ทำเอาใครหลายคนแอบงงไปตามๆ กัน เมื่อดีเจสาวอารมณ์ดี ต้นหอม-ศกุนตลา เทียนไพโรจน์ ได้โพสต์ข้อความประกาศยกเลิกการขึ้นคอนเสิร์ตที่ประเทศออสเตรเลียทันที

ล่าสุด มีโอกาสได้เจอศิลปินหนุ่ม ตั้ม-วราวุธ โพธิ์ยิ้ม ที่มาร่วมงาน ปรากฎการณ์ one สนั่นจอ ครึ่งปีหลัง 2023 และคือผู้ที่มีรายชื่อขึ้นคอนเสิร์ตในประเทศดังกล่าวด้วย จึงได้ถามถึงปัญหาที่เกิดขึ้น โดยเจ้าตัวก็ได้เล่าว่า…

“ปัญหานี้เกิดจากฝั่งพี่หอมโดยตรง ทางคนจัดงานที่ออสเตรเลียเขาเชิญพวกเราไปเล่นคอนเสิร์ตที่นู่น มีห้าคน มี ผม พี่ซานิ พี่บอย พิษณุ พี่ต้นหอม และปอ อรรณพ คอนเสิร์ตก็เลื่อนมา แล้วการเลื่อนมาเป็นการเลื่อนแบบไม่มีกำหนด”

“แล้วพี่ต้นหอมเป็นคนที่เต็มที่กับงาน แกได้มีการไปทำแบ็คกิ้งแทร็ค เป็นการลงทุนเพื่อที่จะไปงานนี้ ซึ่งได้มีการแจ้งกับทางผู้จัดงานแล้วว่าเดี๋ยวจะต้องมีค่าใช้จ่ายตรงนี้ ซึ่งได้มีการตกลงกันไว้”

“แต่ด้วยพอเลื่อนออกไปโดยไม่มีกำหนดและดูท่าว่าอาจจะไม่เกิดด้วยมั้ง เงินที่พี่ต้นหอมลงทุนไปก็อาจจะไม่ได้ พี่หอมเลยโพสต์แบบนั้นไป ผมถามถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับพี่ต้นหอมด้วยเขาก็เราว่ามีคนดีเอ็มมาหา เขาซื้อตั๋วไปแล้วแต่ตอนนี้ยังไม่ได้รับเงินค่าตั๋วกลับคืน”

แนวโน้มงานคอนเสิร์ตครั้งนี้จะไม่มีเกิดขึ้นแน่นอนใช่ไหม ?
“ผมไม่แน่ใจ แต่ฝั่งผมไม่ได้รับผลกระทบอะไรกับเรื่องนี้ ผมไม่มั่นใจว่ามีการเลื่อนครั้งหรือสองครั้ง ครั้งแรกเขาให้เหตุผลว่าที่นู่นมีการจัดคอนเสิร์ตเยอะ คนดูอาจจะไม่มีเงินซื้อบาทบวกกับว่าเป็นช่วงเทศกาลคนไทยที่โน่นก็จะกลับเมืองไทย”

งานนี้เขาได้มีการจ่ายมัดจำให้กับศิลปินล่วงหน้าหรือเปล่า ?
“งานนี้รู้สึกว่าจะไม่มีมัดจำ คืองานนี้มีการดิวกันมาประมาณสองเดือนแล้วครับรายละเอียดจำไม่ได้ซึ่งคนที่ดิวก็เป็นคนไทยที่อยู่ออสเตรเลีย”

คอนเสิร์ตครั้งนี้มี ต้นหอม ถอนตัวคนเดียวใช่ไหม ?
“เท่าที่ทุกคนทราบก็มีพี่ต้นหอมคนเดียว แล้วงานก็ดูเหมือนว่าจะไม่เกิดผมก็ไม่แน่ใจ ผมไม่รู้ว่างานเขาจะจัดขึ้นอีกไหม หรืออย่างไรเพราะเขาเงียบไปเลย ส่วนตัวก็ไม่ได้คิดอะไรเพราะคิดว่าถ้าเกิดงานไม่เกิดแล้วก็รับงานอื่นไปรายละเอียดเรื่องงานต่างๆ ผู้จัดการจะเป็นคนคุยกับลูกค้าผมจะไม่ค่อยทราบเรื่อง”

“หลังจากเกิดเรื่องอย่างที่ผมเล่าให้ฟังว่าได้คุยกับพี่ต้นหอมว่ามันเกิดอะไรขึ้น พี่ต้นหอมต้องมีการสำรองจ่ายอะไรไปบ้าง มีคนดีเอ็มมาหาเขาอย่างไรบ้าง ทำให้พี่หอมต้องโพสต์แบบนี้เข้าใจทางฝั่งพี่หอมว่าเขาต้องปลุกป้องตัวเอง”

ถ้าเกิดเขาเอาชื่อเราไปแอบอ้างในการขายบัตรเราจะทำอย่างไร ?
“ตอนนี้ผมเริ่มกังวล รายละเอียดผมไม่รู้อะไรเลยเพราะผมทำงานทุกวัน แต่ถ้าเกิดมีหลักฐานมีคนดีเอ็มมาหาผม บอกว่าฉันจ่ายเงินค่าบัตรไปแล้ว ฉันยังไม่ได้เงินคืนเลยและคอนเสิร์ตจะขึ้นเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ถ้าเป็นอย่างนั้นผมคงต้องให้ผู้จัดการของผมช่วยจัดการว่าทางงาน หลอกลวงเงินหรือเปล่า ต้องเช็กกันแต่บังเอิญว่าทางผมยังไม่มีฟิดแบกอะไรมา”

ของเราไม่มีส่งผลเรื่องของการล็อกคิวไว้แล้ว สุดท้ายไม่ได้ไป ?
“มันเหมือนกับว่าเราจะทำวีซ่า ที่จะไปทำงานที่นั้น เหมือนว่าเขาต้องรอให้เราผ่านก่อนเขาถึงจะจ่ายมั้ง ระหว่างนั้นเขาขอไปโปรโมทก่อนว่าจะมีคอนเสิร์ต คงดำเนินกันก่อน สุดท้ายก็ยังไม่เสร็จ และก็เกิดการเลื่อนมาก่อน ที่ผ่านมาผมก็ไม่เคยเจอกรณีแบบนี้ครับ นี่คือครั้งแรกเหมือนกัน”