สืบเนื่องจากกรณีข่าวเศร้ากับการจากไปของ หมอกฤตไท เจ้าของเพจ สู้ดิวะ หลังจากเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา คุณพ่อของหมอกฤตไท ได้โพสต์แจ้งข่าวร้ายนี้ผ่านเฟซบุ๊ก ไทภัทร ธนสมบัติกุล  ซึ่งโพสต์เป็นรูปภาพแคปเจอร์หน้าจอ และมีรูปหมอกฤต พร้อมกับเวลา 10.59 น. และระบุข้อความประกอบภาพว่า “เดินทางปลอดภัยครับ ลูกชาย #สู้ดิวะ” ทั้งนี้หลายๆเพจและทั่วโลกโซเชียลต่างอาลัยในการจากไปครั้งนี้ของหมอกฤต อาทิ เพจ นักเกรียน สวนกุหลาบ ที่ได้โพสต์ข้อความว่า “เช้าวันนี้น้องกฤตไท ได้จากพวกเราไปแล้ว ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวและเพื่อนๆของน้องด้วยครับ ขอบคุณสำหรับสิ่งดีๆที่น้องได้ทำให้พวกเรา สวนกุหลาบไม่ลืมน้องครับ”

ซึ่งหากย้อนกลับไปในครั้งแรกที่พวกเราได้รู้จัก เพจสู้ดิวะ ในตอนนั้น หมอกฤตไท ได้โพสต์ข้อความที่ถูกแชร์ไปทั่วโลกโซเชียล กับข้อความที่ว่า “สวัสดีครับ ผมเป็นมะเร็งปอดครับ” โดยจากโพสต์นั้นของหมอ ทำให้หลายๆคนฉุกคิดได้ว่า ชีวิตของเราแม้จะดูแลดีเพียงใด แต่ไม่อาจที่จะหลีกหนีโรคร้าย หรือเลี่ยงสิ่งที่เรากำหนดไม่ได้ เพราะในตอนนั้น เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2566 ที่ผ่านมา หมอกฤตไท ได้เล่าว่า

หมอมั่นใจในสุขภาพของตัวเองมากๆ ทั้งออกกำลังกายสม่ำเสมอ เล่นกีฬา กินอาหารคลีน ไม่สูบบุหรี่ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก็น้อยมากๆ ทำงานในสภาพแวดล้อมที่ไม่เครียด นอน 4 ทุ่ม ตื่น 6 โมงเช้ามาอ่านหนังสือ ทำวิจัย สอนนักศึกษา ไม่ได้เข้าเวรอดนอนอะไรเลย แต่แล้วโรคนี้กลับมาเล่นงานหมอจนได้

• อาลัย! ‘หมอกฤตไท’ สู้ดิวะ ผู้ป่วยมะเร็งระยะ 4 นานนับปี จากไปอย่างสงบ

• กำลังใจครั้งใหญ่ สแตนด์เชียร์สวนกุหลาบ แปรอักษรเป็นรูป หมอกฤตไท ‘สู้ดิวะ’

• หมอกฤตไท จากเพจ สู้ดิวะ โพสต์ตัดพ้อ แพ้สุดทางแล้วว่ะ

ซึ่งหลังจากโพสต์นั้นทำให้ หมอกฤตไท ได้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย ในนามของหมอผู้ให้กำลังใจและ หมอกฤตไท ก็ได้เขียนหนังสือออกมาหนึ่งเล่ม ซึ่งหนังสือเล่มนั้นมีชื่อเหมือนกับเพจ นั้นคือ สู้ดิวะ โดยในหนังสือเล่มนี้ได้รวมเรื่องราวชีวิต และแนวคิดของหมอ ที่จะทำให้ผู้อ่านได้มีแรงบันดาลใจ ลุกขึ้นสู้กับสิ่งเลวร้ายในชีวิต วันนี้ถึงแม้ หมอกฤตไท จะจากไป แต่เชื่อเหลือเกินว่าคำสอนของหมอ จะยังคงอยู่ในหนังสือ สู้ดิวะ และอยู่กับพวกเราตลอดไป ซึ่งหากใครได้อ่านคงมีแรงฮึดสู้กับชีวิตกันอีกครั้ง

10 บทเรียนในหนังสือ สู้ดิวะ

• ความสุขไม่ได้อยู่ที่ปลายทางถ้าเกิดเกิดขึ้นระหว่างทางที่เราเดินไป เรามีความสุขได้ในทุกวัน ระหว่างเดินไปยังเป้าหมาย

• ปล่อยวางอดีต แล้วอยู่กับปัจจุบันตรงหน้ามันเกิดขึ้นแล้วไม่ว่าเพราะอะไรมันเกิดขึ้นแล้วยอมรับมันแล้วไปกันต่อ

• การคิดว่า “ทำไมต้องเป็นเรา” นอกจากไม่ทำให้อะไรดีขึ้นแล้ว ยังทำให้สภาพจิตใจและความหวังในชีวิตลดลงด้วย

• จงยอมรับสิ่งที่เข้ามาในชีวิตและมองมันเป็น “ของขวัญ” ให้ได้

• พวกคำว่า “สู้ๆ นะ สู้ต่อไป สู้ดิวะ” คำพวกนี้ บางทีมันอาจไปทำให้หลายคนรู้สึกว่า “นี่กูยังสู้ไม่พอเหรอ” หรือ “ลองมาเป็นกูดูไหมล่ะ”

• เราเป็นคนธรรมดาคนนึง ที่วันนึงก็ต้องจากโลกนี้ไป แบบไม่มีทางหลีกเลี่ยงได้

• เวลาเราไม่ได้มีมากพอให้เราไปทำหรือมีทุกอย่างในโลก

• ถ้าเรายอมรับอย่างจริงใจได้ว่า “เราต้องตายนะเว้ย สุดท้ายเราจะตาย และมันอาจเป็นวันนี้ก็ได้

• ความสงบคือความสุขได้เรียนรู้ว่าชีวิตที่เรียบง่ายคือชีวิตที่คุ้มค่าได้เรียนรู้ว่าชีวิตธรรมดาคือชีวิตที่มีความหมาย

• การปฏิเสธสิ่งที่เกิดขึ้น นอกจากทำให้ทุกข์แล้วจะยิ่งทำให้ไม่สามารถก้าวไปข้างหน้าได้ และไม่สามารถมีความสุขกับปัจจุบันได้ด้วย