ทนายอินเดีย ชนะคดีตั๋วรถไฟเกินราคา พนักงานเก็บเพิ่ม 10 บาท เมื่อ 22 ปีก่อน

Home » ทนายอินเดีย ชนะคดีตั๋วรถไฟเกินราคา พนักงานเก็บเพิ่ม 10 บาท เมื่อ 22 ปีก่อน



ทนายอินเดีย ชนะคดีตั๋วรถไฟเกินราคา พนักงานเก็บเพิ่ม 10 บาท เมื่อ 22 ปีก่อน

วันที่ 11 ส.ค. บีบีซี รายงานว่า นายตุงคนาถ จตุรเวท ทนายอินเดีย ชนะคดีตั๋วรถไฟเกินราคาเมื่อเกือบ 22 ปีที่แล้ว หลังถูกเรียกเก็บเงินเพิ่มอีก 20 รูปี (เกือบ 10 บาท) สำหรับตั๋วรถไฟ 2 ใบ ที่นายจตุรเวทซื้อที่สถานีรถไฟฐานทัพในเมืองมถุรา รัฐอุตตรประเทศ ทางเหนือของประเทศ เมื่อปี 2542

ทนายอินเดีย

นายตุงคนาถ จตุรเวท / BBC

ศาลแผนกคดีผู้บริโภคเมื่อสัปดาห์ที่แล้วพิพากษาเห็นชอบกับนายจตุรเวท และขอให้การรถไฟคืนเงินพร้อมดอกเบี้ย

“ผมเข้าร่วมการพิจารณาคดีมากกว่า 100 ครั้งในคดีนี้ แต่คุณไม่สามารถเสียแรงและเวลาที่ผมแพ้การต่อสู้คดีนี้ได้” นายจตุรเวทวัย 66 ปี บอกบีบีซี

 

นายจตุรเวทอาศัยอยู่ในรัฐอุตตรประเทศ ในเวลานั้น เดินทางจากเมืองมถุราไปเมืองโมราดาบัด เมื่อพนักงานจองตั๋วเรียกเก็บเงินเกินราคาสำหรับตั๋วสองใบที่นายจตุรเวทซื้อ จึงแจ้งพนักงานคิดเงินเกินราคา แต่นายจตุรเวทไม่ได้รับเงินคืน

ตั๋วรถไฟมีราคาใบละ 35 รูปี (ราว 15 บาท) แต่เมื่อนายจตุรเวทจ่ายเงิน 100 รูปี (ราว 45 บาท) พนักงานตั๋วกลับทอนเงินเพียง 10 รูปี (ราว 5 บาท) โดยเรียกเก็บ 90 รูปี (ราว 40 บาท) ไม่ใช่ 70 รูปี (ราว 30 บาท)

ดังนั้น นายจตุรเวทตัดสินใจยื่นฟ้องดำเนินคดีกับการรถไฟภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (โครัขปุระ) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการรถไฟอินเดีย และพนักงานจองตั๋วรถไฟในศาลแผนกคดีผู้บริโภคในเมืองมถุรา แต่ใช้เวลาหลายปีเพราะกระบวนการตุลาการในอินเดียดำเนินไปอย่างเชื่องช้า

“การรถไฟยังพยายามยกเลิกคดีนี้ โดยกล่าวว่าการร้องเรียนการรถไฟควรถูกส่งไปศาลแผนกคดีรถไฟ ไม่ใช่ศาลแผนกคดีผู้บริโภค แต่ผมใช้คำพิพากษาของศาลสูงสุดปี 2564 เพื่อพิสูจน์ว่าประเด็นดังกล่าวสามารถได้รับการพิจารณาในศาลแผนกคดีผู้บริโภคได้” นายจตุรเวทระบุ

ทนายอินเดีย

หลังการต่อสู้ที่ยาวนาน คำพิพากษาสั่งให้การรถไฟจ่ายค่าปรับ 15,000 รูปี (บาท) ศาลยังสั่งให้การรถไฟคืนเงิน 20 รูปี ดอกเบี้ยร้อยละ 12 ต่อปี ตั้งแต่ปี 2542-2565 ศาลยังสั่งว่า หากไม่ชำระภายในเวลาที่กำหนด 30 วัน อัตราดอกเบี้ยจะถูกปรับเพิ่มเป็นร้อยละ 15

นายจตุรเวทกล่าวว่า ค่าชดเชยที่เขาได้รับนั้นน้อยนิดและไม่ได้ชดเชยความปวดร้าวทางจิตใจที่เกิดขึ้นจากคดีนี้ นอกจากนี้ ครอบครัวห้ามปรามหลายครั้งในการไล่ตามคดี โดยบอกเป็นการเสียเวลา แต่นายจตุรเวทเดินหน้าต่อไป

 

“เงินไม่ใช่สิ่งสำคัญ นี่เป็นการต่อสู้เพื่อความยุติธรรมและการต่อต้านทุจริตเสมอ จึงเป็นความคุ้มค่า นอกจากนี้ เนื่องจากผมเป็นทนายความเอง ผมไม่ต้องจ่ายค่าทนายความหรือแบกรับค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปศาล ซึ่งอาจแพงมาก” นายจตุรเวทกล่าว

นายจตุรเวทยังเชื่อว่า ไม่ว่าตำแหน่งหน้าที่การงานของบุคคลจะเป็นอย่างไร ไม่สามารถหนีจากการกระทำความผิดได้ หากคนพร้อมที่จะตั้งคำถาม และเชื่อด้วยว่า คดีของเขาจะเป็นแรงบันดาลใจแก่คนอื่นๆ ที่ไม่ต้องการยอมแพ้แม้ว่าการต่อสู้จะดูยากเย็น

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
รถไฟอินเดีย แล่นทับตายหมู่ 16 แรงงาน เผลอหลับบนรางระหว่างเดินกลับบ้าน

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ