ตรัง สามีภรรยาหัวใส นำ “ข้าวเบายอดม่วง” ข้าวพันธุ์พื้นเมืองชื่อดังจังหวัด ต่อยอดทำเป็นขนมพองเค็ม ถูกปากสำหรับคนรักสุขภาพ รวมทั้งคนทานเจ มังสวิรัติ ผลตอบรับดีมาก จนผลิตไม่ทัน
“โกยอดขนมสูตรก๋ง” ตั้งอยู่เลขที่ 10/1 ถนนรัชชูปการ ในเขตเทศบาลตำบลห้วยยอด อำเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง เป็นร้านขายขนมโบราณทั้งขนมพองเค็ม ขนมกรอบเค็ม และขนมคิ้วนาง ซึ่งขายดีทั้งหน้าร้านและช่องทางออนไลน์ จนมีรายได้ถึงหลักแสนบาท และเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายนั้น
นายสิทธินนท์ หรือโกยอด ยี่สิ้น อายุ 44 ปี และ นางสาวอลิสา หรือแอม ว่องสกุล อายุ 42 ปี สองสามีภรรยาเจ้าของร้านโกยอดได้มีแนวคิดต่อยอด โดยการนำ “ข้าวเบายอดม่วง” ซึ่งเป็นข้าวพันธุ์พื้นเมืองชื่อดังของจังหวัดตรัง เหมาะสำหรับผู้สูงอายุ เพราะมีคาร์โบไฮเดรตต่ำ แต่มีโปรตีนสูงกว่าข้าวทั่วไป ทำให้กินแล้วไม่อ้วน จึงถูกต่อยอดเพื่อนำมาทำขนมพองเค็ม เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มและช่วยเหลือชาวนาจังหวัดตรัง
โดยการนำข้าวเบายอดม่วง ผสมกับข้าวไรซ์เบอรี่มาหุงให้สุก และนำมาแช่ตู้เย็นไว้เป็นเวลา 2 คืน แล้วนำมาตากแดดทิ้งไว้จนแห้ง จากนั้นนำมาทอดทำแทนข้าวพอง แล้วพักไว้ให้ข้าวเย็นลง เจียวหอมให้เหลืองสวยและกรอบกำลังดี
จากนั้นนำส่วนผสมน้ำตาลสำหรับเคี่ยวลงตั้งกระทะ เมื่อน้ำตาลได้ที่แล้ว นำเอาข้าวที่ทอดแล้วนำมาคลุกในกระทะ แล้วผัดให้เข้ากัน ก่อนตักข้าวที่ได้มาวางในบล็อกที่เตรียมไว้ เกลี่ยข้าวให้ทั่วบล็อก เสร็จแล้วตัดข้าวพองเป็นชิ้นใส่แพ็คเก็จเพื่อเตรียมจำหน่ายต่อไป สร้างตัวเลือกให้กับกลุ่มลูกค้าที่ชอบขนมพองเค็ม สูตรต้นตำรับ คนรักสุขภาพ
นายสิทธินนท์ หรือโกยอด บอกว่า ได้มีแนวคิดต่อยอดด้วยการนำข้าวเบายอดม่วง ซึ่งเป็นข้าวพันธุ์พื้นเมืองของจังหวัดตรัง มาทดลองทำเป็นขนมพองเค็ม แต่กว่าจะได้สูตรก็ลองอยู่หลายกระทะเหมือนกัน กว่าจะลงตัวก็เททิ้งไปหลายรอบ
แต่เมื่อสำเร็จก็กลายเป็นผลิตภัณฑ์ที่ดีตัวหนึ่งเลย เพราะรสชาติก็เป็นที่ถูกใจแก่ลูกค้า แต่รสสัมผัสของการทานจะแตกต่างกัน ตรงที่จะให้น้ำหนักเบา และกรอบ ยิ่งเก็บไว้นานจะยิ่งแห้งกรอบอร่อยมากขึ้น
ถ้าหากใช้ข้าวเบายอดม่วงตัวเดียว จะทำให้รสสัมผัสไม่อร่อยเท่าที่ควร จึงต้องใส่ส่วนผสมของข้าวกล้อง หรือข้าวไรซ์เบอรี่เข้าไปด้วย เพื่อให้ได้ความอร่อยมากขึ้น ซึ่งขนมพองเค็มที่ทำออกมาใหม่ล่าสุดมี 2 แบบด้วยกันคือ แบบแรก จะใส่เม็ดมะม่วงหิมพานต์ งาขาว และงาดำ ถูกปากสำหรับคนที่รักสุขภาพ ส่วนคนที่ทานเจ และมังสวิรัติ ก็ทานได้ ส่วนแบบที่สอง จะใส่หอมเจียวลงไป
ทั้งนี้ ปรากฏว่า มีผลตอบรับดีมาก จนผลิตไม่ทันกับความต้องการของลูกค้า เนื่องจากจะมีปัญหาในเรื่องการตากข้าว เพราะภาคใต้ช่วงนี้มีฝนตกเยอะ ทำให้ขั้นตอนในการตากข้าวกลางแดดต้องชะลอออกไป
ส่วนการนำข้าวเบายอดม่วงมาใช้ทำขนมพองเค็มนั้น ก็เพื่อที่จะช่วยเพิ่มมูลค่าให้แก่เกษตรกรชาวนา และอยากให้ข้าวเบายอดม่วงเป็นที่รู้จักมากขึ้น ซึ่งเมื่อลูกค้าได้ลองทานดูก็ติดใจ ต้องกลับมาสั่งซื้ออีก โดยจะขายในราคาตั้งแต่ถุงละ 40 บาทขึ้นไป
ขนมพองเค็ม สูตรข้าวเบายอดม่วง สามารถเก็บในอุณหภูมิปกติได้นานถึง 2 เดือนขึ้นไป แต่หากใส่ไว้ในตู้เย็น จะสามารถเก็บไว้ได้นาน 6 เดือน ถึง 1 ปีขึ้นไปเลยทีเดียว
ตอนนี้ได้เปิดรับออเดอร์อยู่ทุกวัน แต่ขอให้ลูกค้าใจเย็นๆ เนื่องจากบางช่วงต้องขึ้นอยู่กับวัตถุดิบที่จัดเตรียม โดยสามารถติดต่อได้ทางเพจ “โกยอดขนมสูตรก๋ง” หรือโทร.(097) 215-3930 หรือมาสั่งซื้อได้ที่ร้านจะอยู่ข้างโบสถ์คริสต์อำเภอห้วยยอด