ทนายตั้มเชื่อตร.ใช้เวลาไม่เกินครึ่งเดือน สรุปสำนวนแตงโม แจงแม่ขอเป็นผู้จัดการมรดกเร็วไป ย้ำข้อหาประมาทเป็นเรื่องส่วนบุคคล เผยปอกับโรเบิร์ต ไม่ชอบยาขมของตน
วันที่ 4 มี.ค.2565 นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม ซึ่งเดินทางมาพบพนักงานสอบสวนสภ.เมืองนนทบุรีในความคืบหน้าคดีแตงโม-นิดา พัชรวีระพงษ์ได้ออกมาให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน หลังพบตำรวจไป 1 ชั่วโมงครึ่ง โดยเผยว่าตำรวจสนใจประเด็นที่ตนเสนอ และได้บันทึกลงสำนวนแล้ว หลังจากนี้อาจมีการจำลองเหตุการณ์เพิ่มเพื่อพิสูจน์แผลของแตงโมว่าเกิดจากฟินเรือตามที่ตนสงสัยหรือไม่ ซึ่งคาดว่าตำรวจจะใช้เวลาไม่เกินครึ่งเดือนน่าจะปิดคดีได้
ทั้งนี้ก่อนให้ปากคำ ตนบอกว่ามีคนรับสารภาพแล้ว ถือเป็นเรื่องเข้าจ ที่ทราบล่าสุดคือยังไม่มีใครรับสารภาพ ตำรวจได้สอบปากคำผู้เกี่ยวข้องจำนวนมาก บันทึกคำให้การ ทำสำนวนอย่างละเอียด
อ่านข่าว ทนายตั้มพบตร. เผยมีคนสารภาพแล้ว ฝากถึงแม่แตงโม ขอให้เฮง ๆ ปัง ๆ
ส่วนกรณีนางพนิดา ศิริยุทธโยธิน แม่ของแตงโมที่บอกว่าจะเป็นผู้จัดการมรดกนั้น ตนมองว่าเร็วไป ควรให้คดีคลี่คลายสรุปก่อนว่าแตงโมเสียชีวิตอย่างไร ซึ่งการจะเป็นผู้จัดการมรดกนั้น ต้องขอคำสั่งศาล ใช้เวลา 2 เดือน การทำแบบนี้ถือว่าตั้งตัวเองไปก่อน
ด้านประเด็นวิศาพัช มโนมัยรัตน์ หรือแซน ที่ให้การว่าแตงโมจับขาก่อนตกเรือนั้น ต้องเข้าใจว่าข้อหาประมาท ถ้าเกิดจากความตั้งใจ จะมีโทษสูง ถ้าเป็นอุบัติเหตุ โทษก็จะเบาลง ต้องดูคำให้การของแซนว่าจับขาแล้วมีปฏิกิริยาอย่างไร หากแตงโมจับเองแล้วตกไปเอง แซนอาจไม่เข้าข่ายความผิด ซึ่งพยานเหตุการณ์นั้น คงไม่ให้รายละเอียดส่งผลร้ายต่อตัวเองแน่นอน
“ข้อหาประมาท เป็นข้อหาเฉพาะบุคคล ไม่มีข้อหาร่วมประมาท ต่างคนต่างกรรมประมาท ดังนั้นพยานบนเรือ ไม่จำเป็ฯต้องถูกแจ้งข้อหาประมาทร่วมทั้งหมด”
ตนไม่รับเป็นทนายความให้กับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง โดยเฉพาะฝ่ายของพยานทั้ง 5 คนบนเรือ เพราะตอนไปคุยกับทางนายตนุภัทร เลิศทวีวิทย์ หรือ ปอ กับนายไพบูลย์ ตรีกาญจนานันท์ หรือ โรเบิร์ตนั้น ทั้งสองเบือนหน้าหนี หลังตนไปฟันธงว่าทั้งคู่จะถูกดำเนินคดี จึงมั่นว่าทั้งสองไม่พอใจตัวเอง
“บางคนได้ของหวานตามความรู้สึก เมื่อตนให้เอายาขมเข้าไป ก็รับไม่ได้”