ต้องประหาร ปวีณา จวก ฆาตกรใจโหด 3ขวบยังถอดแพมเพิร์สเองไม่ได้ ย่ำยีได้ลงคอ เผยผลชันสูตร พบร่องรอยการถูกล่วงละเมิด จี้ตำรวจเร่งล่าตัว
วันที่ 19 พ.ค.2566 นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิประวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.มะตาฮา มูหนะ ผกก.สภ.ตันหยง จ.นราธิวาส เพื่อติดตามคดีที่ นายเอ็มและนางเอนามสมมุติ พ่อแม่ มาร้องทุกข์กับมูลนิธิว่า ลูกสาวคือ ด.ญ.เอ (นามสมมุติ) อายุ 3 ขวบ หายตัวไปเมื่อวันที่ 14 พ.ค.266 ก่อนพบว่า เสียชีวิตอยู่ในแอ่งน้ำบริเวณทุ่งหญ้าที่ใช้เลี้ยงสัตว์ ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านในพื้นที่หมู่ 5 ต.กะลุวอเหนือ อ.เมือง จ.นราธิวาส ประมาณ 300 เมตร เมื่อวันที่ 16 พ.ค.2566
โดยสภาพด.ญ. สวมเพียงเสื้อตัวเดียว ท่อนล่างเปลือย คาดว่าเสียชีวิตมาอล้วประมาณ 2 วัน นอกจากนี้ ยังพบกางเกงและแพมเพิร์สเด็กตกห่างจากจุดเกิดเหตุ ประมาณ 50 เมตร จึงเก็บไว้เป็นหลักฐานพร้อมส่งไปชันสูตรที่รพ.นราธิวาสราชนครินทร์ ขณะเดียวกัน นางประวีณาได้ประสานนายศรัณย์รัชต์ กีรติวิโรจน์กุล หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดนราธิวาส ลงพื้นที่เยี่ยมครอบครัว ด.ญ. 3 ขวบ พบว่าพ่อแม่และญาติยังอยู่ในอาการโศกเศร้าเสียใจและตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
พ่อแม่น้องด.ญ.เอ กล่าวว่า เชื่อว่าการเสียชีวิตของลูกมีเงื่อนงำและมีผู้ก็ทำให้เสียชีวิตเพราะลูกสาวยังเล็กมีพัฒนาการช้าปกติจะถอดแพมเพิร์สเองไม่ได้ต้องมีคนคอยถอดให้และลูกไม่สามารถที่จะเดินมาถึงที่เกิดเหตุได้แน่นอน เรื่องดังกล่าวเป็นที่สะเทือนขวัญของชาวบ้านมาก และที่ผ่านมาไม่เคยเกิดเหตุแบบนี้มาก่อนจึงไปขอร้องให้มูลนิธิประวีณาช่วยเหลือติดตามคดีให้ถึงที่สุด เพื่อนำตัวคนร้ายที่ทำกับลูกสาวมารับโทษให้ได้
ด้านนางปวีณา กล่าวว่า น้องถูกฆ่าข่มขื่นแน่นอน เพราะว่าผลชันสูตรทางนิติทางวิทยาศาสตร์ ออกมาว่าน้องถูกล่วงระเมิดทางเพศ ตรวจดีเอ็นเอแล้ว โดยอวัยวะเพศพบรอยฉีกขาดชัดเจน เรื่อนี้เป็นที่กังขาและสะเทือนใจเพราะน้องยังเล็กมาก ถอดแพมเพิร์สเองยังไม่ได้ คนที่กระทำจิตใจโหดเหี้ยม เกินมนุษย์ซึ่งเรารับไม่ได้จริงๆ และไม่อยากให้เกิดขึ้นในที่ไหนหรือแผ่นดินไทย ดังนั้นจะต้องดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ให้ประหารชีวิตไปเลย