” ขึ้นรถตู้ออกมาเพื่อนำตัวไปฝากขัง สีหน้าอิดโรย ไม่ตอบคำถามสื่อใดๆ
ด้าน “วิฑูร เก่งงาน” ทนายความบอสพอล เผยว่า วันนี้ไม่ยื่นประกันตัวนายวรัตน์พล หรือ บอสพอล เพราะสถานการณ์ตอนนี้ฝุ่นยังตลบอยู่ ตั้งแต่เกิดเรื่องคดีดิไอคอน จึงรอให้ฝุ่นมันจางแล้วค่อยไปขอยื่นประกันตัวอีกครั้ง ตอนนี้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำงานสืบสวนสอบสวนและสอบปากคำผู้เสียหาย รวมไปถึงรวบรวมพยานหลักฐานให้ได้พอสมควรก่อน เพื่อให้ศาลท่านมั่นใจถึงพฤติการณ์ของผู้ต้องหาว่าเราไม่ได้ไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน ซึ่งส่วนตัวมั่นใจว่ายังไงก็ต้องประกันได้
ด้าน พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รอง ผบช.ก. กล่าวถึงการฝากขังบอสพอล เช้าวันนี้ว่า คือ ผู้ต้องหาคนนี้มีประเด็นเยอะ ก็ต้องสอบเยอะ ตอนนี้อยู่ที่อำนาจศาลแล้ว ขอเวลาให้ตำรวจทำงาน เราจะทำงานให้ทางตำรวจคัดค้านการประกัน อื่นๆ ก็ไม่อยากพูดตอนนี้ ขอให้ประชาชนมั่นใจในการทำงานของสอบสวนกลาง
ขณะที่พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รอง ผบช.ก. กล่าวว่า เนื่องจากผู้ต้องหารายนี้ขอให้ปากคำเพิ่มเติมโดยเมื่อคืนสอบปากคำเสร็จประมาณ 20.00 น. เมื่อสอบเสร็จเรียบร้อยก็ควบคุมตัวไว้ก่อนจะนำไปฝากขังในช่วงเช้าที่ผ่านมา ซึ่งหลังจากนี้ผู้ต้องหาก็จะอยู่ในอำนาจศาล และสำหรับประเด็นอื่นๆ ที่ประชาชนยังเกิดข้อสงสัย ขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำงานก่อน โดยจะต้องทำงานอย่างละเอียดรอบคอบที่สุด นอกจากนี้ยังมีการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง การสอบสวนจะทำตามใจหรือรีบร้อนเกินไปไม่ได้เพราะทุกอย่างอยู่ที่พยานหลักฐาน
ยืนยัน ให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นผู้เสียหายหรือผู้ต้องหา เบื้องต้นมีการคัดค้านการประกันตัวเหมือนผู้ต้องหารายอื่น ส่วนประเด็นอื่นๆก็ยังไม่ขอเปิดเผย แต่ขอให้พี่น้องประชาชนมั่นใจการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนกลาง
เมื่อถามว่าคำให้การเพิ่มเติมของบอสพอลมีประโยชน์ต่อรูปคดีมากขึ้นหรือไม่ พล.ต.ต.สุวัฒน์ กล่าวว่า ทางตำรวจไม่ได้หวังพึ่งคำให้การจากผู้ต้องหาอย่างเดียว แต่จะต้องพึ่งพยานเอกสารและคำให้การของผู้เสียหายประกอบสำนวน ซึ่งหลังจากนี้ยังมีอีกหลายอย่างที่ต้องสืบสวนเพิ่มเติม เพราะยังมีผู้เสียหายทยอยเข้ามาเรื่อยๆ
ทั้งนี้ฝากประชาสัมพันธ์ผู้เสียหายสามารถแจ้งความร้องทุกข์ได้ทุกพื้นที่ ซึ่งเมื่อวานนี้ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. ยังสั่งการให้ทุกพื้นที่ตั้งศูนย์รับแจ้งความขึ้นมาเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน โดยที่ บก.ปคบ. มีการจัดพนักงานสอบสวนร่วมสอบปากคำกว่า 100 นาย แต่ก็ยังไม่เพียงพอ
ส่วนการขยายผลไปถึงนักการเมืองหรือข้าราชการสีกากีอื่นที่มีความเกี่ยวข้องหรือไม่นั้น ตนไม่ขอลงรายละเอียด อยู่ในขั้นตอนดำเนินการทั้งหมดที่เป็นไปอย่างละเอียดและรอบคอบ