จากกรณีไอซ์ รักชนก ศรีนอก กลุ่มพลังคลับเฮาส์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กเล่าว่าถูก ต้อม ยุทธเลิศ สิปปภาค ผู้กำกับชื่อดัง ตบหน้าและถีบท้อง หลังนัดเคลียร์ใจถึงปัญหาเรื่องม็อบการเมือง เมื่อวันที่ 21 พ.ย. ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งย่านคลองสาน

ล่าสุด ‘ต้อม ยุทธเลิศ’ เปิดเผยกับทีมข่าวเรื่องเล่าเช้านี้ว่า วันเกิดเหตุเป็นการจัดกิจกรรมเอ็กซ์คลู ซีฟ มีทติ้ง กับผู้จัดรายการ “ส่องทวีตยามเช้า” และแขกรับเชิญพิเศษ จัดขึ้นบนเรือ Prusk Criuse เทียบท่าที่โครงการเดอะ แจม แฟคตอรี่ (The Jam Factory) ย่านคลองสาน ก่อนจะขึ้นเรือระหว่าง ที่ตนนั่งคุยกับคนอื่นอยู่นั้น คู่กรณีเดินไปมาให้ตนเห็น ไม่แน่ใจเขาจะมาลงเรือด้วยหรือไม่ ก็ไม่ได้อะไร แต่ตนไม่อยากเจอคู่กรณี

ตนเป็นแขกที่จะต้องลงเรือและไม่อยากเจอคู่กรณีบนเรือ หลังจากที่ตนลงเรือแล้วก็ขึ้นไปอยู่ชั้นบนของเรือ ปรากฎว่าผู้จัดงานคนหนึ่งได้พาคู่กรณีขึ้นมาบนเรือ เพื่อให้มาเคลียร์ปัญหากับตน ตนเห็นก็รู้สึกโกรธผู้จัดงานคนดังกล่าวเพราะตนไม่อยากเจอคู่กรณี ซึ่งผู้จัดงานคนนี้เมาไม่รู้เรื่องก็ไม่บอกให้ตนทราบว่าจะคู่กรณีขึ้นมาบนเรือ ตนไม่รู้จะพูดยังไง ก็ทักทายคู่กรณี ทั้งที่ตนกับคู่กรณีมีปัญหากันมานาน คู่กรณีแซะตนเรื่อยมา ตนไม่อยากเจอถึงขั้นบล็อกโซเชียลทุกช่องทาง ไม่อยากยุ่งกับคู่กรณี เลี่ยงได้จะพยายามเลี่ยง

ถ้ารู้ว่าคู่กรณีจะขึ้นเรือ ตนจะไม่ขึ้น ตนไม่อยากเจอ ไม่ต้องการเคลียร์ปัญหากับคู่กรณี อารมณ์ บรรยากาศบนเรือ ตนพูดคุยกับคู่กรณีไม่กี่คำก็ขึ้นมึงกูใส่กันทั้งคู่ เพราะเคยมีปัญหากัน เรื่องคู่กรณีตั้ง รูปดิสเพลย์คลับเฮาส์เป็นภาพข้อความ “ต้อม ยุดเลิด เคยขอโทษพี่ทรายกับเอมี่หรือยัง?” ตนโกรธเรื่องนี้เพราะเป็นเรื่องใหญ่ เพราะมีการเซ็ทอัพว่าตนเป็นคนส่งคลิปบางอย่างให้แอมมี่เข้าคุก ตนโดนใส่ความ

ทั้งนี้บนเรือในคืนเกิดเหตุ คู่กรณีขึ้นมานั่งเห็นตนก็พูดว่า “เหมือนมาเฟียฮ่องกงเลยนะข้างบนนี้” และก็ได้พูดเพื่อให้ตนไปขอโทษ แอมมี่ หรือนายไชยอมร แก้ววิบูลย์พันธุ์ นักร้องวงเดอะบอททอม บลูส์ และ ทราย อินทิรา เจริญปุระ ในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับความเคลื่อนไหวทางการเมือง ขณะที่ตนกับคู่กรณีอยู่บนเรือ มีการโต้เถียงด่าทอกันด้วยคำหยาบ ตนพูดกับคู่กรณีว่า “เสือกอะไร” คู่กรณีตอบกลับ “แล้วมึงเสือกอะไร”

หลังจากนั้นก็เกิดเหตุชุลมุน หลังจากกระทบกระทั่งกัน ด่ากันรุนแรง ตนพยายามจะขอลงจากเรือ จะเดินหนีเพื่อกลับบ้าน อยู่ไปอาจทำให้เรื่องบานปลาย เพราะตนรู้ว่าเริ่มควบคุมตัวเองไม่ได้ พอเดินลงจากเรือ คู่กรณีก็เดินตามพูดว่า “มึงจะไปไหน มึงมาเคลียร์กับกู” ตนจึงพยายามควบคุมตัวเองตอบกลับไปว่า “’งั้นกูขอโทษมึง มึงขอโทษกู จบมั้ย ” คู่กรณีพูดว่า “ไม่จบ คนอย่างมึงต้องกราบตีนกู” พอได้ยินคำนี้ตนก็พยายามเดินหนีเพื่อจะกลับบ้าน

‘ต้อม ยุทธเลิศ’ ยอมรับว่าตัวเองมึนเมา จำไม่ได้ ทำอะไรลงไปบ้าง ส่วนที่คู่กรณีอ้างว่าโดนตบหน้า 2 ครั้ง และโดนถีบท้อง ตนขอดูหลักฐานก่อน ไม่ใช่ตบหน้า 2 ครั้งแน่นอน ช่วงนั้นมันชุลมุนมาก เขาบอกมีหลักฐาน แต่ตนจำเหตุการณ์ไม่ได้ ยอมรับว่าสติหลุดพอสมควร ขอโทษทุกคน เราไม่ได้อยากให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้น สถานการณ์ทำให้ตนตั้งตัวอะไรไม่ได้ เกิดขึ้นเร็วมาก คนอยู่บนเรือเต็ม มีทั้งเพื่อนของตนและเพื่อนคู่กรณี ยืนยันไม่ได้นัดเคลียร์ใจ และตนไม่ได้เรียกคู่กรณีขึ้นมาเคลียร์กันบนเรือ

หลังเกิดเหตุคู่กรณีได้ไปแจ้งความ ผิดคือผิด ว่ากันไปตามผิด ถ้ามีหลักฐานก็ยินยอมรับผิด ตนไม่รู้หลักฐานที่คู่กรณีมีคืออะไร เรื่องนี้ถ้าตนกับคู่กรณีขอโทษกันก็จบ จะให้ขอโทษก็ไม่มีปัญหา แต่คู่กรณีไม่รับคำขอโทษ จะให้ตนกราบเท้า แบบนี้มันไม่ไหว ตนไม่สามารถทำได้ จะให้กราบเท้า ตนไม่กล้าหรอก สุดท้ายเรื่องก็ไปอยู่ที่โรงพัก ถ้าตนผิดก็ว่ากันไปตามกฏหมาย ไม่มีปัญหา

ตอนนี้ตำรวจยังไม่ได้ติดต่อมาหา หากมีหมายเรียกก็พร้อมเข้าให้ปากคำ หลังเกิดเหตุก็ไม่ได้ติดต่อกับคู่กรณีแต่อย่างใด เรื่องถึงตำรวจแล้ว น้อมรับยินดีรับผิดชอบทุกอย่าง ไม่หนี ถ้าเป็นความผิดที่เกิดขึ้นจริง ยอมรับส่งผลกระทบต่อตัวเอง เหตุที่เกิดขึ้นตนอยู่ในสภาวะที่คอนโทรลตัวเองไม่ได้ ถือเป็นบทเรียน สุดท้ายมาเจอกันแบบนี้ในเวลาที่ต่างฝ่ายต่างมีอารมณ์ ขาดสติ ตนก็อยู่ในสภาพไม่เต็มร้อย ก็มานั่งคิดว่าทำไมตัวเองต้องไปอยู่ตรงจุดนั้น มันไม่คุ้มจริง ๆ ทำให้รู้ว่า “โกรธคือโง่ โมโหคือบ้า” ณ วันนั้นมันเป็นแบบนั้น ภาพออกมาทำร้ายผู้หญิงยังไงก็ผิดอยู่แล้ว มีอะไรก็ไปเคลียร์กันที่โรงพัก ไม่อยากเคลียร์กันที่โซเชียล พูดต่อกันไปมา มันไม่จบ เรื่องคดีขึ้นอยู่กับตำรวจ