ถ้าไม่จริงจะฟ้องกลับ! น้าเขยถูกกล่าวหาข่มขืนหลานวัย 15 จนท้อง 8 เดือน มอบตัวแล้ว ถ้าตรวจ DNA

Home » ถ้าไม่จริงจะฟ้องกลับ! น้าเขยถูกกล่าวหาข่มขืนหลานวัย 15 จนท้อง 8 เดือน มอบตัวแล้ว ถ้าตรวจ DNA
ถ้าไม่จริงจะฟ้องกลับ! น้าเขยถูกกล่าวหาข่มขืนหลานวัย 15 จนท้อง 8 เดือน มอบตัวแล้ว ถ้าตรวจ DNA

จากกรณีที่มีมารดาและเพื่อนบ้านพาเด็กหญิงวัย 15 ปี ที่กำลังตั้งครรภ์ได้ 8 เดือน เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนของ สภ.บางเสาธง เมื่อช่วงค่ำวันที่ 16 กรกฎาคม 2566 ที่ผ่านมา เพื่อให้ตำรวจติดตามจับกุมตัว น้าเขยที่ก่อเหตุข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหายรายนี้ เหตุเกิดภายในบ้านพักของเด็กหญิงวัย 15 ปี ในพื้นที่ตำบลบางเสาธง อำเภอบางเสาธง จังหวัดสมุทรปราการ

ล่าสุดเมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 18 กรกฎาคม 2566 ที่ สภ.บางเสาธง สมุทรปราการ นายสุรเดช (นามสมมุติ) น้าเขยที่ถูกกล่าวหาว่าข่มขืนหลานสาว ได้เดินทางเข้าพบกับ พ.ต.อ.โสภณ มงคลโสภณรัตน์ ผกก.สภ.บางเสาธง เพื่อมอบตัวและขอต่อสู้คดีในชั้นศาล พร้อมทั้ง ปฏิเสธ ข้อกล่าวหา

นายสุรเดช ผู้ถูกกล่าวหา เปิดใจกับทีมข่าวเราว่า ประเด็นที่บอกว่าหลานเข้ามานอนที่นอนกับตนเองและภรรยานั้นเป็นเรื่องจริง สาเหตุที่หลานสาวเข้ามานอน เพราะว่าหลานเข้ามานอนเล่นกับลูกชายของตนเอง ซึ่งภรรยาและลูกชายนอนอยู่กับตน มีทั้งหลานสาวเข้ามาขอใช้โทรศัพท์ลูกชายเพื่อติดต่อแฟนหนุ่มที่เขาคบกัน เนื่องจากหลานถูกบังคับจากพ่อแม่ไม่ให้ใช้โทรศัพท์

ด้วยความเป็นหลาน ตนเองก็ให้ยืมโทรศัพท์ลูกชายใช้ และไม่ได้คิดเกินเลยอะไร ซึ่งภรรยาผมอยู่ด้วยตลอด และจะเข้ามานอนทุกครั้งเวลาที่ตนเองพาลูกชายไปหาปู่ บางครั้งที่ตนเองเมาจนหลับไปก็ไม่ทราบว่าหลานมานอนด้วย จนตื่นมาแล้วแม่ของหลานสาวมาเรียกจึงทราบว่าหลานเข้ามานอนด้วย

แม่ผิดสังเกตลูกสาววัย 15 ท้องโต ที่แท้ถูกน้าเขยข่มขืน ตั้งครรภ์ 8 เดือน เด็กเครียดอยากตาย

ตนเองยืนยันว่าไม่ได้ข่มขืนกระทำชำเราหลานสาวแต่อย่างใด และหากผลการตรวจ DNA ออกมาหากตรงกับตนเองก็น้อมรับผิด แต่หากไม่ตรงตนเองก็จะใช้สิทธิ์ในการฟ้องกลับเช่นกัน

หลังจากนี้ตนเองถูกพนักงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหาและจะต้องไปขึ้นศาลในวันนี้ทันที สิ่งที่ตนเองกังวลในช่วงที่ต้องรอพิสูจน์ความจริงและรอหลักฐานผลการตรวจ DNA นั้นตนเองจะต้องติดคุกฟรีใช่หรือไม่ เพราะไม่มีเงินประกันตัว แล้วหากผลออกมาว่าตนเองไม่ได้กระทำจริงใครจะรับผิดชอบให้กับตนเอง

ด้าน นางสาว บี (นามสมมุติ) ภรรยาของ นายสรุเดช(นามสมมุติ) ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า ตนเองมั่นใจว่าสามีไม่ได้ทำ เพราะที่ผ่านมาตนเองกับสามีไม่เคยห่างกันเลยแม้แต่วันเดียว ยอมรับว่าหลานสาวเข้าไปนอนด้วยจริง แต่ตนเองก็อยู่ด้วยทุกครั้ง ที่เข้าไปก็จะเข้าไปเล่นกับลูกชายและเล่นโทรศัพท์ และทุกครั้งที่ถูกแม่ด่าก็จะเข้าไปนอนด้วย

ตนเองถามกลับว่าหากพลาดครั้งแรกทำไมหลานไม่บอกกับตนเอง หรือบอกคนอื่นทำไมต้องปล่อยให้พลาดถึง 5-6 ครั้ง ที่ผ่านมาตนเองเตือนและด่ามาตลอด แต่หลานก็ไม่ฟัง

เบื้องต้นพนักงานสอบสวนของ สภ.บางเสาธง แจ้งข้อกล่าวหา ต่อ นายสุรเดช(นามสมมุติ) ในข้อหา ข่มขืนกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี และข่มขืนกระทำชำเราเด็กอายุเกิน 15 ปี แต่ไม่ถึง 18 ปี

เนื่องจากแนวทางสอบสวนและสอบปากคำผู้เสียหายพบว่าเป็นการก่อเหตุในห้วงเวลาที่เหยื่อมีอายุคาบเกี่ยวกัน ก็คือก่อเหตุครั้งแรกในห้วงเวลาที่เด็กมีอายุ 14 ปี ต่อเนื่องจนเด็กเข้าสู่อายุครบ 15 ปี จึงต้องแจ้งสองข้อหา

ด้าน นายสุรเดช(นามสมมุติ) หลังทราบว่าจะต้องไปขึ้นศาลฝากขังผลัดแรกนั้นถึงกับโผล่เข้ากอดลูกชายที่กลางโรงพักทันที่ 

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ