ต้อนรับอบอุ่น! "พงศกร แปยอ" พร้อมทัพนักกีฬาพาราลิมปิกไทย ชุด 2 เดินทางถึงภูเก็ต

Home » ต้อนรับอบอุ่น! "พงศกร แปยอ" พร้อมทัพนักกีฬาพาราลิมปิกไทย ชุด 2 เดินทางถึงภูเก็ต

“เจ้ากร”พงศกร แปยอ เจ้าของ 3 เหรียญทองประวัติศาสตร์พาราลิมปิก 2020  นำทัพนักกีฬาคนพิการไทยชุดที่สองเดินทางถึงภูเก็ตโดยสวัสดิภาพ ท่ามกลางพิธีต้อนรับอย่างอบอุ่นและสมเกียรติ และเตรียมรับเงินอัดฉีดร่วม 115 ล้านบาทจากผลงาน 5 เหรียญทอง 5 เหรียญเงิน 8 เหรียญทองแดง

เมื่อวันที่ 6 กันยายน ที่ผ่านมา ที่ท่าอากาศยานภูเก็ต  สายการบินสิงคโปร์แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ SQ736 ได้นำคณะนักกีฬาคนพิการทีมชาติไทย พร้อมเจ้าหน้าที่และสต๊าฟโค้ช จำนวน 68 คน เดินทางมาถึงท่าอากาศยานภูเก็ต โดยสวัสดิภาพ ทันทีที่เสร็จสิ้นพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและเข้ารับการตรวจคัดกรองโรคโควิด-19 เป็นที่เรียบร้อย
x2
นายเขมพล อุ้ยตยะกุล เลขานุการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาและนายทนุเกียรติ จันทร์ชุม รองผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย ฝ่ายกีฬาอาชีพและกีฬามวย พร้อมทั้ง นางโปรดปราน สมานมิตร รองผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย ฝ่ายยุทธศาสตร์และเทคโนโลยีสารสนเทศ, นายอำนวย กลิ่นอยู่ รองประธานคณะกรรมการพาราลิมปิกแห่งประเทศไทยปฏิบัติหน้าที่แทนประธานคณะกรรมการพาราลิมปิกแห่งประเทศไทย, นายชูเกียรติ์ สิงห์สูง นายกสมาคมกีฬาคนพิการแห่งประเทศไทย และนายยุธยา จีนหีต ผู้อำนวยการสำนักผู้ว่าการ การกีฬาแห่งประเทศไทย ได้ร่วมกันทำพิธีต้อนรับคณะนักกีฬาคนพิการไทยอย่างอบอุ่นและสมเกียรติ พร้อมทั้งได้มอบช่อดอกไม้ และ“น้องจุ้ง” ตุ๊กตามาสคอตของจังหวัดภูเก็ตให้เป็นของที่ระลึก จากนั้นคณะนักกีฬาคนพิการทีมชาติไทยก็ได้เดินทางเข้าสู่ที่พักเพื่อกักตัว 14 วัน ตามมาตรการการป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19
x6ด้าน “เจ้ากร” พงศกร แปยอ เจ้าของ 3 เหรียญทองพาราลิมปิก โตเกียวเกมส์ 2020 กล่าวว่า รู้สึกดีใจที่ได้สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทย และภาคภูมิใจที่สามารถทำลายสถิติได้ทุกรายการ ต้องขอบคุณชาวไทยทุกคนที่ส่งแรงใจไปเชียร์นักกีฬาคนพิการทีมชาติไทย ซึ่งเป้าหมายต่อจากนี้ก็จะเริ่มเตรียมความพร้อมสำหรับพาราลิมปิกเกมส์ที่กรุงปารีส ในอีก 3 ปีข้างหน้า โดยจะตั้งใจฝึกซ้อมเพื่อป้องกันแชมป์ให้ได้  ขอขอบคุณการกีฬาแห่งประเทศไทย บริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น กองทุนพัฒนาสังคม กองทุนพัฒนากีฬาแห่งชาติ ,คณะกรรมการพาราลิมปิกแห่งประเทศไทย และสมาคมกีฬาคนพิการแห่งประเทศไทย ที่ได้ให้การสนับสนุนนักกีฬาคนพิการจนประสบความสำเร็จในการแข่งขันครั้งนี้

โดยนักกีฬาที่เดินทางกลับชุดนนี้ ประกอบไปด้วย นักกรีฑาลู่-ลาน-วีลแชร์เรซซิ่ง, เทเบิ้ลเทนนิส, ทีมฟุตบอลตาบอล, นักยิงธนู, นักว่ายน้ำ, นักเทควันโด รวมเจ้าหน้าที่และโค้ช รวม 68 คน และจากนั้นนักกีฬาชุดสุดท้าย จะกลับในวันที่ 7 ก.ย.64 ประกอบด้วย นักแบดมินตัน, นักบอคเซีย, นักวีลแชร์เทนนิส, นักยิงปืน รวมอีก 54 คน โดยสายการบินเดียวกัน และจะถึงจังหวัดภูเก็ต ในวันที่ 8 ก.ย.64 เวลา 9.25 น. ตามเวลาไทย ซึ่งทั้งหมดเข้ากักตัวที่จังหวัดภูเก็ต ในโครงการ “ภูเก็ต แซนด์บ๊อก” ต่อไป
x5
สำหรับทัพนักกีฬาพาราลิมปิกทีมชาติไทย ที่ทำผลงานในมหกรรมกีฬา “พาราลิมปิก โตเกียว 2020” ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ได้อย่างสุดยอดกวาดไปทั้งหมด 5 เหรียญทอง 5 เหรียญเงิน 8 เหรียญทองแดง รวม 18 เหรียญรางวัล จบการแข่งขันอันดับที่ 25 และเป็นอันดับที่ 6 ของทวีปเอเชีย รองจากจีน (เจ้าทอง), ญี่ปุ่น, อิหร่าน, อุซเบกิสถาน และอินเดีย โดยทัพนักกีฬาพาราลิมปิกไทย ยังครองเบอร์ 1 ของอาเซียนเหนือกว่า มาเลเซีย ที่จบอันดับ 39 ทำไป 3 เหรียญทอง 2 เหรียญเงิน

หลักเกณฑ์ของกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ กำหนดให้นักกีฬาที่คว้าเหรียญรางวัลมีสิทธิ์เลือกรับเงินรางวัล 2 เงื่อนไขตามที่กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติระบุในประกาศ เงื่อนไขแรก เหรียญทอง จะได้รับเงินอัดฉีด 7,200,000 บาท เหรียญเงิน 4,800,000 บาท และเหรียญทองแดง 3,000,000 บาท โดยเงื่อนไขนี้จะแบ่งจ่าย ซึ่งจ่ายเป็นก้อนให้นักกีฬาก่อนในอัตราร้อยละ 50 ส่วนที่เหลืออีกร้อยละ 50 จะจ่ายเป็นรายเดือน ภายในระยะเวลา 4 ปี ส่วนเงื่อนไขที่สอง จ่ายครั้งเดียวเป็นก้อนเดียว แต่จะได้รับในอัตราที่น้อยลง โดยเหรียญทองจะได้รับเงินรางวัลทั้งสิ้น 6,000,000 บาท, เหรียญเงิน 4,000,000 บาท และเหรียญทองแดง 2,500,000 บาท

จากหลักเกณฑ์ดังกล่าว นักกีฬาพาราลิมปิกไทยคว้า 5 เหรียญทอง จาก พงศกร แปยอ วีลแชร์เรซซิ่ง 400 เมตร T53 รับ 7.2 ล้านบาท / พงศกร แปยอ วีลแชร์เรซซิ่ง 100 เมตร T53 รับ 7.2 ล้านบาท / พงศกร แปยอ วีลแชร์เรซซิ่ง 800 เมตร T53 รับ 7.2 ล้านบาท / อธิวัฒน์ แพงเหนือ วีลแชร์เรซซิ่ง 100 เมตร T54 รับ 7.2 ล้านบาท และบอคเซียทีม BC 1-2 จำนวน 4 คน วิษณุ ฮวดประดิษฐ์, สุบิน ทิพย์มะนี, วัชรพล วงษา, วรวุฒิ แสงอำภา รับคนละ 7.2 ล้านบาท รวม 4 คน 28.8 ล้านบาท ซึ่งรวม 5 เหรียญทองของทัพไทยรับเงินจากกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติไปทั้งสิ้น 57.6 ล้านบาท
z1
ส่วน 5 เหรียญเงินของทัพนักกีฬาไทย จาก อธิวัฒน์ แพงเหนือ วีลแชร์เรซซิ่ง 400 เมตร T54 รับ 4.8 ล้านบาท / ประวัติ วะโฮรัมย์ วีลแชร์เรซซิ่ง 1,500 เมตร T54 รับ 4.8 ล้านบาท / พรโชค ลาภเย็น บอคเซีย บุคคล บีซี 4 รับ 4.8 ล้านบาท / วัชรพล วงษา บอคเซีย บุคคล บีซี 2 รับ 4.8 ล้านบาท / สุจิรัตน์ ปุกคำ แบดมินตัน หญิงเดี่ยว คลาส WH 1 รับ 4.8 ล้านบาท รวมเงินอัดฉีดเหรียญเงินจากกองทุนฯ 24 ล้านบาท

ขณะที่อีก 8 เหรียญทองแดงของทัพไทยจาก สายสุนีย์ จ๊ะนะ วีลแชร์ฟันดาบ เอเป้ คลาสบี รับ 3 ล้านบาท / รุ่งโรจน์ ไทยนิยม เทเบิลเทนนิส บุคคลชาย คลาส 6 รับ 3 ล้านบาท / ภูธเรศ คงรักษ์ วีลแชร์เรซซิ่ง 5,000 เมตร T54 รับ 3 ล้านบาท / ภูธเรศ คงรักษ์ วีลแชร์เรซซิ่ง 1,500 เมตร T54 รับ 3 ล้านบาท / (อนุรักษ์ ลาววงษ์, ยุทธจักร กลิ่นบานชื่น, ถิรายุ เชื้อวงษ์) จากเทเบิลเทนนิส ทีมชาย คลาส 3 รับคนละ 3 ล้านบาท รวม 3 คน 9 ล้านบาท / ขวัญสุดา พวงกิจจา เทควันโด คลาส K44 น้ำหนักไม่เกิน 49 กก. รับ 3 ล้านบาท / สายชล คนเจน วีลแชร์เรซซิ่ง 800 เมตร T54 รับ 3 ล้านบาท / สุจิรัตน์ ปุกคำ-อำนวย เวชวิฐาน แบดมินตัน หญิงคู่ คลาส WH รับคนละ 3 ล้านบาท รวม 2 คน 6 ล้านบาท  รวมยอดอัดฉีดเหรียญทองแดงเป็นเงิน 33 ล้านบาท

สรุปยอดรับเงินรางวัลจากกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติของทัพนักกีฬาพาราลิมปิกไทย รวมทั้งสิ้น 114.6 ล้านบาท ซึ่งยังไม่รวมเงินรางวัลที่โค้ชได้รับ 20 เปอร์เซนต์ของเงินรางวัลนักกีฬา และสมาคมกีฬาฯ ได้รับ 30 เปอร์เซนต์ของเงินรางวัลนักกีฬา

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ