ตามล่า "ปาเจโร่หัวร้อน" ขับเฉี่ยวแคมรี่ ก่อนใช้ปืนตบหัวผู้หญิงเลือดอาบ

Home » ตามล่า "ปาเจโร่หัวร้อน" ขับเฉี่ยวแคมรี่ ก่อนใช้ปืนตบหัวผู้หญิงเลือดอาบ

ปาเจโร่เลือดร้อน ขับรถเฉี่ยวชน-ใช้ปืนตบหัวผู้หญิงเลือดอาบ บริเวณตรงข้ามตลาดนำชัย เจ้าหน้าที่รู้ตัวแล้วว่าเป็นใคร

กรณีผู้ใช้บัญชีเฟซบุ๊กชื่อ ไตรรัตน์ เพชรธำรงชัย ได้โพสต์ภาพคลิปเหตุการณ์พร้อมข้อความระบุว่า “วิ่งเข้าไปช่วยแล้ว เข้าไปช่วยไม่ได้ วัยรุ่นชักปืนขู่แล้วเอาปืนตบป้าที่ขับแกรบ จากที่สอบถามผู้โดยสาร ขับช้าปกติ คู่กรณีขับเร็วมาก ถึงไฟแดงจอดขวาง และถอยมาชน ป้าก็ลงมาดูรถที่ถูกชน หลังจากนั้นเอาปืนตบหลายทีมากๆ (ฝากไว้ด้วยผู้หญิงมีอุบัติเหตุอย่า ลงจากรถถ้าดูแล้วไม่ปลอดภัยครับ)” ซึ่งมีผู้เข้าไปแสดงความคิดเห็นกันจำนวนมากนั้น

ล่าสุด วันนี้ (14 ส.ค.) เมื่อเวลา 13.30 น. ทางกองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้ชี้แจงกรณีมีคลิปปรากฎตามสื่อต่างๆ ที่ชายขับขี่รถยนต์ยี่ห้อมิซูบิชิ รุ่นปาเจโร่ สีดำได้ชักปืนขู่ แล้วเอาปืนตบผู้ขับรถรับจ้างหญิงจนได้รับบาดเจ็บว่า

จากการตรวจสอบพบว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 13 ส.ค.ที่ผ่านมา เวลา 15.30 น. โดย นางสุรางค์ ซึ่งมีอาชีพขับรถรับจ้าง ยี่ห้อโตโยต้ารุ่นแคมรี่ สีดำ หมายเลขทะเบียน 2647 กทม. ได้ขับมาตามถนนลาดกระบังจากประเวศมุ่งหน้าลาดกระบัง โดยได้มากลับรถบริเวณหมู่บ้านสุภาลัย เพื่อมุ่งหน้าไปทางด้านประเวศ โดยมีผู้โดยสารนั่งโดยสารมาด้วย

ขณะเดียวกันมีรถยนต์ยี่ห้อมิซูบิชิ รุ่นปาเจโร่ สีดำ หมายเลขทะเบียน 3242 กทม. ซึ่งขับขี่มาตามถนนลาดกระบัง จากทางด้านลาดกระบังมุ่งหน้าประเวศด้วยความเร็ว ได้ขับรถมาเฉี่ยวชนรถนางสุรางค์ทางด้านขวา และบังคับให้นางสุรางค์จอดรถ จากนั้นชายผู้ขับขี่ซึ่งยังไม่ทราบว่าเป็นผู้ใด อายุประมาณ 35 ปี ได้ลงมาจากรถใช้มือตบกระจกมองข้างด้านขวาของรถนางสุรางค์แตก

จากนั้นได้ใช้อาวุธปืนไม่ทราบยี่ห้อและขนาด สีเงิน ตบไปที่ศีรษะด้านซ้ายของนางสุรางค์ 4-5 ครั้ง เป็นเหตุให้ได้รับบาดเจ็บศีรษะแตก และนางสุรางค์ได้พยายามดึงเสื้อชายคนดังกล่าวจนขาดออกและเก็บไว้เป็นหลักฐาน

ซึ่งขณะเกิดเหตุมีพลเมืองดี 2-3 คนเข้ามาห้ามและได้ถ่ายคลิปเอาไว้ ชายคนดังกล่าวจึงขึ้นรถหลบหนีไป จากนั้นนางสุรางค์จึงได้ไปรักษาอาการบาดเจ็บที่โรงพยาบาลสิรินทร และได้เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวนสน.ลาดกระบังแล้ว

จากการสืบสวนเบื้องต้นทราบว่าผู้ก่อเหตุ คือ นายเสฏฐวุฒิ อายุ 36 ปี ชาว จ.สมุทรปราการ ทั้งนี้ พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างเร่งรัดรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ