ถูกทอดทิ้ง! 8 ชีวิตติดโควิดทั้งบ้านไร้เงาจนท.เหลียวแล อาหารหมดครัวแล้ว

Home » ถูกทอดทิ้ง! 8 ชีวิตติดโควิดทั้งบ้านไร้เงาจนท.เหลียวแล อาหารหมดครัวแล้ว


ถูกทอดทิ้ง! 8 ชีวิตติดโควิดทั้งบ้านไร้เงาจนท.เหลียวแล อาหารหมดครัวแล้ว

ตัดพ้อ ถูกทอดทิ้งหลังติดโควิดทั้งครอบครัว 8 ชีวิตรับผิดชอบต่อสังคมกักตัวอยู่ในบ้านนานกว่าสัปดาห์ ไร้เงาเจ้าหน้าที่เข้ามาสอบถามอาการ อาหารที่มีอยู่หมดแล้ว เกือบต้องออกไปซื้อหา โชคดีเพื่อนบ้านคอยส่งข้าวส่งน้ำ

วันที่ 1 เม.ย.2565 ผู้สื่อข่าวรายงาน มีผู้ใช้เฟซบุ๊กโพสต์ตัดพ้อถูกทอดทิ้งหลังติดโควิดยกครอบครัว ต้องกักตัวในบ้านรวม 8 คน มานานกว่า 1 สัปดาห์ ไม่มีเจ้าหน้าที่เข้ามาสอบถามอาการ เพื่อนบ้าน หมู่ 3 ต.ริมใต้ อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ต้องช่วยกันส่งอาหารให้

โดยเรื่องนี้ นางฐิติชยา อายุ 42 ปี ผู้โพสต์ เปิดเผยว่า ครอบครัวทั้ง พ่อ แม่ ป้า และ ลูกชายวัย 3 ขวบ รวม 8 คน กักตัวอยู่ในบ้านพักหลังติดโควิด 19 กันทั้งหมด เริ่มกักตัวตั้งแต่วันที่ 24 มี.ค.ที่ผ่านมา ไม่มี อสม. เจ้าหน้าที่ รพ.สต. หรือ เจ้าหน้าที่อื่นเข้ามาดูแลสอบถามอาการ ไม่มีการสนับสนุนอาหารการกิน หรือ ให้คำแนะนำในการรักษาตัวที่บ้าน ทำให้รู้สึกเหมือนถูกทอดทิ้ง ปล่อยให้ต่อสู้กับโรคโควิดเพียงลำพัง

 ติดโควิดทั้งครอบครัว

นางฐิติชยา เล่าต่อว่า ป้าที่อยู่บ้านอีกหลังในรั้วเดียวกันติดโควิดวันที่ 24 มี.ค. หลังตรวจเอทีเค เราพาป้าไปตรวจ RT-PCR ที่รพ.นครพิงค์ รพ.ให้ยาฟาวิพิราเวียร์พร้อมอุปกรณ์วัดออกซิเจนเพื่อเข้าระบบรักษาตัวที่บ้านหรือ HI หลังจากนั้นทุกคนในบ้านก็ทยอยติดกันครบทุกคน คนล่าสุดคือพ่อ อายุ 67 ปี ตรวจพบเชื้อวันที่ 29 มี.ค.ทำให้ทุกคนในบ้านต้องกักตัวต่อไปอีก 10 วัน จนถึงวันที่ 7 เม.ย. ทุกคนได้รับผิดชอบต่อสังคมด้วยการกักตัวอยู่แต่ในบ้าน

” แต่จนถึงวันนี้ก็ไม่มีใครมาเหลียวแล อสม.ในหมู่บ้านก็ไม่เข้ามาสอบถามหรือแนะนำอะไร ทุกคนต้องดูแลกันเอง ส่วนอาหารแต่ละมื้อช่วงแรกที่มีอยู่ก็ทำกินกันจนหมดจึงเตรียมออกจากบ้านไปหาซื้อ แต่โชคดีที่เพื่อนบ้านช่วยเหลือนำอาหารมาวางบนโต๊ะหน้าบ้านให้

หากไม่มีน้ำใจจากเพื่อนบ้านก็ไม่รู้จะอยู่กันอย่างไร เรื่องที่เกิดขึ้นทำให้รู้สึกเหมือนกับถูกทอดทิ้งจากทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าใจดีว่าโควิดกำลังจะกลายเป็นโรคประจำถิ่น แต่ก็อยากให้ อสม.หรือหน่วยงานด้านการแพทย์ดูแลผู้ป่วยในระบบ HI ให้มากกว่านี้ ”

 ทั้งครอบครัว

นางฐิติชยา กล่าวต่อว่า เชื่อว่ายังมีอีกหลายคนที่ประสบปัญหาเดียวกัน และจำนวนไม่น้อยที่ต้องออกไปซื้อหาอาหารหรือแม้กระทั่งยาบรรเทาอาการด้วยตัวเองทั้งที่เป็นผู้ติดเชื้อ ซึ่งก็เป็นห่วงว่าจะกลายเป็นการแพร่กระจายเชื้อไปให้มากขึ้น บางครอบครัวมีแต่ผู้สูงอายุหรือคนที่ไม่มีความรู้เมื่อเกิดอะไรขึ้นก็จะเกิดความสูญเสีย อยากให้มีการปรับปรุงระบบการดูแลให้ดีกว่านี้

 

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ