ตร.ไล่จับวุ่น แก๊ง จยย.ป่วน กว่า 50 คัน ซิ่งเต็มถนน 304 ชาวบ้านเดือดร้อน แสบไม่ติดทะเบียนพรึ่บ ยกรถข้ามเลนหนีสุดชีวิต รวบได้ 4 ราย ไม่มีเอกสารครอบครองรถ

วันที่ 7 มี.ค.65 ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์คลิปวิดีโอกลุ่มรถจักรยานยนต์จำนวนมาก ขี่อยู่บนถนนส่งเสียงดังสร้างความเดือดร้อนรำคาญ พร้อมเขีนข้อความระบุว่า “แยกกบินทร์ หนีได้หนีเลยครับ” โดยในคลิปมีรถจักรยานยนต์จำนวนมาก ประมาณ 40-50 คัน ขับอยู่บนถนนสาย 304 ก่อนถึงแยก สามทหาร กบินทร์บุรี มุ่งหน้านครราชสีมา โดยขับกันเต็มถนน ส่งเสียงดังไปทั่วท้องถนน จากนั้นมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ขับรถจักยานยนต์ตามมา

เมื่อกลุ่มรถจักรยานยนต์เห็น รถเจ้าหน้าที่ตำรวจ ต่างพากันแตกฮือเพื่อหลบหนีเจ้าหน้าที่ตำรวจ บางคันถึงกับยกรถจักรยานยนต์ข้ามไปอีกเลนของถนน โดยไม่สนใจว่าจะมีรถยนต์วิ่งสวนทางมาหรือไม่ หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ตามมาได้เข้าจับกุม โดยมีภาพเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จับได้มีการเข้าล็อกคอคนขับที่กำลังหลบหนี

หลังจากคลิปถูกเผยแพร่ในโลกออนไลน์มีการแชร์ต่อเป็นจำนวนมาก บางเพจนำไปลงพร้อมระบุว่า “เด็กมันรวมตัวไปทำบุญ โถจ่าก็” ซึ่งมีบางคนเข้าไปต่อว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจ ว่าทำเกินกว่าเหตุหรือไม่ บางคนก็เข้าไปให้กำลังใจตำรวจ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสามารถบันทึกภาพระหว่างที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมแก๊งจักรยานยนต์กลุ่มนี้ไว้ได้บางส่วน บางคันเห็นเจ้าหน้าที่ตั้งจุดสกัดพยามที่จะไม่ผ่าน และหาทางเลี่ยงหลบหนีการจับกุมก็มี ซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมแก๊งค์ไว้ได้ 4 คัน

ตรวจสอบรถจักรยานยนต์ที่จับกุมได้นั้น เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบว่าทุกคันไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนสักคน ไม่มีเอกสารคู่มือครอบครองรถแต่อย่างใด เป็นรถแต่งซิ่งทั้งหมด เจ้าหน้าที่ตำรวจนำรถจักรยานยนต์ทั้งหมดไปที่ สภ.กบินทร์บุรี และให้นำเอกสารมาแสดง

จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจทราบว่าได้รับแจ้งจากประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนน สาย 304 กบินทร์บุรี มุ่งหน้านครราชสีมาว่า ได้มีรถจักรยานยนต์จำนวนมากขับขี่กันเต็มถนนไปหมด ขับขี่กันอย่างหวาดเสียว เกรงว่าผู้ร่วมทางจะได้รับอันตรายหากเกิดอุบัติเหตุขึ้นมา

เมื่อเจ้าหน้าที่ออกตรวจสอบ พบว่ากลุ่มรถจักรยานยนต์รวมกันอยู่ในปั๊มแห่งหนึ่ง หลังจากเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจต่างพากันแตกออกมา และเป็นภาพของการจับกุมอย่างที่เห็น

เบื้องต้น สอบถามคนขับรถจักรยานยนต์ทราบว่าตนเองพร้อมกับพวก ได้ขับรถกลับมาจากพัทยา และกำลังจะกลับบ้านที่วังน้ำเขียว โดยรวมกับมาเป็นกลุ่ม และมาถูกจับอย่างที่เห็นซึ่งเจ้าหน้าตำรวจจะได้ตั้งข้อหาตามความผิดต่อไป