สืบเนื่องจากกรณีอุกอาจที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 8 ธันวามคม 2565 ที่ผ่านมา เมื่อเวลา ประมาณ 12.55 น. เกิดเหตุปล้นร้านทอง หน้าโรงเรียนตากพิทยาคม ถนนท่าเรือ ต.ระแหง อ.เมืองตาก จ.ตาก ผู้ก่อเหตุ 4 ราย กับรถจักยานตร์สองคัน ไม่ทราบป้ายทะเบียน ขับมาจอดที่หน้าร้าน ก่อนใช้ปืนยิงเข้าที่ประตูกระจกของร้านทอง ก่อนที่เจ้าของร้านใช้มือลูกซองยิงโต้กลับ ทำให้ผู้ร้ายหลบหนี และได้รับบาดเจ็บสาหัส1ราย เจ้าหน้านำตัวส่งโรงพยายาล ช่วยชีวิตไว้ได้ทัน
ซึ่งทางด้านทนายชื่อดัง อย่างทนายเกิดผล แก้วเกิด เคลื่อนไหวผ่านทางเฟซบุ๊กส่วนตัว ทนายเกิดผล แก้วเกิด ถึงประเด็นการปล้นร้านทองในตัวเมืองจังหวัดตาก อยู่หลายโพสต์ โดยโพสต์แรกเผยว่า จากคดี คนร้ายร่วมกันปล้นทรัพย์ร้านทอง แต่ถูกเจ้าของร้านใช้ปืนยิงสวน ตาย 1 เจ็บ 1 หนีได้ 2
- ปืน คือ สิ่งปกป้องสุจริตชน
- อาชญากร ไม่ใช่ปืน มันคือสันดานคน
- ปืนอยู่ในมือคนดี ก็พร้อมปกป้องคนดี และสังคม
- เมื่อเกิดเหตุกรานยิงคน คนก็ชอบโทษปืน
- ตราบใด ที่รัฐไม่สามารถปกป้องคนดี สุจริตชน ได้ตลอดเวลา 24 ชั่วโมง
- ตราบนั้น ปืน ยังเป็นสิ่งจำเป็นและเหมาะสมไว้ต่อกรกับคนเลว
ป้องกันตัว เจตนาฆ่า หรือ พยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา
โพสต์ต่อมาระบุว่า คนร้ายหนีไปแล้ว ถือว่า ภยันตรายอันละเมิดต่อกฎหมายสิ้นไปแล้วเจ้าของร้านทอง ยิงคนร้ายตายตามกฎหมาย จะต้องรับผิดหรือไม่ เพราะเหตุใด การยิงคนร้ายที่กำลังหนี โดยคนร้ายไม่ได้ต่อสู้ อ้างป้องกันไม่ได้ เพราะเหตุ ภยันตรายอันละเมิดต่อกฎหมายได้ระงับสิ้นไปแล้ว แม้แต่อ้างป้องกันเกินกว่าเหตุ ก็ไม่อาจอ้างได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5638/2533..เมื่อพิเคราะห์ลักษณะบาดแผลที่ #โจทก์ร่วมถูกยิงด้านหลัง#แสดงว่าโจทก์ร่วมถูกยิงขณะกำลังวิ่งหนีออกจากบริเวณบ้านของนายมะพลับ การที่โจทก์ร่วมเข้าไปในบริเวณบ้านของนายมะพลับในเวลากลางคืนโดยไม่มีเหตุสมควรอันเป็นการละเมิดต่อกฎหมาย #แต่เมื่อจำเลยมาพบโจทก์ร่วมก็ได้วิ่งหนีออกมา_เหตุละเมิดดังกล่าวจึงหมดไปแล้ว
#เพราะภยันตรายดังกล่าวพ้นไปแล้ว จำเลยน่าจะใช้วิธีอื่นเพื่อจับกุมตัวโจทก์ร่วมมาดำเนินคดีเท่านั้น #การที่จำเลยใช้อาวุธปืนยิงโจทก์ร่วมด้านหลังขณะที่โจทก์ร่วมกำลังวิ่งหนี จึงไม่ใช่เป็นการกระทำเพื่อป้องกันตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๖๘ การที่จำเลยใช้อาวุธปืนยิงโจทก์ร่วมจำเลยย่อมเล็งเห็นผลของการกระทำนั้นว่าหากกระสุนปืนไปถูกโจทก์ร่วมแล้ว โจทก์ร่วมย่อมได้รับอันตรายถึงแก่ชีวิตได้เพราะเป็นอาวุธที่ร้ายแรง เมื่อการกระทำนั้นไม่บรรลุผลเพราะกระสุนปืนไม่ถูกอวัยวะสำคัญและแพทย์ทำการรักษาโจทก์ร่วมได้ทัน โจทก์ร่วมจึงไม่ถึงแก่ความตาย การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘, ๘๐ และศาลอุทธรณ์ได้ใช้ดุลพินิจลดโทษให้จำเลยหนึ่งในสามนั้นเป็นผลดีแก่จำเลยอยู่แล้ว ศาลอุทธรณ์พิพากษาชอบแล้ว ฎีกาจำเลยฟังไม่ขึ้น
คนใช้อาวุธ ยิงสู้เจ้าของร้าน ถือว่า…..
โพสตต่อมาเป็นโพสต์ที่แนบมากับภาพแชท ที่พูดคุยกับจ่าพิชิต ระบุว่า ถ้ามีภาพชัดขนาดนี้ ว่า คนร้ายบางคนใช้อาวุธยิงต่อสู้เจ้าของร้านทอง ก็ถือว่า ภยันตรายอันละเมิดต่อกฎหมายยังมีอยู่ เจ้าของร้านยิงป้องกันได้ ไม่ผิดกฎหมาย ไม่เป็นการป้องกันเกินกว่าเหตุครับคนร้ายตายฟรี ครับ
และโพสต์ล่าสุด เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2565 ระบุว่า ตามกฎหมาย เมื่อมีการยิงคนตาย ตำรวจจะต้องตั้งข้อหา ต่อเจ้าของร้านทอง ในข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา หรือพยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและเชื่อว่า พนักงานสอบสวน จะมีเห็นความเห็นทางคดี เสนอ สั่งไม่ฟ้อง เพราะเป็นการ ป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมาย ตามกระบวนการต่อไป
ติดตามข่าวสาร Bright Today ช่องทางอื่น ๆ
Website : BRIGHT TODAY
Facebook : BRIGHT TV
Line Today : BRIGHT TODAY