เครือข่ายจะนะรักษ์ถิ่น อ่านแถลงการณ์หน้าทำเนียบรัฐบาล ยืนหยัดสู้ต่อ แม้พี่น้องถูกจับกุม ยอมเอาชีวิตเป็นเดิมพัน แฉ มีคนยื่นข้อเสนอให้หยุดเคลื่อนไหว แล้วจะไม่ดำเนินคดี
เมื่อเวลา 10.30 น. ที่หน้าทำเนียบรัฐบาล น.ส.ไครียะห์ ระหมันยะ เยาวชนนักเคลื่อนไหว เครือข่ายจะนะ รักษ์ถิ่น หรือ ลูกสาวแห่งทะเลจะนะ พร้อมด้วยเยาวชนประมาณ 10 คน ที่เป็นลูกหลานของผู้ชุมนุมที่ถูกเจ้าหน้าตำรวจจับกุม ไปเมื่อคืนวันที่ 6 ธ.ค. จากบริเวณหน้าทำเนียบรัฐบาล ขณะชุมนุมคัดค้าน โครงการนิคมอุตสาหกรรมจะนะ โดยได้ร่วมกันอ่านแถลงการณ์ ในนามเครือข่ายจะนะ รักษ์ถิ่น
น.ส.ไครียะห์ กล่าวว่า การเดินทางมาทำเนียบรัฐบาลในวันนี้ เพื่อบอกรัฐบาลให้หยุดคุกคามแผ่นดินของคนจะนะ เพื่อให้หยุดสร้างนิคมอุตสาหกรรม แต่สิ่งที่เกิดขึ้นรัฐบาลกลับนำที่ดินไปให้นายทุนเพียงสองบริษัทเกือบ 2 หมื่นไร่ และเหตุการณ์วันที่ 6 ธ.ค. ย้ำชัดถึงการปกป้องกลุ่มทุน เราขอยืนยันแม้จะถูกจับกุมอีกกี่ครั้ง เมื่อออกมาแล้วก็จะกลับมายังทำเนียบรัฐบาลเหมือนเดิม เราไม่ไปไหน แม้จะถูกทำลายจากกลุ่มอำนาจสักกี่ครั้งก็ตาม ภารกิจนี้ขอเอาชีวิตเป็นเดิมพัน ขอยืนหยัดจนถึงที่สุด
น.ส.ไครียะห์ กล่าวว่า วันนี้ภาคีเครือข่าย 5 จังหวัดภาคใต้ ถึงเวลาแล้วที่ต้องลุกขึ้นแสดงตนปกป้องแผ่นดิน โดยจะต่อสู่จนกว่าโครงการดังกล่าวจะยุติ และในวันเดียวกันนี้เครือข่ายในพื้นที่ จังหวัดชายแดนภาคใต้จะรวมตัวกันที่ อ.จะนะ เพื่อร่วมออกแถลงการณ์ร่วมกัน ส่วนการเคลื่อนไหวในกทม.ขอประเมินสถานการณ์ก่อน
นอกจากนี้ ยังทราบว่าขณะนี้ มีการแจ้งข้อหาดำเนินคดีกับผู้ชุมนุมที่ถูกจับกุมไป แต่มีการให้ข้อเสนอไม่ดำเนินคดีแลกกับการหยุดเคลื่อนไหว ซึ่งผู้ที่ถูกจับกุมไม่ยอม และยืนยันว่าคดีเพียงแค่นี้ ไม่สามารถหยุดการเคลื่อนไหวของพวกเราได้
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ข้อเสนอดังกล่าวมาจากใคร น.ส.ไครียะห์ กล่าวว่า ไม่ทราบรายละเอียด เพียงแต่ทราบจากคำบอกเล่าของผู้ถูกจับกุมเท่านั้นว่ามีการยื่นข้อเสนอให้ ตอนนี้เหลือแค่หนูและน้องๆ เราได้สารจากผู้ที่ถูกจับกลุ่มคุมขังไปเมื่อคืน ที่ระบุว่าเขาจะมาเจรจาไม่ดำเนินคดีกับพวกเรา แลกกับการ ไม่เรียกร้องเรื่องนิคมอุตสาหกรรมจะนะ อีกต่อไป แต่พี่น้องทุกคนไม่ยอมรับและพร้อมที่จะสู้คดี และยืนยันว่าถ้าออกจากการถูกคุมขังไปได้จะมาหน้าทำเนียบรัฐบาลเพื่อเรียกร้องต่อไปอีก จนกว่าข้อเรียกร้องจะบรรลุ เพราะคดีแค่นี้ทำลายความตั้งใจของพวกเราไม่ได้ เราพร้อมจะเอาชีวิตเข้าแลก
เมื่อถามว่า กรณีที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า อดีตรมช.เกษตรและสหกรณ์ ที่เคยลงนามเอ็มโอยูให้มีการศึกษาโครงการอีกครั้ง แต่ขณะนี้ร.อ.ธรรมนัสพ้นจากตำแหน่งแล้ว กังวลว่าจะมีผลกับเอ็มโอยู ที่ทำไว้หรือไม่ น.ส.ไครียะห์ กล่าวว่า ร.อ.ธรรมนัส เป็นผู้ลงนาม แต่เอ็มโอยูดังกล่าวเป็นการลงนามของรัฐบาลไม่ใช่ตัวบุคคล จึงต้องดำเนินการต่อเนื่อง แต่ตอนนี้เหมือนรัฐบาลดำเนินการแบบมั่วกันไปหมด
“ปีที่แล้วเราได้ทำเอ็มโอยูไว้กับร.อ.ธรรมนัสก็จริง แต่ในนามสัญญานี้คือเราทำร่วมกับรัฐบาล ไม่ได้ทำโดยบุคคล ทุกอย่างยังเป็นเหมือนเดิม รัฐบาลเซ็นมั่วกันไปหมด เซ็นไปแล้วเซ็นทิ้งๆขว้างๆโดยไม่รับผิดชอบอะไรสักอย่างเลยตอนนี้ พวกเราจะสู้จนกว่าจะมีการยุติโครงการอุตสาหกรรมนิคมจะนะ และทำตามข้อเรียกร้องที่ได้ทำกันไว้เมื่อหนึ่งปีที่แล้ว”น.ส.ไครียะห์ กล่าว