ตะลึง หนุ่มติดกล้องวงจรปิด 48 ตัว คอยเฝ้า ดงกล้วยด่าง มูลค่า 100 ล้าน

Home » ตะลึง หนุ่มติดกล้องวงจรปิด 48 ตัว คอยเฝ้า ดงกล้วยด่าง มูลค่า 100 ล้าน


ตะลึง หนุ่มติดกล้องวงจรปิด 48 ตัว คอยเฝ้า ดงกล้วยด่าง มูลค่า 100 ล้าน

ตะลึง หนุ่มติดกล้องวงจรปิด 48 ตัว คอยเฝ้า ดงกล้วยด่าง มูลค่า 100 ล้าน เผยที่ผ่านมา เคยปลูกสับปะรด ยางพารา แต่ไม่ประสบความสำเร็จ จนเป็นหนี้เป็นสิน

วันที่ 8 พ.ย. 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กล้วยด่าง ถือเป็นไม้ที่กระแสแรง นิยมเล่นหากันในช่วงนี้ ต้นสวย ฟอร์มดี จะมีราคาสูงต้นละหลักล้านบาท ทำให้หลายคนอยากหามาปลูกขยายพันธุ์ขายเพื่อหวังกำไล แต่สำหรับของหนุ่มราชบุรีวัย 37 ปีคนนี้ คือ นายธนกร เพ็งนาเรนทร์ ชาว อ.บ้านคา จ.ราชบุรี ที่เคยปลูกสับปะรด ยางพารา และทำอีกหลายอาชีพ แต่ไม่ประสบความสำเร็จ จนเป็นหนี้เป็นสินจำนวนมาก ในช่วงปัญหาโควิดระบาด สับปะรดราคาไม่ดี

ต่อมาเห็นมีการนิยมเล่นหาซื้อไม้ด่างกันในราคาแพง ๆ จึงตัดสินใจยืมทองคำของเมีย ที่ได้เก็บหอมรอบริบไว้ช่วงแต่งงาน มีอยู่ประมาณ 60 บาท ทยอยนำไปขายได้เป็นเงินมาประมาณ 1,600,000 บาท หาซื้อหน่อพันธุ์กล้วยด่างสายพันธุ์แดงอินโดมาทดลองปลูกเนื้อที่ประมาณเกือบ 200 ตารางวา เนื่องจากมองว่ามีราคาแพงน่าจะขายได้ราคาดีกว่าการปลูกสับปะรด เมื่อออกหน่อโพสต์ขายผ่านช่องทางโซเชียล ทำให้เป็นที่รู้จัก มีลูกค้าสนใจติดต่อเข้ามาขอซื้อเรื่อยๆ

จากนั้นก็เริ่มขยายหน่อแยกปลูกเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากกำลังเป็นที่สนใจของคนในวงการกล้วยด่างมาก และก็ยังมีกระแสข่าวการลักขโมยกล้วยด่างกันหลายพื้นที่ ทำให้ที่นี่มีการป้องกันถึงกับยอมลงทุนทำรั่วลอมกำแพงเข้าออก ซื้อกล้องวงจรปิดจำนวน 48 ตัว รวมกว่า 1 แสนบาท มาติดตั้งรอบพื้นที่รั้วทั้งด้านนอกและด้านใน

และยังติดตั้งไฟฟ้าส่องสว่างอยู่บนเสาสูงเพื่อป้องกันคนร้ายเข้ามาขโมยต้นกล้วยอีกด้วย ทำให้ตอนนี้มีต้นแม่พันธุ์ราคาหลัก 10 ล้านอยู่ประมาณ 50 ต้นแล้ว มีการขยายพันธุ์หน่อหลายขนาดนับร้อย ๆหน่อ ใช้ระบบน้ำหยดดูแลพร้อมกับการล้อมรั้วมิดชิดอย่างดี

นายธนกร เพ็งนาเรนทร์ เจ้าของกล้วยด่าง เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ทำงานหลายอาชีพ ทั้งทำไร่ปลูกสับประรด ไร่มะกรูด ยางพารา พ่อค้าขายผัก แต่รายได้ไม่เพียงพอ จึงอยากหาอาชีพเสริมอีก โดยได้มาลองเลี้ยงกล้วยด่างสายพันธุ์แดงอินโด อย่างต้นที่ยืมทองเมียมาซื้อ ตอนนี้ไม่คนให้ราคาแล้ว 2 ล้านบาท แต่ยังไม่ขาย จึงได้ตั้งชื่อว่า กล้วยด่างแดงอินโด ทองคืนเมีย เพราะเอาทองไปขายเพื่อมาลงทุนซื้อ เมื่อขายได้ก็จะเอาทองคืนเมีย

ตอนนี้ขายหน่ออยู่ราคาหลักแสน จนถึงหลักล้านบาท ได้ขยายหน่อพันธุ์ปลูกเรื่อยๆ มองว่าราคากล้วยด่างถีบตัวสูงขึ้นมาก ส่วนต้นที่ชื่อ ทองคันนา ได้ซื้อมาเมื่อเดือนพฤษภาคมลักษณะพิเศษคือลวดลายที่ใบละเอียด มีสีทองเคลือบ คนปลูกทิ้งไว้ข้างคันนา เป็นดินทุ่งนาที่ค่อนข้างเหนียว ตนเองซื้อมา 2 แสนบาท ใบเป็นลายสีทองจึงตั้งชื่อว่า ทองคันนา ตอนนี้ขยายมีอยู่ 9 หน่อแล้ว มีลูกค้าจองเอาไว้ประมาณ 3 หน่อ หน่อละ 2 ล้านบาท ได้ฝากให้เลี้ยงดูแลไว้ให้โตอีกหน่อยก่อนจะเอาไป

นางนิภารัตน์ เพ็งนาเรนทร์ อายุ 37 ปี ภรรยา กล่าวว่า สามีเอาเงินไปซื้อกล้วยด่างมาเลี้ยงเอง ตอนหลังได้มาขอทองคำที่สะสมไว้นำไปขายเรื่อย ๆ จนเหลือแค่แหวน 2 วง คือ แหวนแต่งงาน เมื่อเลี้ยงแล้วขายได้เรื่อยๆ โดยจะมีต้นกล้วยแดงอินโดลักษณะพิเศษของลายสวยอยู่ต้นหนึ่ง จึงขอให้เป็นชื่อสายพันธุ์นี้ว่าทองคืนเมีย สามีก็เลยเขียนชื่อปักไว้ที่บริเวณโคนต้นในตะกร้าที่ปลูกไว้รอการขาย

ตอนนี้รู้สึกปลื้มใจกับความสำเร็จของครอบครัวที่สามารถขยายพันธุ์กล้วยด่าง และขายได้จริงในราคาหลักหลายล้านบาท นอกจากนี้ยังมีกล้วยด่างหลายสายพันธุ์ที่ปลูกไว้จำนวนมาก มีทั้งหน่อเล็กที่ลูกค้าสั่งจองไว้ ต้นใหญ่หลายขนาด ต้นพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ ซึ่งแต่ละต้นมีราคาตั้งแต่หลักแสนไปจนถึงหลักหลายล้านบาท บางต้นมีลูกค้าสั่งจองและนำชื่อมาเขียนปักไว้เป็นสัญลักษณ์ โดยจะเลี้ยงให้โตได้ขนาดก่อนส่งมอบกันในระยะต่อไป

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ