ตร.ไซเบอร์ออกหมายเรียก “มาริโอ้ เมาเร่อ” ให้ปากคำ โยงคดีรถเถื่อนแอบสวมทะเบียน

Home » ตร.ไซเบอร์ออกหมายเรียก “มาริโอ้ เมาเร่อ” ให้ปากคำ โยงคดีรถเถื่อนแอบสวมทะเบียน
ตร.ไซเบอร์ออกหมายเรียก “มาริโอ้ เมาเร่อ” ให้ปากคำ โยงคดีรถเถื่อนแอบสวมทะเบียน

ตํารวจไซเบอร์เตรียมเรียก “มาริโอ้ เมาเร่อ” เข้าให้ปากคำ ปมเอี่ยวแก๊งสวมทะเบียนรถ

วันนี้(6 ส.ค. 66) พล.ต.ต.อำนาจ ไตรพจน์ รอง ผบช.สอท. เปิดเผยถึงกรณีการเรียกนักแสดงหนุ่มชื่อดัง “มาริโอ้ เมาเร่อ” ภายหลัง พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผบ.ตร. ในฐานะ ผอ.ศูนย์ปราบปรามการโจรกรรมรถยนต์ รถจยย. สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร่วมกับกรมขนส่งทางบก ทางบก และตำรวจ บช.สอท. เปิดปฏิบัติการ “พลิกถนนล่า รหัสโจรกรรม” จับ 2 ผู้ต้องหาแก๊งสวมทะเบียนรถ โดยปูพรมยึดรถได้ 65 คัน มูลค่ากว่า 77 ล้านบาท และมีชื่อของ ดาราหนุ่มเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยว่าชุดทำงานได้มีการออกหมายเรียกนักแสดงหนุ่มเข้าให้ปากคำแล้ว ตั้งแต่วันที่ 14 ก.ค. ที่ผ่านมา แต่ยังไม่ได้มีการให้การที่เป็นลายลักษณ์อักษร

โดยระหว่างนั้นได้มีการพูดคุยให้ข้อมูลกับพนักงานสอบสวนในเบื้องต้นว่า ซื้อรถต่อมาอีกทอดหนึ่ง ไม่ใช่การซื้อซากรถแล้วนำมาประกอบ ซึ่งเป็นการซื้อรถมาพร้อมกับเอกสารทะเบียนเล่ม จึงไม่ทราบว่าเป็นของจริงหรือของปลอม ซึ่งในส่วนนี้เพื่อความชัดเจนพนักงานสอบสวนจำเป็นจะต้องเรียกนักแสดงหนุ่มเข้ามาให้ปากคำ พร้อมนำเอกสารหลักฐานมาแสดง ส่วนจะเป็นวันและเวลาใดนั้นอยู่ระหว่างการประสาน

นอกจากนี้ต้องสอบพยานแวดล้อม รวมทั้งบุคคลที่สามที่ดาราหนุ่มอ้างว่ามีการติดต่อซื้อขายกัน เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ชัดเจน นำมาดูด้วยว่ามีเจตนาซื้อโดยไม่รู้ว่ารถคันนี้เป็นรถไม่ถูกต้อง หรือรู้อยู่แล้วแต่ตั้งใจ จงใจซื้อ

โดยยังไม่เชื่อในคำให้การของนักแดสงหนุ่มทั้งหมด ในส่วนของการขยายผล ขณะนี้พบว่ามีกลุ่มที่มีรถโบราณที่ไม่ได้จดทะเบียนเป็นรถเถื่อนและแอบสวมทะเบียนทำผิดกฎหมายมกว่า 50 คัน ซึ่งชุดพนักงานสืบสวนสอบสวนกำลังขยายผลจับกุม โดยจะจับกุมเครือข่ายรายใหญ่ให้ได้ ซึ่งกลุ่มเหล่านี้มักจะนำซากมาจากที่อื่นแล้วนำมาประกอบก่อนจะจดทะเบียนปลอม และขายให้กับผู้ที่ชื่นชอบสะสมรถเก่าทั้งที่ผิดกฎหมาย

พล.ต.ต.อำนาจ ระบุว่าวันพรุ่งนี้ 7 ส.ค. จะเรียกชุดทำงานและพนักงานสอบสวน เพื่อร่วมกันหารือและวางแนวทางในการขยายผลเพื่อที่จะใช้ในการสอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้อง อย่างไรก็ตามคดีนี้ทาง พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล และ พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. ได้สั่งการให้ขยายผลจับกุมผู้กระทำผิดพร้อมเน้นย้ำให้ชุดทำงานดำเนินการอย่างรัดกุมและทำงานตรงไปตรงมา หากพบพยานหลักฐานเชื่อมโยงไปถึงกลุ่มบุคคลใดที่ส่อไปในการกระทำความผิดก็ต้องดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ