รอง สว.(สอบสวน) ปลอมตัวเป็นพระ จับพ่อค้ายาบ้ารายใหญ่ภาคอีสาน พร้อมของกลาง 5 หมื่นเม็ด
(16 มี.ค.64) ที่สถานีตำรวจภูธรอำเภอวาปีปทุม จังหวัดมหาสารคาม นายเกียรติศักดิ์ ตรงศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม พร้อมด้วย พล.ต.ต.ดิเรก จิตอร่าม ผบก.ภ.จว.มหาสารคาม พ.ต.อ.ธวัชชัย สัตยพัฒน์ รอง ผบก.ภ.จว. มหาสารคาม พ.ต.อ.ชินวัฒน์ ศรีสวัสดิ์ ผกก.สภ.วาปีปทุม พร้อมชุดจับกุม คือ ร.ต.อ. สมควร ปริตรวา รอง สว.(สอบสวน) ที่ลงทุนปลอมตัวเป็นพระภิกษุสงฆ์เข้าไปทำการจับกุม ตัวผู้ต้องหาค้ายาบ้า 2 ราย คือ นายสุริโย อายุ 38 ปี และนายศักดิ์ศรี อายุ 50 ปี
พร้อมด้วยของกลาง ยาบ้า จำนวน 52,827 เม็ด, รถยนต์เก๋ง ยี่ห้อฮอนด้า รุ่น Jazz สีดำ หมายเลขทะเบียน กฉ 5298 มหาสารคาม, รถยนต์เก๋ง ยี่ห้อนิสสัน รุ่น Almera สีขาว หมายเลขทะเบียน กน 6817 ร้อยเอ็ด ,โทรศัพท์ใช้ในการติดต่อซื้อขายจำหน่ายยาบ้า จำนวน 6 เครื่อง โดยแจ้งข้อกล่าวหา ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย เหตุเกิดบริเวณภายในวัดปากน้ำ หมู่ที่ 1 ตำบลหนองไฮ อำเภอวาปีปทุม จังหวัดมหาสารคาม เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2564 เวลา 17.00 น.
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปราบปราบยาเสพติด สภ.วาปีปทุม ได้รับแจ้งจากสายสืบว่า นายสุริโย และนายศักดิ์ศรี ซึ่งเคยพ้นโทษยาเสพติดมีพฤติการณ์จำหน่ายยาบ้าในเขตพื้นที่ อำเภอวาปีปทุม โดยใช้รถขับมาส่งให้กับลูกค้าบริเวณวัดปากน้ำ ตำบลหนองไฮ อำเภอวาปีปทุม จังหวัดมหาสารคาม เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติด สภ.วาปีปทุม จึงได้รายงานผู้บังคับบัญชาทราบ และร่วมกันวางแผนจับกุม โดยให้ตำรวจ 1 นาย ปลอมตัวเป็นพระ ห่มผ้าเหลืองกวาดลานวัด จนกระทั่งเวลาประมาณ 17.00 น. นายเติ่งได้นำยาบ้ามาส่งให้ลูกค้าตามที่สายสืบแจ้ง จึงได้แสดงตัวเข้าตรวจค้นจับกุม พบยาบ้าจำนวน 3,069 เม็ด
จากการสอบสวน นายสุริโย ได้ให้การว่าได้ร่วมกับนายศักดิ์ศรี ลักลอบนำยาบ้ามาจำหน่ายในพื้นที่ โดยมีนางแอ๋วเป็นคนสั่งการ และได้เช่าบ้านร่วมกันไว้ที่อำเภอเมือง จังหวัดร้อยเอ็ด และขณะนั้นนายศักดิ์ศรี ได้พักอยู่บ้านเช่า ตำบลสีแก้ว อำเภอเมือง จังหวัดร้อยเอ็ด และมียาบ้าเหลืออยู่เพื่อรอจำหน่ายจึงได้ยินยอมและนำพาเจ้าหน้าที่ตำรวจไปทำการตรวจยึดยาบ้าที่เหลือที่บ้านดังกล่าว พบยาบ้าอยู่ภายในบ้าน จำนวน 200 เม็ด
และตรวจค้นรถรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อนิสสัน รุ่น Almera สีขาว หมายเลขทะเบียน 6817 ร้อยเอ็ด พบยาบ้าอีกจำนวน 24 มัด (มัดละ 2,000 เม็ด) ซุกซ่อนเอาไว้ฝากระโปรงหลังรถพบในกระเป๋าสะพายสีน้ำตาลอยู่ในรถ 8 ถุง รวมยาบ้า จำนวน 49,758 เม็ด รวมยาบ้าทั้งหมด 52,827 เม็ด
โดยทั้งสองได้ให้การรับสารภาพว่าได้ไปรับยาบ้ามาจากอำเภอเขมราฐ จังหวัดอุบลราชธานี โดยมีนางแอ๋ว ชาวอำเภอกันทารารมย์ จังหวัดศรีสะเกษ เป็นคนสั่งให้ไปรอรับยาบ้าบริเวณถนนหน้าโรงพยาบาลเขมราฐและนำไปส่งลูกค้าตามจุดต่างๆ ที่นางแอ๋วสั่งการในพื้นที่จังหวัดมหาสารคาม ร้อยเอ็ด กาฬสินธุ์ สุรินทร์ บุรีรัมย์ อำนาจเจริญ ศรีสะเกษ โดยนางแอ๋วได้ติดต่อซื้อขายยาบ้ากับเจ๊ชาวลาว จึงได้นำผู้ต้องหาพร้อมของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.วาปีปทุม ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป