"ต้น จักรกฤษณ์" ควงภรรยาสาวแอร์โฮสเตสเผยเส้นทางรัก-จับมือกันฝ่าพิษโควิดด้วยความเข้าใจ

Home » "ต้น จักรกฤษณ์" ควงภรรยาสาวแอร์โฮสเตสเผยเส้นทางรัก-จับมือกันฝ่าพิษโควิดด้วยความเข้าใจ
"ต้น จักรกฤษณ์" ควงภรรยาสาวแอร์โฮสเตสเผยเส้นทางรัก-จับมือกันฝ่าพิษโควิดด้วยความเข้าใจ

นักแสดงรุ่นใหญ่ ต้น จักรกฤษณ์ ที่วันนี้จะขอควงศรีภรรยาดีกรีแอร์โฮสเตส มาเปิดเผยเส้นทางความรัก 17 ปี ลบคำครหาอายุห่างกัน 9 ปีไม่เป็นอุปสรรค แล้วเพราะอะไร ทำให้หยุดเจ้าชู้เพราะผู้หญิงคนนี้ นอกจากนี้ยังได้ออกมาเผยเจอปัญหาชีวิต โควิดทำพิษไร้งานนับปี ผ่านทางรายการคุยแซ่บ Show ทางช่องวัน 31 ที่มี พีเค ปิยะวัฒน์, ธัญญ่า ธัญญาเรศ และ อาจารย์เป็นหนึ่ง เป็นพิธีกรดำเนินรายการ 

โควิดรอบนี้หนักขนาดไหน?

ต้น : “แต่ละบ้านมีความพร้อมไม่เหมือนกัน หนักผม อาจจะไม่หนักอีกหลายบ้าน ในขณะเดียวกันก็อาจจะหนักกว่าอีกหลายคน ตรงนี้จะบอกว่าเราหนักอะนะ ผมไม่ได้ออกกอง ส่วนคนนี้เป็นด่านแรก เพราะว่าทำงานสายการบิน”

สาว : “หยุดเป็นอันแรกเลย”

ระยะเวลาที่เราเจอเรื่องของเศรษฐกิจประมาณเป็นปีไหม?

ต้น : “จะ 2 ปีแล้ว รายจ่ายมันก็จ่ายเท่าเดิม แต่เมื่อก่อนมันก็มีรายได้ พอไม่มีรายได้ รายจ่ายมันเป็นอะไรที่แบบ เห้อ…” 

เป็นหลักอะไรพอบอกได้ไหมพี่?

ต้น : “ก็หลักทรัพย์ปกติ มีบ้าน รถ คอนโดอะไรแบบนี้” 

รายจ่ายหลักๆ ตอนที่มีงาน ใครเป็นคนจ่าย?

ต้น : “ผมไง สาวเขาก็รับผิดชอบบ้านตัวเอง คือคุณพ่อสาวไม่ค่อยสบายต้องดูแล” 

ถ้างั้นก็เคาะกันที่หลักแสนแล้วกันในแต่ละเดือนที่หายไป?

ต้น : “ใช่ๆ” 

พอรายได้มันหายไป มันทำให้เกิดความเครียด?

ต้น : “มันเป็นธรรมดาของทุกบ้านครับ” 

มีทะเลาะกันเองบ้างไหม?

ต้น : “คือต่อให้ไม่มีเรื่องนี้ นิสัยผมใครอยู่ด้วยต้องทะเลาะอยู่แล้ว คือผมเป็นคนกวนประสาท เสียงดัง ขี้โวยวาย อันนี้ใครอยู่ด้วยก็ต้องปวดหัว” 

ที่เขาพูดมาจริงกี่เปอร์เซ็นต์?

สาว : “จริง 200% ขี้โวยวาย จุกจิก ถามว่านิสัยผู้หญิงไหม ผู้หญิงไม่เป็นขนาดนี้” 

พี่ต้นรู้ตัวไหมว่าเรามีอารมณ์แบบนี้?

ต้น : “มันไม่ได้เป็นอารมณ์ครับ มันเป็นสันดาน อารมณ์ผมปกติ ผมขี้เล่น สนุกสนาน” 

ช่วงโควิดเราเครียดหนัก อารมณ์ที่มันเกิดขึ้นถี่กว่าเดิมไหม?

ต้น : “ผมพยายามคอนโทรลตัวเองให้เป็นปกติ เพราะว่าผมตระหนักอยู่เสมอว่าปัญหาที่มันเกิดขึ้น ทุกบ้านเจอหมด แต่ด้วยความที่มันหลุดไปด้วยความที่มันเครียด บวกกับลักษณะน่ากระโดดถีบอยู่แล้ว ก็เลยทำให้เขาปวดหัว บางทีรู้ตัวก็สงสาร”

สาว : “งานสาวไม่เคยอยู่เป็นที่ บินมา 20 ปีแล้ว ครั้งแรกเลยที่ 2 ปีนี้อยู่ด้วยกันทุกวัน”

2 ปีนี่คือ 24 ชั่วโมงเลยไหม?

สาว : “24 ชั่วโมงเลย คืออะไรที่ไม่รู้ก็รู้ตอนนี้แหละ” 

นี่ไม่ได้บินมากี่ปีแล้ว?

สาว : “เอาจริงๆ สาวเพิ่งบินไป 1 ไฟท์แล้วก็กักตัว จริงๆ ไม่ได้บินมาเกือบ 2 ปีเต็ม” 

ช่วงเวลาที่ไม่ได้ทำงาน เราอยู่นิ่งๆ ไหม หรือเราหางานอื่นทำ?

สาว : “ก็มีขายอาหารเสริมจุกจิก แต่ส่วนใหญ่ถามว่าไม่ได้ทำงาน คือไม่ได้ออกไปบินจริง แต่ว่าการเตรียมตัวบินเยอะมาก คือเราต้องรักษาลายเซ้นต์ในหลายเครื่อง แล้วมันก็มีอะไรที่มันเกี่ยวข้องแบบเยอะมากที่เราจะต้องเรียน”

พี่ต้นไม่ได้ถ่ายละคร คุณสาวไม่ได้บิน ถือว่าเป็นวิกฤตหนักในชีวิตที่เคยเจอมาไหม?

ต้น : “ตั้งแต่เกิดมา อะไรไม่จำเป็นก็ต้องเคลียร์มันออกไป” 

ปล่อยไปกี่อย่างแล้ว?

ต้น : “โห อย่านับเลยครับ”

สาว : “จริง รถไป 1” 

ต้น : “คนมักจะถามว่าทำงานมาตั้งเยอะไม่มีเงินเก็บเลยเหรอ แล้วทำงานไม่ใช้เหรอ”

ด้วยความที่เราสร้างทรัพย์สินมาทั้งหมด จนวันนึงที่เราเกิดวิกฤต พี่เสียดายไหม หรือมีความรู้สึกว่าเราจะแคร์คำพูดคนไหม?

สาว : “สาวไม่แคร์ความรู้สึก สาวอยากคิดแค่สิ่งที่สาวจำเป็นจริงๆ เพราะสาวรู้สึกว่าบั้นปลายเราควรจะสละออก สาวไม่ได้รู้สึกว่าจะอยากสะสมอะไรไปมากกว่านี้ มันเป็นโอกาสที่ได้เรียนรู้ เมื่อก่อนเราคิดอย่างนี้ แต่เราไม่รู้ว่าเจอจริง จิตเราจะเกร่งพอไหมที่เราจะสละออกไหม ทุกวันนี้สาวพยายามคิดว่าที่อยู่ก็เอาที่พออยู่ได้ที่ดีที่สุด ปลอดภัยสำหรับเรา เป็นแค่ความมั่นคงเล็กๆ ที่พร้อมที่วันนึงเราจะปล่อยทุกอย่างออกไป”

ต้น : “สำหรับผม ผมคิดว่าอะไรก็ตามทำแล้วมันเป็นประโยชน์ ในบรรดาหลายๆ ชิ้น มีนาฬิกาอยู่เรือนนึงเขาซื้อให้ เป็นไอเทมสุดรักของผมเลย ก็ต้องไปนะ ทุกอย่าง ขออนุญาตนะครับ สิ่งที่ผมกำลังจะพูดออกไปเป็นความเชื่อของผม สิ่งทั้งหลายทั้งปวง บุคคลไม่ควรไปยึดมั่น ถือมั่น ไม่ใช่ไม่อยากได้ อยากมี รถก็อยากมี กองถ่ายมันก็ต้องบุกตะลุย แต่ถ้ามันยังประโยชน์แล้วช่วยเหลือสถานการณ์ไปได้ เอาจริงๆ ถ้าล็อกดาวน์อีกสัก 3 เดือน สมมติ อาจจะอยู่วัดเลยนะ ผมว่าผมหนักนะครับ แต่มีคนหนักกว่าผม มีบางคนต้องพึ่งพาถุงยังชีพแล้วนะ แต่เราอย่าไปทำตัวให้เดือดร้อนวุ่นวาย เพราะมันไม่ได้มีเราคนเดียวอยู่ในประเทศ”

ความเครียดที่ทำให้ทะเลาะกัน ถึงขั้นจะเลิกกันมีไหม?

ต้น : “ถ้าเรื่องนั้นไม่ใช่เรื่องโควิดหรอก เรื่องสันดานไม่ดี” 

สาวอะไรที่เรารับไม่ได้?

สาว : “ไม่ค่อยบาลานซ์ความสัมพันธ์ เช่นแบบอาจจะมีปกปิดความสัมพันธ์โดยเจตนา ไม่ได้มีอะไร ไม่ได้เรื่องใหญ่ขนาดนั้น แต่แบบมีการพูดคุย ติดต่อ หรือเรารู้สึกว่าไม่น่าทำ” 

ถ้าเปลี่ยนเขาได้ในสไตล์ที่เราอยากได้ อยากเปลี่ยนอะไรเขา?

สาว : “เอาจริงๆ ไม่อยากเปลี่ยนใครเลย อยากเปลี่ยนตัวเอง อยากรู้สึกว่าพูดแล้วทำได้จริงๆ  เช่น ปล่อยวาง แล้วต้องไม่เหลือความไม่สบายใจอยู่กับตัวเอง เรารู้สึกว่าเราอย่าเปลี่ยนเขาเลย เราเอาตัวเองให้รอดก่อน”

มีปรับไหม?

ต้น : “คืออย่างนี้ ผมมีภารกิจชีวิตบางอย่างที่ผมต้องทำให้จงได้ ซึ่งภารกิจที่ผมจะทำผมปรับไม่ได้นะ ต้องลด ละ เลิก  ไม่อย่างนั้นมิชชั่นผมทำไม่สำเร็จ เมื่อวานเขาเล่นงานผม ทุกเรื่องในชีวิต พรุ่งนี้จะไปบวชใช่ไหม ใช่ แล้วอยู่ๆ คนไปบวชเปลี่ยนอะไรได้ไหม ไม่ฝึกหน่อยเหรอ ไม่ซ้อม ไม่หัด ลด ละ วาง เลิก ใจร้อน สิ่งที่มันยังพัวพันเป็นตัวเรา พรุ่งนี้เช้าตื่นมาโกนหัว มึงเป็นพระนะใช่”

สาว : “เขาอยากบวช อยากมีช่วงที่ไปศึกษา”

ต้น : “ไม่ใช่ๆ เกิดมา 50 ปี ไม่เคยได้คิด ลด ละ วางใดๆ  แล้วอยู่ๆ พรุ่งนี้มึงจะไปบวชโดยหวังผลต่างๆ ไม่มีทาง”

เห็นว่าเคยจะเลิกกัน พี่ต้นร้องไห้เลย?

ต้น : “ก็เสียใจ ขอโทษอ่ะครับว่าเอาแต่ใจตัวเอง คิดน้อยไปหน่อย อาจจะเห็นว่าผมแก่กว่าเขาตั้ง 9 ปี ทำไมเป็นแบบนี้ ก็เพราะผมเป็นแบบนี้ครับ ไม่ว่าจะซ้าย จะขวาผมไม่ได้อยากจะอยู่กับเขาคนละโลกเลย ผมอยากอยู่กับเขาตลอดเวลา 2 ปีที่เขาไม่ได้ขึ้นเครื่องบิน ผมมีความสุขทุกวัน เพราะว่าผมรู้จักเขามา 10 กว่าปี ในแต่ละเดือนได้นอนหลับตื่นขึ้นมาอาทิตย์นึง 2 วันที่เจอกัน”

จากที่เราไม่ค่อยได้เจอ แต่วันนึงเราต้องเจอกันทุกวัน เรารู้สึกยังไง?

สาว : “เห็นอะไรมากขึ้น แทนที่เรารับแป๊บๆ แล้วเราก็ไปพักเรื่องงาน มันต่างกันตรงที่ว่าเรารับแป๊บๆ ถ้าเราไปบินคือเราต้องตัดความรู้สึกที่เราไม่สบายใจออก อันนั้นมันก็หนักแบบนึง แต่ตอนนี้มันไม่ต้องเคลียร์ตัวเองแล้วต้องไปบิน แต่มันต้องอยู่ แล้วอยู่ในช่วงที่เรื่องอื่นมันก็มี มันไม่ใช่เรื่องเดียว มันมีหลายเรื่องที่เราไม่รู้ว่าต่อไปมันเป็นยังไง ถามว่า 17 ปีมั่นคงมากไหมสำหรับสาว คือความมั่นคงมันไม่มีอยู่แล้ว มันเกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป ท้ายที่สุดเราอยู่ด้วยกัน ไม่เกลียดกันในวันที่แก่เฒ่า ขอมองหน้ากันแล้วแบบช่วงเวลาดีๆ ในชีวิตฉัน ฉันเคยใช้กับคนนี้เราอยู่ด้วยกันมานานที่สุด ถ้าคิดว่า 17 ปีมันนานจังเลย แต่สำหรับสาว สาวคิดว่ามันแป๊บเดียวเอง”

ต้น : “นี่เขานิสัยผู้ชายเลยนะคือสิ่งที่ผมเป็นกับเขา ผมเป็นกับเขาคนเดียว หลายเรื่อง ไม่มีใครเขาเชื่อว่ามึงอย่างนี้กับเขาเหรอ”

ที่ผ่านมาพี่ต้นขอโทษบ่อยไหม?

สาว : “บ่อยมาก และเขาก็ใส่ใจมาก”

ย้อนไปจุดเริ่มต้น รู้จักกันได้ยังไง?

ต้น : “ผมอยากมีแฟนเป็นแอร์ฯ เพราะผมเห็นเพื่อนผมเขามีขนมกิน” 

แล้วไปเจอเขาที่ไหน?

ต้น : “ผมโทรหาเพื่อน มีใครว่างไหม เพื่อนบอกมี เดี๋ยวนัดให้ แล้วหายไปเลย 3-4 เดือน ผมก็จะโทรถามตลอด คือสมัยก่อนมือถือไม่ได้เป็นแบบนี้ ระบบโซเชียลไม่ได้เป็นแบบนี้ แล้วเขาไปบินไหนก็ไม่รู้ แล้วเพื่อนผมเป็นรุ่นพี่เขามาก”

แล้วมาเจอกันได้ยังไง?

ต้น : “วันนั้นผมอัดรายการ เพื่อนโทรมาถามพร้อมไหม นัดได้แล้ว เราก็บอกว่าไปดิ เขาก็กำลังจะไปสยามกับเพื่อนเขา แล้วเพื่อนผมคนนี้ก็มา”

สาว : “โทรมาแล้วสยามมันรถติด เขาบอกงั้นไปกินข้าวบ้านพี่เอ๋แถวๆ ฟิวเจอร์ละกัน เราก็คิดว่าพี่เอ๋นัดใครแน่ๆ เพราะเคยบอกพี่เอ๋แล้วว่าถ้านัดมาให้เจอไม่เอานะ แต่เขาไม่ได้บอกว่าเป็นพี่ต้นนะคะ” 

ตอนเห็นปุ๊บรู้สึกยังไงบ้าง?

สาว : “ตกใจ”

ต้น : “เราเห็นเพื่อนเขาก่อน แต่คิดว่าไม่ใช่ แต่พอเขาเข้ามาคิดว่าคนนี้ใช่แน่” 

ก่อนเจอคิดว่าเป็นคนยังไง?

สาว  : “ก่อนเจอไม่คิดเลย แต่ว่าพอเจอแล้วเพื่อนบอกเยอะมาก”

ต้น : “ถ้าเขารู้ก่อน เขาไม่มา”

เพื่อนเตือนยังไงบ้าง?

สาว : “เพื่อนไม่เตือน ญาติเตือน ข่าวเขาไม่ดี เจ้าชู้ มีแฟนหลายคน สายบู๊”

ต้น : “คิดว่าผมทำของใส่เขา” 

สาว : “โดนด่าในบล็อกที่ทำงาน” 

มีอันไหนที่ตรงบ้าง?

ต้น : “เจ้าชู้” 

พอรู้เรามีความรู้สึกลังเลไหม?

สาว : “ไม่ลังเลเลย เพราะสาวเป็นคนมองคนที่การกระทำ ถ้าเรารู้สึกว่าถ้าเขาโกหกเรา เราต้องรู้ด้วยตัวเอง ถ้าเราจะศึกษาใคร เราจะต้องศึกษาตั้งแต่วิธีโกหกของเขา คือเราจะต้องเรียนรู้ไปกับมัน” 

เห็นว่าคุยกันไม่นานพี่ต้นขอแต่งงานทุกวันเลย?

ต้น : “เขาบอกผมเลย อย่าเสียเวลานะ ถ้าไม่แต่งงานมึงไปเลย”

สาว : “ไม่ใช่ๆ สาวคบเป็นคนๆ” 

ต้น : “คืออย่าคบกับเขาแบบเล่นๆ”

แล้วขอยังไง มีพิธีไหม?

ต้น : “ไม่ได้ขอนะ แต่ผมมีซีนเกาหลีนะครับ วันแรกเจอกันที่ร้านอาหาร ห้างเลิกแยกย้ายกลับบ้าน ผมโทรเลย พรุ่งนี้ว่างไหม ว่าง ไปกินข้าวกัน เดทแรกเป็นข้าวขาหมู ฟู้ดคอร์ท ตอนกลับฝนตก ผมกอดแล้วเอามือบังฝนให้”

ทีมงานบอกว่ากดดันเหรอเป็นภรรยาคุณต้น?

สาว : “กดดัน คือเรารู้สึกว่าขนาดเรายังไม่คบกัน ยังมีคนมาเล่าเรื่องเขาเยอะมาก แต่เราโชคดีที่เราไม่ได้อยากรู้ว่าจริงไม่จริง แต่เรารู้สึกว่าชื่อเสียงเป็นเรื่องสำคัญนะ คือการที่เรามาอยู่ในที่ตรงนี้ เราอยากให้คนรักเขา เพราะอาชีพนี้เขารักการทำงานมาก ตอนนี้ไม่มีใครเรียกสาวเป็นสาว ก็แบบอ่อไปบินกับแฟนต้น จักรกฤษณ์มา เราไม่สามารถจะเหวี่ยงใครได้เลย เราต้องเก็บทุกอย่าง เราอยากทำให้ทุกคนที่เจอเราประทับใจว่าเราเป็นส่วนส่งเสริมเขา อยากให้คนรักเขา

ต้น : “ตั้งแต่ผมอยู่กับเขามามีความอย่างนึง ที่นอกจากพ่อ แม่ แล้ว ผมคิดว่าความรู้สึกอันนี้มันพิเศษมาก นั่นคือความปรารถนาดี และกำลังให้กับผมเสมอมาในทุกเรื่อง มันดีมาก ซึ่งคนอย่างผมไม่น่าจะได้รับ” 

รักขนาดไหน?

ต้น : “ผมไม่รู้ว่าวินาทีข้างหน้ามันจะเกิดอะไรขึ้น แต่ถ้าผมเลือกได้ ชีวิตผมอยากสิ้นสุดโดยมีเขาอยู่ในวินาทีสุดท้าย ผมไม่ได้ต้องการอะไรมากไปกว่านี้”

สาว : “เขารู้อยู่แล้วว่าสาวไม่ชอบอะไร ถ้าทำได้ ทุกอย่างก็จะแก้ปัญหาได้แค่นั้นเอง รักตลอดเวลาที่ผ่านมาก็รัก” 

ติดตามชมรายการคุยแซ่บ Show ทุกวันจันทร์-วันศุกร์  เวลา13.40-14.40 น. ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ