ตามหาเจ้าอาวาส หอบเงินกฐิน 4 แสนหนี แฉซิ่งบิ๊กไบก์คว่ำกลางดึก เพิ่งรู้ถูกคุมประพฤติเมาแล้วขับ สวมรวยเป็นฆราวาส บอกโรงพยาบาลว่าเพิ่งสึก

วันที่ 27 พ.ย.65 ผู้สื่อข่าวเข้าพบกับ นางฉวีวรรณ ใจชื้น อาจารย์ประจำสถาบันพลังจิตตานุภาพ สาขา 111 พร้อมด้วยอดีตคณะกรรมการวัดป่าวิมุตยาราม ต.สวนกล้วย อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี หลังร้องขอให้ช่วยประกาศตามหา พระธนากร รักขิตตสีโล เจ้าอาวาสวัดป่าวิมุตยาราม ที่หายออกจากวัดไปพร้อมกับเงินกฐินมูลค่ากว่า 400,000 บาท นานกว่า 1 เดือน วอนนำเงินศรัทธาของชาวบ้านมาคืนวัด

นางฉวีวรรณ พร้อมอดีตคณะกรรมการวัด ได้นำเอกสารสำเนาซึ่งเป็นหนังสือร้องเรียนพฤติกรรมเจ้าอาวาสวัด ต่อพระปิยทัสสี เจ้าคณะจังหวัดราชบุรี (ฝ่ายธรรมยุต) รวมไปถึง สมุดบัญชีเงินฝากธนาคารของวัด และภาพถ่ายสมุดนัดรายงานตัวคดีขับรถขณะเมาสุราของกรมคุมประพฤติ มาให้ผู้สื่อข่าวได้ดู

นางฉวีวรรณ เปิดเผยว่า วัดได้จัดงานทอดกฐินขึ้นเมื่อวันที่ 23 ต.ค.ที่ผ่านมา โดยพุทธศาสนิกชนได้ร่วมทำบุญรวมเป็นเงิน 438,912.78 บาท ต่อมาเวลาประมาณ 12.00 น. อาจารย์ประจำสถาบันจิตตานุภาพได้นำเงินดังกล่าวไปเข้าบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาโลตัสบ้านโป่ง จากนั้นเวลาประมาณ 16.00 น. เจ้าอาวาสพร้อมด้วยคนขับรถ ได้เบิกเงินออกจากบัญชี จนเหลือเพียง 12.78 บาท ก่อนที่จะหายตัวออกไปจากวัดในคืนวันที่ 24 ต.ค. โดยไม่สามารถติดต่อได้ และยังมารู้ในภายหลังอีกว่าได้นำเงินช่วยงานกฐินจำนวน 1 แสนบาทของท่านเจ้าคุณจากวัดพุทธบูชาไปอีกด้วย

กระทั่งวันที่ 26 ต.ค. จึงทราบข่าวว่าเจ้าอาวาสได้ประสบอุบัติเหตุจากการขี่รถจยย.บิ๊กไบก์ตอนกลางคืน ขณะสวมชุดแต่งกายแบบฆราวาส และเข้ารักษาอาการบาดเจ็บที่โรงพยาบาลนครปฐม ในนามของ นายธนากร อินทร์แก้ว ไม่ใช่พระสงฆ์ ตั้งแต่วันที่ 26 – 28 ต.ค. ต่อมาในวันที่ 31 ต.ค. ยังได้กลับไปที่โรงพยาบาลนครปฐมอีกครั้ง โดยไม่ได้ห่มจีวร และแสดงตัวว่าเป็น นายธนากร

นอกจากนี้ จากการตรวจสอบหลักฐานในกุฏิเจ้าอาวาส ยังพบว่าก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 1 ก.พ.65 นายธนากร ยังได้ขับรถเก๋งบีเอ็มฯ สีขาว ออกไปจากวัด แล้วเวลาประมาณ 03.00 น. เกิดอุบัติเหตุขับไปชนท้ายรถเก๋งที่บริเวณแยกไฟแดง อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี ทำให้รถของคู่กรณีเสียหาย ด้วยสาเหตุเมาแล้วขับ กรมคุมประพฤติได้มีคำสั่งให้ นายธนากร ต้องเข้ารายงานตัวที่ คป.กทม.8 ประจำศาลาอาญาธนบุรีทุก 3 เดือน เป็นเวลา 1 ปี ต้องทำงานบริการสังคม 12 ชั่วโมง และชดใช้ค่าเสียหายกับคู่กรณีเป็นเงิน 250,000 บาท

ที่ผ่านมา นายธนากร ในขณะที่ยังดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาส ได้มีพฤติกรรมไม่โปร่งใสเรื่องของการบริหารจัดการเงินของวัด โดยเฉพาะโครงการก่อสร้างพระอุโบสถ จนทำให้คณะกรรมการวัดในขณะนั้นไม่สบายใจจนถึงขั้นลาออกทั้งหมด
ในนามของพุทธศานิกชน จึงเห็นว่าการกระทำของ นายธนากร จะทำให้พระพุทธศาสนาต้องมัวหมอง อีกทั้งต้องการติดตามเงินศรัทธาของชาวบ้านคืนให้กับวัดตามเจตจำนงค์อย่างแท้จริง

นายวัลลภ เย็นใจ คนขับรถเจ้าอาวาส เปิดเผยว่า ตนเป็นเพียงเด็กวัด ทำหน้าที่ในการดูแล และช่วยงานต่างๆ โดยได้รับค่าตอบแทนจากเจ้าอาวาสเดือนละ 9,000 บาท แต่เนื่องจากตนชอบใช้จ่ายฟุ่มเฟือย เก็บเงินไม่อยู่ เจ้าอาวาสจึงให้เงินเพียงเดือนละ 5,000 – 6,000 บาท ในส่วนของเงินที่เหลือเจ้าอาวาสจะเป็นผู้เก็บรักษาไว้ให้ ปัจจุบันมียอดรวมประมาณ 70,000 บาท หลังการหายตัวไปของเจ้าอาวาส ทำให้ขณะนี้เงินที่ตนตั้งใจจะมอบให้กับแม่อยู่ที่ใด

ส่วนที่ตนมีชื่อเป็นผู้มีสิทธิ์เบิกเงินร่วมกับเจ้าอาวาสนั้น ในช่วงเย็นวันที่ 23 ต.ค. เจ้าอาวาสได้แจ้งว่าให้ไปร่วมถอนเงินออกจากธนาคาร ตนคิดว่าจะนำเงินมาใช้จ่ายของวัดหลังงานกฐิน ไม่คิดว่าเจ้าอาวาสจะกลับนำเงินทำบุญกว่า 4 แสนบาทหนีไป

ด้าน พระโรจน์วัฒน์ รัตนเรืองภิญโญ พระลูกวัด เปิดเผยว่า ปัจจุบันทางวัดมีพระสงฆ์อยู่จำวัดเพียง 2 รูป เนื่องด้วยเป็นพระที่อยู่ในวัยสูงอายุ คือ 68 ปี และ 65 ปี ประกอบกับเป็นวัดป่าสายธรรมยุตจึงไม่รับกิจนิมนต์ ทำเพียงออกบิณฑบาตตามกิจของสงฆ์

โดยหลังจากที่เจ้าอาวาสได้หายตัวไป ทำให้ญาติโยมหนีหายไม่มาทำบุญที่วัดดังเช่นปกติ ขณะนี้ทางวัดจึงมีความลำบาก ในเรื่องของปัจจัยสำหรับเป็นค่าไฟฟ้า และน้ำประปา อาตมาอยากให้ญาติโยมมองว่าเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องความผิดเฉพาะตัวบุคคล ไม่เกี่ยวข้องกับทางวัดและพระพุทธศาสนาแต่อย่างใด

สำหรับ วัดป่าวิมุตยาราม เดิมเป็นสำนักสงฆ์ปฏิบัติธรรม ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 29 พ.ย.2552 โดยมีผู้ใจบุญได้น้อมถวายที่ดินแด่ พระเทพมงคลญาณ (หลวงปู่สนธิ์ อนาลโย) เจ้าอาวาสวัดพุทธบูชา จำนวน 23 ไร่ และยังเป็นที่ฝึกอบรมของสถาบันพลังจิตตานุภาพ สาขาที่ 111 ของสมเด็จพระญาณวชิโรดม (วิริยังค์ สิรินฺธโร) ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อปี 2558 มี พระธนากร รักขิตตสีโล ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาส และอาจารย์ประจำสถาบันพลังจิตตานุภาพ บวชเมื่อวันที่ 3 มิ.ย.2552 ที่วัดพุทธบูชา มีพระเทพมงคลญาณ (หลวงปู่สนธิ์ อนาลโย) เป็นพระอุปัชฌาย์