กลายเป็นประเด็นเดือดในโลกออนไลน์ เมื่อวันที่ 2 เมษายน 2567 เพจเฟซบุ๊ก อีซ้อขยี้ข่าว ออกมาเปิดเผยข้อมูลพนักงานบริษัทแห่งหนึ่ง โดนหักเงิน 16,000 บาท ทั้งที่เจ้าตัวมีเงินเดือนอยู่ที่ 15,000 บาทเท่านั้น โดยเขียนข้อความระบุว่า
“หนุ่มโอด…เงินเดือน 15,000 ถูกหัก 16,000 ขาดงาน 3 ครั้งบริษัทหักเงิน 10,000 บาท จนเงินเดือนติดลบไม่ได้เงินเดือนสักบาท (เชียงใหม่)
บริษัทหน้าเลือดเดือนนี้บะมีกิ๋นสักบาท ค่านมลูก ค่ารถ ค่าโทรศัพท์ ค่าใช้จ่ายภายในบ้านอีกทำงานทั้งเดือน หึหึ ไผจะไปมาสมัครเน้อโรงงานนรก ทำงานหื้อ 4 ปีกว่า บ่เคยมีปัญหา พอเรามีปัญหาชีวิตนิดหน่อยขาดงาน 10,000 เป็นไปได้”
และต่อมายังได้มาให้ข้อมูลเพิ่มเติมอีกว่า ได้ชื่อบริษัทแล้ว เบื้องต้นพบว่า พนักงานโดนกันเยอะมาก และมีแชทข้อความของพนักงานคนหนึ่งที่ระบุว่าขาดงาน 3 วัน โดนหักเงินไป 10,000 บาท
โดยขาดงานครั้งแรก บริษัทโทรไม่ติด เพราะไม่สบาย ตอนสายลุกได้ไปโรงพยาบาล มีใบรับรองแพทย์ แต่แพทย์ให้หยุดวันเดียว ส่วนการขาดงาน 2 ครั้งถัดมา ไม่ได้แจ้งให้บริษัททราบ เพราะเข้าใจว่าทางบริษัททราบแล้ว
หลังเกิดเรื่องบริษัทให้เซ็นหนังสือออก ส่วนการหักภาษี 3% จากเงินเดือนทุกเดือน บริษัทอ้างว่าเป็นการหัก ภงด.3 แต่ทางพนักงานไม่เคยได้รับเอกสารหัก ณ ที่จ่ายจากบริษัทเลย
ชาวเน็ตเสียงแตกเป็นสองฝ่าย
หลังจากเรื่องราวดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกมา ชาวเน็ตบางส่วนวิพากษ์วิจารณ์ว่าบริษัทรุนแรงและไม่เป็นธรรมต่อลูกจ้าง รายละเอียดบางส่วนยังเข้าข่ายผิดกฎหมายแรงงาน พร้อมทั้งแนะนำให้พนักงานร้องเรียนไปยังกรมแรงงานเพื่อทำการตรวจสอบ
ในขณะที่ชาวเน็ตอีกส่วนมองว่าถึงแม้บริษัทจะออกกฎเข้มข้น แต่การกระทำของพนักงานก็ไม่เหมาะสมเช่นเดียวกัน ทั้งการขาดงานโดยไม่แจ้ง การเช็กอินหลอก โดยที่ไม่ได้เดินทางไปทำงานจริง ซึ่งล้วนถือเป็นการทำผิดกฎระเบียบ และต้องการรอฟังความจากทางบริษัทอีกด้าน มากกว่าฟังความจากทางลูกจ้างฝ่ายเดียว
“ตามกฏหมายไม่มีสิทธิหักเงิน ฟ้องกรมแรงงานเลยค่ะ”
“จริงๆ การหักเงินใดๆ ไม่ว่า จะเป็นการขาดลามาสาย อาจเข้าองค์ประกอบบังคับใช้แรงงาน หรือ Forced Labor โทษใกล้เคียงกับค้ามนุษย์ เป็นอาญา นะครับ”
“กฏบริษัทโหดมาก หักเยอะแบบเวอร์มาก ๆแต่ถ้าตั้งใจทำงาน มีความรับผิดชอบ จะไม่โดนหักแน่นอน พูดตรงๆ นะครับ เช็คอินหลอก ก็พอจะทราบพฤติกรรมแล้ว ว่าพนักงานคนนี้ ประมาณไหน”
