คลิปที่กลายเป็นกระแสในโลกโซเชียลเมื่อ ตำรวจเมากร่าง พยายามเรียกเจ้าของร้านและเพื่อนไปนั่งดริ๊ง แต่พอถูกปฏิเสธดันไม่พอใจ พร้อมดูถูกหาว่าเป็น “เมียน้อย” บังคับให้โทรศัพท์หาแฟนเพื่อรายงานตัว
การดื่มสุรานั้นควรดื่มด้วยการมีสติ อย่างที่ใครหลายๆคนได้บอกว่า “เรากินเหล้า อย่าให้เหล้ากินเรา” เพราะหากปล่อยให้เหล้ากินเราก็อาจทำขาดสติในการยับยั้งการกระทำอันไม่สมควรได้ เพราะเมื่อกระทำไปแล้วการจะย้อนกลับมาแก้ไขให้เหมือนเดิมนั้นคงจะยาก
อยางกรณีนี้ ผู้ใช้เฟซบุ๊กส่วนตัวรายหนึ่งซึ่งทำธุระกิจเปิดร้านอาหาร ได้โพสต์คลิปเมื่อวันที่ (22 ก.พ. 65) เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นภายในร้าน ซึ่งในขณะนั้นเป็นเวลาประมาณ 2 ทุ่ม ตนและเพื่อนได้ต้อนรับลูกค้าคู่หนึ่งซึ่งอ้างตัวเป็นตำรวจ จากนั้นลูกค้า 2 รายนี้พยายามชักชวนให้ไปนั่งดริ๊งด้วย ตนจึงได้ปฏิเสธไปพร้อมอธิบายว่าที่นี่ไม่มีบริการแบบนั้น ลูกค้าที่เป็นตำรวจจึงไม่พอใจสักประวัติของเจ้าของร้าน เมื่อรู้ว่าแฟนเจ้าของร้านเป็นตำรวจจึงให้โทรศัพท์หาเพื่อให้แฟนหนุ่มรายงานตัวกับตน เมื่อแฟนหนุ่มที่เป็นตำรวจได้พูดคุยระยะหนึ่งจึงเกิดความไม่แน่ใจว่าเป็นนายตนเองหรือไม่จึงปฏิเสธการรายงานตัวไป เพียงเท่านี้ก็ทำให้ลูกค้ารายดังกล่าวเกิดอาการหัวร้อนขึ้นมาอีกพร้อมทั้งดูถูกเจ้าของร้านว่า “เป็นเมียน้อย”
ทั้งนี้เจ้าของร้านได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กระบุข้อมูลว่า “เหตุการณ์ เกิดขึ้นประมาณ2ทุ่มกว่าๆ ป๊อปนัดกันกินข้าวกับครูเฟื่อง ก็นั่งทานข้าวกันเลื่อยๆจน2ทุ่ม ครูเฟื่องก็เลยอาสาจะปิดร้านช่วย เพราะอยู่ด้วยกัน2คน หลังจากนั้นก็มีลูกค้าที่เป็นเจ้าหน้าที่สภหนึ่ง 2นาย เดินเข้ามาในร้านถามว่าร้านปิดรึยังเราก็ตอบกลับไปว่า ยังค่ะเชิญนั่งก่อนค่ะข้างนอกฝนตกนั่งข้างในก็ได้ค่ะ ลคนั่งลงเก้าอี้บอกมานั่งด้วยน่อยสิเราบอกนั่งด้วยไม่ได้ค่ะ ลคถามมึงเป็นใครมานั่งด้วยไม่ได้เราก็ถามกลับไปว่าเครื่องดื่มรับเป็นอะไรดีคะ เขาบอกเอาเหล้ามาเอาแค่โซดาเราบอกได้ค่ะเราก็ถามต่อ สั่งอาหารไหมคะเขาก็บอกว่าจะสั่งมาทำไมสั่งไปก็ไม่มีเด็กมานั่งกินด้วย เราก็บอกไปอีกว่าเป็นสวนอาหารค่ะไม่ใช่ร้านมีเด็กนั่งดริ้ง ลคไหนใครเจ้าของร้าน หนูค่ะ หนูเป็นเจ้าของร้าน เปิดร้านมานานยัง เป็นลูกใครบ้านอยู่ที่ไหนเราก็ตอบไป ลคตอบกลับมาว่าจะเป็นลูกใครกูไม่สนใจใหญ่มาจากไหนมึงรู้ไหมกูใคร แต่เราถ่ายไว้ไม่ทันเพราะต้องไปทำอาหารต่อ ลคบอกมานั่งด้วยน่อยเสื้อดำอ่ะ (ครูเฟื่อง! ) แต่เขาไม่รู้ว่าครูเฟื่องเป็นครู เขาก็บอกอีกว่าให้เรากับครูเฟื่องไปนั่งกับเขาจะให้เงินคนละ1,000 เรากับครูก็บอกไปว่าไม่ได้ค่ะเขาบอก 2,000 หรือจะเอา10,000 มานั่งด้วย เรื่องมากชิบหาย จากนั้นก็ถามเรื่องแฟน- ครูเฟื่องบอก แฟนเป็นตำรวจเหมือนกันค่ะ เขาก็ขอชื่อไปเช็คในธรรมเนียบว่าเป็นตำรวจจริงไหม หลังจากค้น ก็รู้ว่าเป็นตำรวจจริง เขาก็บอกอีกเป็นตำรวจจริงรึป่าว หน้าเล็กๆแหลมๆ ตำรวจปลอม มึงรู้ไหมว่ากูใคร สวป ขจ. ให้ครูเฟื่องโทรหาแฟน ให้แฟนครูเฟื่องรายงานตัวกับเขา แต่แฟนครูเฟื่องไม่รายงานตัว และด่าครูเฟื่องว่าเป็นเมียน้อย หน้าแต่แบบนี้ เป็นได้แค่เมียน้อยเขานั้นแหละ มึงรู้ไหมกูใคร กูเพื่อนผู้ช่วยผู้บัญชาการ”
ล่าสุดเจ้าของร้านโพสต์ข้อความประมาณว่า ครั้งนี้จะไม่ถือโทษ และยกโทษอภัยให้ หวังว่าจะไม่ไปแสดงพฤติกรรมแบบนี้อีก ซึ่งตนได้รับกระเช้าขอโทษเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่วนผู้ก่อเหตุก็ได้รับโทษตามระเบียบวินัยของทางหน่วงงานตันสังกัดเป้นที่เรียบร้อยแล้วเหมือนกัน