สาวญี่ปุ่นตายปริศนา ในห้องน้ำโรงแรมดังกลางเมืองเชียงใหม่ สภาพศพมีสายชาร์จรัดคอ สามีบอกเมียฆ่าตัวตาย แต่ ตร.ไทยยังไม่ปักใจเชื่อ เร่งตรวจสอบเพื่อความกระจ่างในคดี รายงานให้กับทางกงสุลญี่ปุ่นประจำเชียงใหม่ทราบ

วันนี้ 31 ก.ค. 2566 เวลาประมาณ 09.53 น.ศูนย์รับแจ้งเหตุฉุกเฉิน 191 จังหวัดเชียงใหม่ รับแจ้งเหตุนักท่องเที่ยวหญิงชาวญี่ปุ่น อายุประมาณ 25 ปี เสียชีวิตไม่ทราบสาเหตุในโรงแรมแห่งหนึ่งกลางเมืองเชียงใหม่ ย่านถนนมหิดล ต.หายยา อ.เมืองเชียงใหม่ จึงได้แจ้งให้กับพนักงานสอบสวน พ.ต.ท.ทนงค์ศักดิ์ จันทร์เจือแก้ว และประสานแพทย์เวร รพ.มหาราชนครเชียงใหม่ , ตำรวจท่องเที่ยว , ตำรวจวิทยาการเชียงใหม่ , กู้ภัยรวมใจ , ชุดสืบสวน สภ.เมืองเชียงใหม่ ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ และได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้น รวมทั้งได้แจ้งไปยังสถานกงสุลประเทศญ๊่ปุ่นประจำจังหวัดเชียงใหม่

ที่โรงแรมดังกล่าว เหตุเกิดที่ห้อง 203 ซึ่งมีนักท่องเที่ยวชายหญิงชาวญี่ปุ่นพักอยู่ 2 คน ทางเจ้าหน้าที่จึงขึ้นไปตรวจสอบพบ นายชัยนาท อายุ 51 ปี พนักงานยกกระเป๋าของโรงแรม ที่ยืนรออยู่หน้าห้อง ได้แจ้งกับเจ้าหน้าที่ว่านักท่องเที่ยวหญิงชาวญี่ปุ่น เสียชีวิตไม่ทราบสาเหตุอยู่ภายในห้องดังกล่าว และมีชายสัญชาติญี่ปุ่น อายุ 31 ปี ซึ่งรับแจ้งว่าเป็นสามี นั่งท่าทางตระหนกตกใจอยู่ในห้อง ตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าผู้เสียชีวิตเป็นหญิงชาวญี่ปุ่น อายุ 25 ปี นอนเสียชีวิตอยู่กลางห้องสภาพศพสวมเสื้อกล้ามสีดำ ชุดชั้นในสีดำ มีสาย USB สีขาวรัดที่คอ ศพเริ่มแข็ง ไม่พบร่องรอยการต่อสู้

สอบถามนายชัยนาท ให้การว่าเมื่อเวลา 09.45 น. ตนได้รับแจ้งทางวิทยุจากพนักงานทำความสะอาด ว่านักท่องเที่ยวห้อง 203 ส่งเสียงเอะอะโวยวายขอความช่วยเหลือ ตนจึงรีบขึ้นไปดูพบสามีท่าตื่นตกใจ พาตนเข้าไปในห้องน้ำพบภรรยานอนอยู่ในอ่างอาบน้ำ จากการสอบปากคำสามีทราบว่า ทั้งคู่ได้เดินทางเข้ามาล่าสุดเมื่อวันที่ 24 มิ.ย.66 ประเภทวีซ่า ผ.30 ครบกำหนด 23 ก.ค.66 ปัจจุบันมาขออยู่ต่อ เมื่อ 21 ก.ค.66 เหตุผลเพื่อการท่องเที่ยว ครบกำหนด 22 ส.ค.66 โดยแจ้งที่พักล่าสุดที่โรงแรมดังกล่าว เมื่อวันที่ 29 ก.ค.66 มาพร้อมกับสามี

โดยทางสามีนั้นให้การกับทางเจ้าหน้าที่ว่า ไม่ทราบถึงการตายครั้งนี้แต่น่าเชื่อว่าอาจจะมาจากภรรยาของตนเองคิดมากเป็นโรคซึมเศร้า เดินทางมากรุงเทพก่อน จากนั้นภรรยาอยากมาเที่ยวเชียงใหม่ตนจึงได้พามาเชียงใหม่ ก่อนเกิดเหตุตื่่นขึ้นมาก็ไม่พบภรรยานอนข้างตนแล้ว เมื่อไปเปิดประตูห้องน้ำพบนอนตายในอ่างอาบน้ำ โดยใช้สาย USB รัดคออยู่ ตกใจจึงได้รีบไปแจ้งให้พนักงานโรงแรมและพามาดูที่เกิดเหตุดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การของสามีผู้ตาย ซึ่งจะต้องรอผลพิสูจน์ทางการแพทย์เพื่อพิสูจน์หาสาเหตุของการเสียชีวิตอย่างละเอียดอีกครั้ง รวมทั้งพยาน ทั้งบุคคลและในที่เกิดเหตุ เพื่อความกระจ่างชัดในเรื่องนี้ต่อไป