เพราะถูกพี่ชายตบ 2 ครั้ง เด็กสาวจึงแกล้งเป็นอัมพาตมานานเกือบ 20 ปี เผยเบื้องหลังยิ่งสะเทือนใจ เพราะความรักเอาใจใส่ที่มากเกินไป ทำให้ทั้งครอบครัวตกอยู่ในโศกนาฏกรรมโดยไม่จำเป็น
- เป็นอัมพาตเกือบ 20 ปี หลังถูกพี่ชายตบ 2 ครั้ง
ย้อนกลับไปในวันสุดท้ายของเดือนตุลาคม พ.ศ.2532 เป็นช่วงเวลาที่เกษตรกรยุ่งอยู่ของการเก็บเกี่ยว เช่นเดียวกับครอบครัวหนึ่งมณฑลเหอเป่ย์ ทั้งบ้านต่างต่างก็ออกไปทำงานในทุ่งนา ยกเว้นลูกสาวคนสุดท้องที่ในตอนนั้นอายุ 16 ปี เนื่องจากร่างกายไม่แข็งแรง ขณะที่พี่ชายกำลังยุ่งอยู่กับการทำความสะอาดบ้านและเตรียมไปทำงานกับทุกคนในทุ่งนา เมื่อเห็นว่าน้องสาวนั่งเล่นสบายๆ พี่ชายของเขาจึงชักชวนให้ไปที่ทุ่งนากับเขา เพื่อที่จะได้ช่วยทำงานเบาๆ ที่ไม่ยากเกินไป
อย่างไรก็ตาม น้องสาวไม่เพียงปฏิเสธเท่านั้น แต่ยังทิ้งตัวนอนกลิ้งไปบนพื้นร้องไห้และด่าว่าพี่ชายต่างๆ นาๆ ในช่วงเวลาแห่งความโกรธ พี่ชายระงับอารมณ์ไม่ได้และลงมือตบหน้าน้องสาว 2 ครั้ง โดยไม่คาดคิดว่าหลังจากนั้นร่างกายของน้องจะชักกระตุก มีน้ำลายฟูมปาก และในที่สุดก็ล้มลงกับพื้นโดยไม่เคลื่อนไหวใดๆ ทั้งครอบครัวก็รู้สึกหวาดกลัวอย่างยิ่งและรีบนำตัวไปโรงพยาบาลเขต ซึ่งเมื่อฟื้นขึ้นมาเด็กสาวก็เอาแต่บอกว่าขยับตัวไม่ได้ แม้แพทย์ตรวจหลายครั้งและยืนยันว่าไม่มีปัญหาใดๆ
“ฉันไม่รู้สึกอะไรเลย ร่างกายไม่มีแรงเหลือแล้ว ” เด็กสาวเอาแต่พร่ำบอก กระทั่งทุกคนในครอบครัวค่อยๆ ยอมรับว่าเธอเป็นอัมพาต และทำได้เพียงคอยดูแลเธอที่นอนอยู่บนเตียงเท่านั้น
- ผ่านมาเกือบ 20 ปี ละครฉากใหญ่ถูกเปิดเผย
หลังจากต้องนอนบนเตียง และต้องพึ่งพาครอบครัวให้คอยดูแลมาเกือบ 20 ปี ชีวิตครอบครัวที่มีไม่มากก็กลายเป็นภาระมากขึ้นไปอีก แต่ทั้งครอบครัวก็ยังคงสนับสนุนซึ่งกันและกันเพื่อเอาชนะความยากลำบากเหล่านี้ กระทั่งในปี พ.ศ.2550 ผู้เป็นแม่เสียชีวิตหลังจากป่วยหนัก ทางด้านพ่อและพี่ชายที่ดูแลคนป่วยมาเป็นเวลานาน อีกทั้งสถานะทางการเงินของก็ค่อยๆ ตกต่ำลง แต่เนื่องจากความสัมพันธ์ทางสายเลือดอันล้ำค่าที่ไม่อาจละทิ้งได้ ในที่สุดทั้งคู่ก็ตัดสินใจออกไปทำงานไกลบ้าน เพื่อหารายได้เพิ่มขึ้น
ช่วงที่พ่อและพี่ชายไม่ค่อยอยู่บ้านนี้เองได้มีเรื่องแปลกๆ เกิดขึ้น ลูกสาวของพี่ชายบอกพ่อแม่ของเธอด้วยความหวาดกลัวว่าว่า “เห็นอาเดินไปรอบๆ บ้านหลายครั้ง” เธอยังบอกด้วยว่าวันหนึ่งเธอกลับมาจากโรงเรียนและเห็นคุณอายืนนิ่งอยู่ใกล้ๆ เตียง ในตอนนั้นพวกเขาไม่เชื่อคำพูดของเด็กหญิงตัวเล็กๆ กระทั่งเช้าวันหนึ่งที่พี่ชายกลับบ้านมาและเห็นเงาแปลกๆ ในบ้าน ตอนแรกนึกว่าเป็นหัวขโมย สิ่งต่างๆ เริ่มแปลกมากขึ้นเมื่อห่อถั่วลิสงในบ้านเหลือน้อยลง และทีวีในบ้านก็เปลี่ยนช่องเองบ่อยๆ สุดท้ายพี่ชายจึงตัดสินใจติดกล้องวงจรปิดภายในบ้าน
เมื่อตรวจสอบกล้องก็ต้องตกตะลึงเมื่อพบความจริงว่าสิ่งแปลกๆ ทั้งหมดเกิดขึ้นด้วยฝีมือ “น้องสาว” ของเขาเอง เธอเดินไปรอบๆ บ้านได้อย่างสบายๆ นั่งดูทีวีและกินถั่วคนเดียวอย่างสนุกสนาน อย่างไรก็ดี เมื่อไปถามตรงๆ น้องสาวกลับยังปฏิเสธ เขาจึงต้องพาเธอไปเซี่ยงไฮ้เพื่อตรวจที่โรงพยาบาลอีกครั้ง จากการตรวจอย่างละเอียด แพทย์ชี้ให้เห็นว่าผู้ที่เป็นอัมพาตระยะยาวจะมีกล้ามเนื้อลีบ แต่กล้ามเนื้อแขนและขาของเธอยังปกติดี จิตใจยังแจ่มใสและตื่นตัวมากโดยไม่มีปัญหาใดๆ ในที่สุด แพทย์ก็ให้ผลสรุปว่าเธอแกล้งทำเป็นเป็นอัมพาตมาเกือบ 20 ปีแล้ว
- โศกนาฏกรรมมาจากการศึกษาที่ไม่ถูกต้องของพ่อแม่
เป็นเวลาเกือบ 20 ปีของการแกล้งเป็นอัมพาต ไม่เพียงแต่ทำให้ครอบครัวของเธอตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากเท่านั้น แต่เธอยังทำลายอนาคตของเธอเองด้วย ซึ่งจากการตรวจสอบและวิเคราะห์ นักจิตวิทยาได้แสดงให้เห็นว่าสาเหตุที่เธอแกล้งเป็นอัมพาตนั้น มาจากการศึกษาที่ไม่ถูกต้องของพ่อแม่ของเธอ
ตามที่พี่ชายเล่า น้องสาวมีระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ เธอจึงไอและป่วยบ่อยครั้ง และเนื่องจากเป็นลูกคนเล็กในครอบครัว จึงได้รับการเอาใจใส่จากพ่อแม่เป็นอย่างมาก ได้รับการดูแลจากญาติๆ มาตั้งแต่เด็ก การถูกเอาอกเอาใจมากเกินไปทำให้เด็กผู้หญิงมีพัฒนาการทางสติปัญญาและจิตใจที่บิดเบี้ยว ได้รับการดูแลจากญาติๆ มาตั้งแต่เด็ก ตั้งแต่งานเล็กๆ เช่น สระผม หั่นแตงเป็นชิ้นเล็กๆ และให้อาหาร แม่ของเธอยังทำทุกอย่างเพื่อเธออีกด้วย การถูกเอาอกเอาใจมากเกินไปทำให้เด็กผู้หญิงมีพัฒนาการทางสติปัญญาและจิตใจที่บิดเบี้ยว เธอเชื่อว่าญาติๆ ควรปฏิบัติต่อเธออย่างดี รัก และดูแลเธอเสมอ เมื่อไม่ได้สิ่งที่ต้องการจึงมักร้องไห้เพื่อเรียกร้องมัน
- คำพูดปลุกใจสาวที่แกล้งเป็นอัมพาตมานาน 20 ปี
เมื่อเผชิญหน้ากับความจริงที่ไม่น่าเชื่อ พี่ชายก็ประหลาดใจอย่างมาก ทั้งรู้สึกโกรธและเจ็บปวดจากการถูกหลอกมานานหลายปี เขายืนอยู่ต่อหน้าน้องสาวที่แสร้งทำเป็นเป็นอัมพาตมาเกือบ 20 ปี และถามคำถามที่ทำให้น้องต้องครุ่นคิดอยู่เงียบ ๆ ว่า “เธอเคยมองย้อนกลับไปแล้วรู้สึกเสียใจต่อคนที่รักเธอบ้างไหม แม้ว่าแต่แม่ก็ยังไม่สามารถตายอย่างสงบ เพราะแม่คอยเป็นห่วงเธอมาตลอด ไม่รู้สึกเสียใจกับแม่บ้างเลยเหรอ?”
เมื่อต้องเผชิญกับคำถามของพี่ชาย ดูเหมือนน้องสาวจะตื่นขึ้นจากความเห็นแก่ตัวของเธอเอง เธอแค่รับรู้ว่าเธอจะต้องได้รับการดูแลเช่นนั้น แต่ไม่คิดว่าจะทำให้คนที่เธอรักต้องทนทุกข์ทรมานเช่นนี้ สุดท้ายจึงกล่าวขอโทษทุกคน และสัญญาว่าจะชดเชยความผิดพลาดของตนเอง ซึ่งโชคดีที่ญาติๆ ตัดสินใจให้โอกาสเธอ ดังนั้นหลังจากได้รับการรักษาทางจิตโดยได้รับการสนับสนุนจากพี่ชาย เธอจึงสามารถกลับคืนสู่ชุมชนอีกครั้งและทำสิ่งที่มีประโยชน์ต่อคนอื่นๆ บ้าง