วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2567 หลังจากที่มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการขอหมายจับ ตะวัน ทะลุวัง หรือ ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ อีกทั้งยังมีการบุกค้นบ้านของตะวัน แต่ไม่พบเจ้าตัวอยู่ที่บ้าน โดยที่มาของหมายครั้งนี้เกิดประเด็นการป่วนขบวนเสด็จ โดยรถของตะวันและเพื่อนพยายามขับรถแซง ขบวนเสด็จ ในขณะที่ขบวนกำลังผ่านทางด่วน พร้อมบีบแตรลากยาวระหว่าง ขบวนเสด็จ ผ่านและใช้ถ้อยคำดูหมิ่นเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่ถวายความปลอดภัย เมื่อวันที่ 7 ก.พ. ที่ผ่านมา ซึ่งทาง ตะวัน เอง ก็ได้ออกมาปฏิเสธไปในก่อนหน้านี้ พร้อมทั้งมีการจัดกิจกรรมแปะโพล และยืนยันว่า ตนไม่มีเจตนาปั่นป่วน เพียงแค่ประชาชนทุกๆคน นั้นสามารถตั้งคำถามได้
ล่าสุดในวันเดียวกันนี้ ตะวัน ได้เดินทางมายัง ศาลอาญารัชดา เพื่อมาเยี่ยมนักข่าวและช่างภาพอิสระ ที่โดนคุมตัวฝากขัง หลังถูกดำเนินคดีในข้อกล่าวหาสนับสนุนการทำให้โบราณสถานเสียหาย จากการลงพื้นที่ทำข่าว พ่นสีกำแพงวัดพระแก้ว เมื่อวันที่ 28 มี.ค. 66 ที่ผ่านมา
- ตะวัน ทะลุวัง เผย! ความจริง 4 ข้อ ปมปะทะ ศปปส. และป่วนขบวนเสด็จ
- ด่วน! ขอหมายจับ ‘น.ส.ทานตะวัน ตัวตุลานนท์’ เอาผิด คดีป่วนขบวนเสด็จ
- แก๊งศปปส. โพสต์ขู่! เก็บ ‘ตะวัน ทะลุวัง’ ชาวเน็ตจวก ตร. จะนิ่งเฉยจริงหรือ?
โดย ตะวัน นั้นให้สัมภาษณ์ผ่านผู้สื่อข่าว และฝากถึงสังคมไทยต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นว่า
“ฝากให้สังคมไทยพยายามวิเคราะห์กันให้ดี ดูกันให้ออกว่าภาครัฐต้องการอะไร ไอโอที่พยายามปั่นต้องการอะไร พยายามโยงพวกหนูจากพรรคการเมืองบ้างแหละ แต่จริงๆ ไม่มีใครอยู่เบื้องหลังเราเลย เพราะฉะนั้นวันนี้เราอยู่ในปี 2567 อย่าถอยหลังไปปี 2519 เราต้องเดินหน้าต่อไป อย่าถอยหลังลงคลอง ฝากเรื่องนี้ด้วยค่ะ อย่าตกเป็นเหยื่อของขบวนการไอโอเด็ดขาด คนไทยต้องวิเคาะห์ให้ได้ว่าตอนนี้ เขาพยายามปั่นอะไรเราอยู่ และไม่มีใครอยู่หลังพวกหนูทั้งสิ้น หนูออกมาด้วยใจ ออกมาด้วยอุดมการณ์ล้วนๆ และจุดยืนนี้ยังคงยืนยันต่อไปไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น หนูไม่กลัว และไม่หนี และจะสู้ต่อไป”
ส่วนในคดีของตนเองเรื่องการ ปั่นป่วนขบวนเสด็จนั้น ตะวัน ได้เปิดเผยว่า จะไม่หนี ไม่กลัว หากจะจับก็มาที่ศาลอาญารัชดาได้เลย จะรออยู่ที่นี่ ก่อนหน้านี้ มีการออกหมายเรียกแค่สร้างความเดือดร้อนรำคาญ เป็นความผิดลหุโทษ จ่ายค่าปรับก็จบ
แต่วันนี้ไม่ทราบว่าจะมีการยัดข้อหาอะไรให้ตนเองบ้าง รวมถึงไม่ทราบว่าจะมีหมายจับกี่ใบ ส่วนประเด็นที่จะมีการเพิกถอนการประกันตัวของ 3 สน. นั้น ยอมรับว่าเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นกระทันหัน ยังไม่ทันตั้งตัวและไม่ได้คิดว่าจะสู้ต่อไปอย่างไร แต่ยืนยันว่าจะสู้ต่อไปแน่นอน