ตำรวจรวบกิ๊กหนุ่มรุ่นน้องหัวร้อนและเพื่อนอีกราย ใช้ปืนจี้ฉุดสาวขึ้นรถจยย.หนีไปต่อหน้าลูกชาย เหยื่อลั่นคงคบหากันต่อไปไม่ได้แล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงเที่ยงวันนี้ (18 มี.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองชัยนาทพร้อมด้วยชุดสืบสวน ภ.จว.ชัยนาท เข้าตรวจสอบที่ห้องเช่าแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ ม.2 ต.เขาท่าพระ อ.เมืองจ.ชัยนาท หลังจับแจ้งว่ามีเหตุบังคับฉุดหญิงสาวพาตัวขึ้นรถหลบหนีไป โดยใช้อาวุธปืนข่มขู่ไม่ให้ใครเข้าขัดขวาง
นายเอ (นามสมมุติ) ลูกชายของผู้ที่ถูกจี้บังคับพาตัวไป เปิดเผยว่า หญิงดังกล่าวคือ นางสาวนฤมน อายุ 36 ปี และคนร้ายที่ก่อเหตุคือ นายสุรศักดิ์ หรือ โฮม อายุ 29 ปี ซึ่งเป็นชายที่มาติดพันกับแม่ได้ประมาณ 5-6 เดือน โดยไปมาระหว่าง 2 บ้าน
เพราะบ้านที่เกิดเหตุแม่เองก็ยังอยู่อาศัยกับพ่อ ซึ่งเป็นสามีเก่าที่เลิกรากันไปแล้วด้วย แต่ช่วงเกิดเหตุนายสุรศักดิ์มากับเพื่อนรุ่นน้อง ชื่อนายพงศ์รินทร์ อายุ 19 ปี ซึ่งเป็นช่วงที่พ่อออกไปทำงาน
นายเอ ให้การอีกว่า นายพงศ์รินทร์ซึ่งเป็นคนซ้อน ใช้อาวุธปืนสั้นสีน้ำตาล ลักษณะคล้ายปืนไทยประดิษฐ์ออกมาข่มขู่ ก่อนมีการฉุดกระชากแม่ขึ้นรถจักรยานยนต์สีแดงดำ โดยมีนายพงศ์รินทร์นั่งประกบขับหลบหนีไป
หลังเกิดเหตุตนได้พยายามติดต่อนายสุรศักดิ์เพื่อขอแม่คืน โดยตำรวจให้พูดหลอกล่อว่าจะไปพบเพื่อเจรจากันได้ที่ไหน จนคนร้ายหลุดปากให้ไปหาที่บ้าน ในพื้นที่ ต.ห้วยกรด อ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำกำลังไปจู่โจมจับตัวได้ในเวลาต่อมา และนำตัวมาสอบสวนที่ สภ.เมืองชัยนาท
เบื้องต้น นายสุรศักดิ์ ให้การปฏิเสธว่า ไม่ได้บังคับลักพาตัว แต่นางสาวนฤมนยินยอมไปด้วยแต่โดยดี เพราะคบหากันอยู่ ส่วนนายพงศ์รินทร์คู่หูนายสุรศักดิ์ ให้การปฏิเสธเรื่องอาวุธปืนโดยสิ้นเชิงว่ามีการใช้ปืนหรืออาวุธใดๆ ในการก่อเหตุทั้งสิ้น
ด้าน นางสาวนฤมน เปิดเผยว่า ตนเองคบหากับนายสุรศักด์จริง แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์ใช้กำลังฉุดกระชากและทำร้ายตนเช่นนี้ ตนคงทนคบหาต่อไปไม่ได้ เพราะเกรงว่าจะได้รับอันตรายรุนแรงไปกว่านี้ จึงขอดำเนินคดีกับนายสุรศักดิ์ในเหตุการณ์นี้
ส่วนกรณีของสามีนั้นตนเองยืนยันว่าตกลงที่จะเลิกรากันก่อนหน้านี้แล้ว แต่ยังอยู่บ้านเดียวกัน เพราะสงสารลูกๆ อยู่กันแต่เพียงนามเท่านั้น
ล่าสุด ตำรวจได้นำผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ไปตรวจหาสารเสพติด ซึ่งปรากฏว่าฉี่ม่วงทั้งคู่ จึงส่งตัวให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย คาดว่าจะโดนหลายข้อหา ทั้งทำร้ายร่างกาย บังคับข่มขืนใจ ทำให้สูญเสียอิสรภาพ เสพสารเสพติดและหากสอบสวนพบหลักฐานว่าใช้ปืนข่มขู่ด้วย ก็จะมีความผิดตาม พรบ.อาวุธปืน เพิ่มอีกกระทงสำหรับนายพงศ์รินทร์