จากกรณีโซเชียลมีเดียได้มีการวิพากษ์วิจารณ์กับภาพการฉีดวัคซีน “แอสตร้าเซนเนก้า” เข็มที่ 3 ให้กับตำรวจ สภ.บ้านใหม่ไชยพจน์ จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นการบูสเตอร์หลังฉีดซิโนแวคครบ 2 เข็ม ทั้งที่ไม่ใช่บุคลากรทางการแพทย์นั้น
ล่าสุดผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายธัชกร หัตถาธยากูล ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ ได้ลงนามคำสั่งจังหวัดบุรีรัมย์ ที่ 5417/2564 ลงวันที่ 25 ก.ค. 2564 เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าว
โดยรายละเอียดหนังสือคำสั่ง ระบุว่า ด้วยปรากฏข้อมูลตามสื่อโซเชียล สังคมออนไลน์ (เฟซบุ๊ก) กรณีว่ามีกระแสข่าวการฉีดวัคซีนในพื้นที่ของอำเภอบ้านใหม่ไชยพจน์ จังหวัดบุรีรัมย์ ให้กับเจ้าหน้าที่ให้บริการด่านหน้าอื่นที่ไม่ใช่บุคลากรทางการแพทย์โดยตรง ในการเฝ้าระวังป้องกันควบคุมการติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ก่อให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับการบริหารจัดการการฉีดวัคซีนของหน่วยงานภาครัฐ จังหวัดบุรีรัมย์
ฉะนั้น อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 54 และ มาตรา 57 แห่ง พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ.2534 จึงแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีว่ามีกระแสข่าวการฉีดวัคซีนในพื้นที่ของอำเภอบ้านใหม่ไชยพจน์ ให้กับเจ้าหน้าที่ให้บริการด่านหน้าอื่นที่ไม่ใช่บุคลากรทางการแพทย์ โดยตรง ในการเฝ้าระวังป้องกันควบคุมการติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)โดยมี นายไชยวัฒน์ จุนระพงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ เป็นประธานกรรมการ
ด้าน สํานักงานสาธารณสุขบุรีรัมย์ ชี้แจงว่า ตำรวจที่ได้รับการฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 ถือเป็นเจ้าหน้าที่ด่านหน้า ต้องรับส่งผู้ป่วยโควิด-19 กลับมารักษาตัวที่บ้านเกิด
ขณะเดียวกัน เฟซบุ๊ก สถานีตำรวจภูธรบ้านใหม่ไชยพจน์ จังหวัดบุรีรัมย์ ได้โพสต์ข้อความระบุว่า “เรียน ทุกท่านทราบ เนื่องจาก เจ้าหน้าตำรวจทั้ง 11 นาย ได้รับคำสั่งให้มีหน้าที่รับส่งผู้ป่วยโควิค กลับมารักษาตัวที่บ้านเกิด ชึ่งอาจจะต้องเสี่ยงสัมผัสกับผู้ป่วยโควิค ในการรับส่ง ชึ่งถือว่าเป็นผู้ที่มีความเสี่ยงสูง จึงได้รับวัคซีนอีกเพื่อเป็นเกราะคุ้มกันครับ จึงเรียนมาเพื่อทราบ”