ต้น สรพงษ์ แจงสาเหตุเปย์ ใหม่ สุคนธวา เจอดราม่าเปย์เมียลืมแม่

Home » ต้น สรพงษ์ แจงสาเหตุเปย์ ใหม่ สุคนธวา เจอดราม่าเปย์เมียลืมแม่


ต้น สรพงษ์ แจงสาเหตุเปย์ ใหม่ สุคนธวา เจอดราม่าเปย์เมียลืมแม่

ต้น สรพงษ์ แจงสาเหตุเปย์ ใหม่ สุคนธวา เจอดราม่าเปย์เมียลืมแม่

ขึ้นชื่อว่าเป็นนักแสดงสาวที่สามีเปย์หนักมาก ซื้อแบรนด์เนมให้ไม่หยุด ล่าสุด ข่าวสดบันเทิงออนไลน์ ได้เจอนักแสดงสาวเซ็กซี่ ใหม่ สุคนธวา และสามีสายเปย์ ต้น สรพงษ์ จิตต์สุนทร

เลยจับทั้งสองคนมาคุยถึงเรื่องชีวิตคู่ และที่มาของสามีสายเปย์ ซึ่งนักแสดงสาวเผยก่อนว่า “ไม่รู้ว่าทำผิดอะไรมาหรือเปล่า (ยิ้ม)”

ต้น : “ไม่หรอกครับ เราแค่รู้สึกว่าบ้านเราไม่ค่อยมีเทศกาล อยากให้ก็ให้กันไป ซึ่งเทศกาลที่ควรจะให้กลับไม่มีอะไรกันเลย (หัวเราะ)”

ใหม่ : “วันก่อนครบรอบแต่งงาน ไม่มีอะไรให้กัน ไอ้วันที่ไม่ได้มีอะไรก็ให้กันจังเลย อย่าเรียกอย่างนั้นเลย เขาให้หนูอย่างเดียวมากกว่า หนูไม่ค่อยได้ให้อะไรเขา”

ต้น : “แต่เวลาจะเลือกของให้เขาแต่ละทีก็ยากนะ เพราะเราไปซื้อหมดแล้วไงอะไรที่ผู้หญิงควรจะมีกัน มันก็เริ่มตัน จริงๆ แล้วผมคิดว่าเขาไม่อยากได้อะไรจากผมหรอก แต่ที่ผมให้เขาแค่อยากให้เขารู้สึกว่าเขาทำงาน ไม่มีเวลาช็อปปิ้ง ต้องเลี้ยงลูก เหมือนเป็นป้าอยู่ที่บ้าน ไม่ได้แต่งตัวสวยๆ

แต่พอเขาออกไปทำงานเออ..สวย มีอยู่วันนึงผมเข้ามาในบ้าน แยกไม่ออกเลยคนไหนแม่บ้าน คนไหนเมียผม (หัวเราะ) สภาพคล้ายกันมากๆ ถ้าไม่หันหน้ามาไม่รู้เลย เลยอยากให้เขาแทนคำขอบคุณที่เขาเสียสละตัวเองดูแลลูกและดูแลผมครับ

ใหม่ : “ตั้งแต่คบเขามาไม่เคยขอ ไม่เคยยืม ไม่เคยเบิก ไม่เคยอ้อน เอาอะไรสักอย่าง เพราะเรารู้สึกว่าถ้าเราเป็นแบบนั้น เรากำลังคบหาเขาด้วยการเอาเปรียบเขา เราถูกปลูกฝังมาว่าอย่าเอาเปรียบผู้ชาย เราต้องมีทางในการหาเงินของเรา เราต้องมีศักดิ์ศรีของเรา และเราก็สงสารเขาจริงๆ ค่ะ

เพราะเขาทำงานหนัก เหนื่อย เอาเงินที่เขาทำงานหนักไปเปย์พ่อแม่เขาดีกว่า ใหม่คิดอย่างนี้จริงๆ ใหม่ไม่อยากวุ่นวายหรือร้องขออะไร ถ้าหากว่าเขาจะให้อะไรมาเราก็ขอบคุณแหละค่ะ แต่เราไม่ได้อยากได้ เราคิดว่าพ่อแม่เขาได้อะไรหรือยัง อย่ามาให้เรา เราจะรู้สึกค่อนข้างแย่”

แบบนี้ตู้เก็บกระเป๋าพอใส่ไหม? ต้น : “กระเป๋าที่ซื้อให้เขามีใบนึงเขาใช้ครั้งเดียว เห็นอยู่ในห้องเก็บของ วางรวมอยู่กับกองกระดาษอะไรก็ไม่รู้ พอเปิดดู อ้าว นี่กระเป๋าที่เราซื้อให้นี่นาลิมิเต็ดเลยนะ”

ใหม่ : “จริงๆ แล้วไม่ได้หวังอะไรจากเขาเลยค่ะ ขอให้เขาทำงานแล้วเลี้ยงตัวเอง ไม่เหนื่อยมาก และเขาสุขภาพดีเท่านั้นคือสิ่งที่เราต้องการมากที่สุด”

เปย์เมียหนักจนเจอดราม่า? ต้น : “ผมว่าเขาก็ให้เกียรติเราแหละ เขาสนใจเรา แต่ผมแค่รู้สึกว่าเราทำงานเหนื่อยแล้ว และสิ่งที่เรามีความสุขมากที่สุดก็คือการดูแลคนในครอบครัว และการเปย์เมียมันอาจจะเหมือนลุงโอนไวหลายๆ คน แต่ผมแค่ไม่มีท่าเต้นเหมือนคนอื่นเขาเท่านั้นเอง (หัวเราะ) ก็ให้เมียนี่แหละถูกต้องแล้ว

แต่เวลาที่เราให้แล้วเอาลงในโซเชี่ยล ผมไม่ได้ต้องการจะอวดใคร แต่เราอยากเก็บภาพประทับใจนั้นไว้ เพราะบางทีปีหน้าเราจำไม่ได้ว่าเราทำอะไรไปบ้าง แล้วพวกนี้แหละมันจะกลับมาเตือนเราว่าเราเคยให้สิ่งนี้ภรรยาเรานะ และเราไม่รู้เลยว่าออกจากบ้านไปจะได้กลับมาอีกหรือเล่า เราก็ไม่รู้ ก็ทำทุกวันให้มันมีความสุขที่สุดครับ”

สามีเปย์หนักสุดคืออะไร? ใหม่ : “ที่เขาเปย์ก้อนใหญ่สุด เป็นการทำประกันให้ แล้วก็สเต็มเซลล์ มันเป็นเรื่องที่ไม่น่าเปย์ใช่ไหมคะ แต่เขามองลึกกว่านั้น เพราะใหม่เป็นคนที่ไม่ได้รักษาสุขภาพ ไม่เคยทำประกัน ไม่เคยตรวจเช็คร่างกายของตัวเอง เขาก็เลยมองว่าการทำประกัน การทำสเต็มเซลล์อะไรต่างๆ มันก็ส่งผลดีกับตัวเราและครอบครัวพ่อแม่พี่น้องของเราและเขาด้วย

เราก็เลยรู้สึกว่าเขามองไปถึงครอบครัว ไม่ได้มองแค่เราคนเดียว ก็เป็นเงินจำนวนนึงที่ก้อนใหญ่ ก็รู้สึกสงสาร แต่ก็คิดว่าเขาคงดูดีแล้วล่ะ เพราะเราเป็นผู้หญิงที่ไม่เคยเรียกร้องอะไร ถ้าเกิดเรียกร้องเขาก็คงไม่ให้อะไรเรามั้ง”

ต้น : “มันเป็นเรื่องดีนะ ผมว่าการใส่ใจ เราเอาเงินไปซื้อกระเป๋าใบละหลายๆ แสน ถ้าเอาเงินเหล่านั้นมาดูแลตัวเขา หรือเรื่องการรักษาพยาบาลในยุคนี้ที่คนป่วยเยอะ ป่วยในภาวะวิกฤติเลย เราคิดว่าเรื่องนี้มันสำคัญจริงๆ”

เปย์ให้ลูกไม่แพ้เปย์เมีย? ใหม่ : “เขาไม่ได้เปย์ลูก เขาจะชอบซื้อพวกเสื้อผ้าแบรนด์เนมให้ลูกมากกว่า เป็นสิ่งที่เขาน่ารักกับลูก แต่เราก็พยายามห้ามว่าอย่าซื้อเลย เพราะเด็กโตไว แต่ใหม่จะเอาเงินที่เขาเปย์ใหม่เป็นรายเดือน ที่เขาจะให้ใหม่เป็นรายเดือน เดือนละสองแสนบาท ก็เยอะอยู่ ไม่ได้น้อยหน้า ให้สมเกียรติ สมศักดิ์ศรี สมฐานะ สมการศึกษา สมหน้าตาทางสังคม

เรารับมาแต่ไม่ได้ใช้เลย ใหม่เก็บให้ลูกแสนห้า อีกห้าหมื่นเก็บไว้ให้เขา เผื่อเวลาสมมติชักหน้าไม่ถึงหลัง บางเดือนช็อตขึ้นมา เราไม่รู้อนาคต อย่างน้อยที่เราบริหารตรงนี้มันก็ช่วยชีวิตเขาได้ เราก็เลยไม่เอาของเขาเลยสักบาท เราใช้เงินตัวเองล้วนๆ ค่ะ”

ต้น : “อย่างเรื่องค่าบ้านนี่ไม่ได้เลย บอกพี่ไม่ต้อง เดี๋ยวหนูทำเอง”

ใหม่ : “มันเป็นสิ่งที่เขาเสียใจอยู่ตลอดเวลาและเขาก็พูดประจำว่าใหม่จะชอบพูดว่า เฮ้ย..พี่นี่บ้านหนูนะ บ้านหนูอย่ายุ่ง บ้านหนูอย่าซื้อ บ้านหนูนั่นนี่ ซึ่งจริงๆ แล้วคำนี้เราเคยทะเลาะกัน เขาไม่เข้าใจเหตุผลหนูหรอก

แต่สิ่งที่เราพูดแบบนี้คือเราไม่ต้องการให้เขามาช่วยออกค่าใช้จ่ายอะไรเลย หนึ่งมันเป็นความภูมิใจของเราด้วยที่ซื้อให้พ่อ เราสามารถพูดได้เต็มปากว่าบ้านหลังนี้เป็นเงินของเราล้วนๆ ที่เราซื้อให้พ่อเองล้วนๆ ไม่ได้เป็นเงินสามีซื้อให้พ่อนะ มันก็จะรู้สึกแปลกๆ นะถ้าเอาเงินสามีมาซื้อบ้านให้พ่อเรา

ถ้าเป็นเงินเราแล้วเราซื้อให้พ่อเป็นของขวัญ เราจะรู้สึกว่านี่แหละเป็นหยาดเหงื่อของเราจริงๆ และเราก็ไม่อยากเอาเงินที่เขาทำงานหนัก เหนื่อยมายุ่งวุ่นวายเกี่ยวกับบ้านหลังนี้ เพราะเรารู้สึกว่าเขาควรจะเอาเงินนั้นไปซัพพอร์ตครอบครัวเขาและตัวของเขาบ้างในสิ่งที่เขาอยากจะได้

เราหวังผลดีทางอ้อมๆ แต่เราไม่รู้จะพูดยังไง ก็เลยพูดไปแบบนั้นว่านี่บ้านหนู เขาก็เลยจะรู้สึกว่าแล้วเขาอยู่ไหน เขาเป็นผู้อาศัยเหรอ (หัวเราะ) แต่ใหม่เชื่อว่าเขารู้อยู่แล้วกับสิ่งที่ใหม่พูดออกไปมันคือหวังดีกับเขาทางอ้อม และมันเป็นสิ่งที่เราต้องการลดค่าใช้จ่ายทางอ้อมของเขาด้วย

เรารู้สึกว่าเอาเงินนั้นไปสร้างบ้านให้พ่อแม่เถอะ ไปซื้ออะไรให้พ่อแม่เถอะ เพราะเรารู้สึกว่าถ้าคุณเปย์เรามาก หรือช่วยทางบ้านเรามากกว่าครอบครัวเขา เราจะกลายเป็นผู้หญิงไม่ดี นี่คือสิ่งที่เราคิดว่าคุณต้องทำให้ครอบครัวคุณเป็นหลัก ส่วนครอบครัวของเรา เราหาให้พวกเขาเองได้

แต่ได้ยินว่าเปย์ให้แม่ไม่แพ้เมีย? ต้น : “สำหรับผมแม่กับใหม่จะได้เท่าๆ กัน เราก็ให้เต็มที่ เพราะผมไม่เที่ยว ไม่กินเหล้า ไม่สูบบุหรี่ ทำงานหาเงินมาผมก็ให้แม่กับเมียแค่นี้ก็จบแล้ว แม่จริงๆ บางเดือนได้เยอะกว่า เพราะแม่เขาจะไปจัดการเรื่องอสังหาฯ อยู่ด้วย ก็ให้แม่ไปจัดการเรื่องนั้น”

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ