ตำรวจภาค 8 ลุยล้างบางอาชญากรรม ปิดล้อมตรวจค้น 3 วัน ได้ของกลางอื้อ

เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 5 ก.พ.65 ที่ตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร., พล.ต.ต.วันไชย เอกพรพิชญ์ รอง ผบช.ภ.8 พร้อมผู้บังคับการทั้ง 7 จังหวัดของตำรวจภูธรภาค 8 ร่วมแถลงผลการปิดล้อมตรวจค้นในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 8 ห่วงระหว่าวันที่ 2-4 ก.พ.65 พร้อมของกลางจำนวนมาก

พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ตามนโยบายของ ผบ.ตร. ที่มีความห่วงใยและความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนในเรื่องเกี่ยวกับอาชญากรรมในพื้นที่ต่างๆ ในส่วนของตำรวจภูธรภาค8 โดย พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผบช.ภ.8 ได้มอบหมายให้ รับผิดชอบกำกับดูแลงานสืบสวนสอบสวน, ศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว ป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์และภาคประมง ภาค 8 ศูนย์ปราบปรามคนร้ายข้ามชาติและเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ภาค 8 ศูนย์ปราบปรามผู้มีอิทธิพล มือปืนรับจ้างและผู้ร้ายสำคัญ ภาค 8 ศูนย์ป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับหนี้นอกระบบ ภาค 8 ศูนย์ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ภาค 8 และศูนย์บริหารจัดการหมายจับ CCOC ภาค 8 เพื่อให้การปฏิบัติเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ลดอาชญากรรมในพื้นที่ ภาค 8 จึงกำหนดให้มีการปิดล้อมตรวจค้นเป้าหมายบุคคลพ้นโทษจากการกระทำผิดอาญากลุ่มที่ 1(ชีวิต ร่างกาย) กลุ่มที่ 2 (เกี่ยวกับทรัพย์) คดียาเสพติด ,คดีอาญาอื่น

เช่นอาวุธปืน อาวุธสงคราม วัตถุระเบิด ค้าประเวณี โจรกรรมรถ ) ผู้มีอิทธิพล มือปืนรับจ้าง ผู้ร้ายสำคัญ และบุคคลที่กระทำความผิดค้ามนุษย์และภาคประมง โดยกำหนดเป้าหมายปีดล้อมตรวจค้น จำนวน 285 เป้าหมาย และผลการดำเนินการจับกุม ตามยุทธศาสตร์การปฏิบัติงานตำรวจเพื่อลดอาชญากรรม ( KPI ) ภ.8 ในรอบเดือน มกราคม 2565 ที่ผ่านมาสามารรถจับกุมอาวุธปืนจำนวน 763 ราย,อาวุธมีดจำนวน 1,157 ราย,แผ่นป้ายทะเบียน จำนวน 2,126 ราย จับกุมตามหมายจับ (ทั่วไป)จำนวน 674 หมาย จับกุมหมายจับ (ค้ามนุษย์)จำนวน 18 หมาย และจัดเก็บ DNA บุคคลที่กระทำความผิด (อาญากลุ่ม 1, 2, ยาเสพติด, อื่นๆ) จำนวน 2,050 รายสำหรับวัสดุวิทยาศาสตร์ตรวจเก็บ DNA จำนวน 6 พันชุด ได้มอบหมายให้ ศพฐ. 8 ส่งมอบให้ ตำรวจภูธรจังหวัดในพื้นที่ ภ.8 เพื่อดำเนินการเก็บ DNA บุคคลพ้นโทษในพื้นที่ต่อไป ทั้งนี้ทุกพื้นที่จะต้องมีผลการกวาดล้างอย่างน้อยเดือนละหนึ่งครั้งเพื่อเป็นการป้องปรามและลดคดีอาชญกรรม

ในส่วนของจังหวัดสุราษฎร์ธานี โดย พล.ต.ต.สาธิต พลพินิจ ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี มีคดีที่น่าสนใจคือคดีการค้ามนุษย์และสามารถจับกุมน.ส.รุ่งฤดี แซ่เบา อายุ 33 ปี และน.ส.ตฤษณา จันแก้ว อายุ 25 ปี สองผู้ต้องหาตามหมายจับ สภ.ขุนทะเลในข้อหาการค้ามนุษย์ ทั้งนี้สืบเนื่องมาจากก่อนหน้านี้ทางเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้ต้องหาในกลุ่มเดียวกันไปแล้วจำนวน 2 ราย และขยายผลและขออนุมัติหมายจับผู้ต้องหาเพิ่มได้อีก 2 รายดังกล่าว โดยเจ้าหน้าที่สืบทราบมาว่าผู้ต้องมีพฤติกรรมเป็นแม่เล้าค่อยจัดหาเด็กอายุตั้งแต่ 13-17 ปีเพื่อให้ลูกค้าใช้บริการทางเพศ มาเป็นเวลานานกว่า 3 ปี ซึ่งเด็กจะยินยอมหรือไม่ก็ถือว่ามีความผิดทางอาญา ส่วนเด็กได้นำส่งเพื่อให้ทางเจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและมนุษย์ดูแล และจะดำเนินการขออนุมัติหมายจับกับผู้ที่ใช้บริการอีกจำนวน 6 ราย ต่อไป

ส่วนผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย ส่งดำเนินคดีในข้อหา”ร่วมกันกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์ในการแสวงหาประโยชน์จากการค้าประเวณีโดยกระทำแก่บุคคลอายุไม่เกินสิบห้าปี ,ร่วมกันเพื่อสนองความใคร่ของผู้อื่นเป็นธุระจัดหา หรือพาไปเพื่อการอนาจารซึ่งเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปี แม้ผู้นั้นจะไม่ยินยอมก็ตาม ,ร่วมกันพาเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีไปเพื่อการอนาจารแม้ผู้นั้นจะยินยอมก็ตาม,ร่วมกันกระทำด้วยประการใดๆ โดยการช่วยเหลือ ให้ความสะดวกหรือคุ้มครองการค้าประเวณีของผู้อื่นหรือรับประโยชน์ไม่ว่ารูปแบบใด จากการค้าประเวณีของผู้อื่นหรือจากผู้ซึ่งค้าประเวณีหรือจัดให้มีการค้าประเวณีระหว่างผู้ซึ่งค้าประเวณี กับผู้ใช้บริการ,โดยทุจริตร่วมกันรับไว้ เป็นธุระจัดหา ล่อไป หรือพาไป ซึ่งบุคคลอายุไม่เกินสิบห้าปีแม้ผู้นั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตามร่วมกันพรากเด็กอายุไม่เกินสิบห้าปี ไปเสีบจากบิดา มารดา ผู้ปกครองหรือผู้ดูแล เพื่อหากำไร หรือเพื่อการอนาจาร ,ร่วมกันเป็นธุระจัดหา หรือชักพาไปซึ่งเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปี เพื่ออนาจาร ,ร่วมกันเป็นธุระจัดหา หรือชักพาไปซึ่งเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปี เพื่อให้บุคคลนั้นกระทำการค้าประเวณี แม้บุคคลนั้นจะยินยอมก็ตาม และร่วมกันซักจูง ส่งเสริม ยินยอมหรือกระทำด้วยประการใดอันเป็นการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากเด็ก” ต่อไป