ลูกอึดอัด พ่อกดดันเรื่องเรียน ขึ้นรถไฟข้ามเมืองทั้งชุดนอน หวังไปหาแม่ แต่จบลงที่สถานีตำรวจ
สถานีโทรทัศน์เจียงซู รายงานว่า ในช่วงเย็นของวันที่ 18 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ตำรวจที่สถานีรถไฟในเมืองหนานจิง มณฑลเจียงซู ประเทศจีน พบเด็กชายสวมชุดนอนสีน้ำเงินลงจากรถไฟเพียงลำพัง และเมื่อถูกนำตัวไปที่สถานีตำรวจในท้องที่ เด็กชายก็บอกว่าเขาจำ หมายเลขโทรศัพท์ของพ่อแม่ไม่ได้
นายหลิว เจ้าหน้าที่ตำรวจท้องที่ กล่าวว่า “เด็กมีพฤติกรรมแปลกๆ และพยายามหลีกเลี่ยงคำถาม เขาบอกว่าเขาถูกพลัดหลงกับพ่อแม่ขณะที่อยู่บนรถไฟ และปฏิเสธการให้ข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับครอบครัว”
ในตอนแรกเจ้าหน้าที่สงสัยว่าเป็นเคส “วัยรุ่นหนีออกจากบ้าน” จึงรับมือด้วยการซื้ออาหารและปลอบใจเขา หลังจากพูดคุยกันสักพักเด็กชายก็เริ่มเปิดใจเล่าว่าทำไมเขาถึงอยู่คนเดียวในชุดนอน
ปรากฎว่าเด็กชายแซ่ชูคนนี้ กำลังศึกษาอยู่ที่โรงเรียนมัธยมต้นในเมืองอื่น เนื่องจากมีความคิดไม่ตรงกับผู้เป็นพ่อ เขาถือได้ว่าเป็นนักเรียนที่ผลการเรียนดีในโรงเรียน แต่พ่อกำหนดมาตรฐานที่สูงกว่านั้น และมีวิธีสอนลูกที่เข้มงวดมาก สุดท้ายเนื่องจากพ่อกดดันเรื่องผลการเรียน เขาจึงออกจากบ้านมา ตั้งใจจะขึ้นรถไฟไปตามหาแม่ที่ทำงานในเมืองลี่สุ่ย มณฑลเจ้อเจียง
ต่อมา ตำรวจสามารถติดต่อพ่อของเด็กชาย แต่อีกฝ่ายอยู่ในอารมณ์โกรธมาก และปฏิเสธที่จะมารับตัวลูกชาย โดยมองว่านี่เป็นการสอนบทเรียนให้กับเขา อย่างไรก็ตาม หลังจากใจเย็นลงเขาก็ตัดสินใจเดินทางมาที่สถานีตำรวจ เพื่อรับลูกชากลับบ้าน
ในตอนนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจหลิวยังได้แนะนำผู้เป็นพ่อว่า “คุณควรใส่ใจความปลอดภัยส่วนบุคคลของลูกเป็นสิ่งสำคัญที่สุด จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเด็กชายตกอยู่ในอันตราย? ผลการเรียนจะไม่ช่วยอะไรเลยในกรณีนี้”
เรื่องราวนี้ทำให้เกิดการถกเถียงกันอย่างดุเดือดบนโซเชียลเน็ตเวิร์กเกี่ยวกับวิธีการเลี้ยงดูลูก หลายๆ คนเห็นอกเห็นใจกับประสบการณ์ของเด็กชาย และคิดว่าพ่อควรเปลี่ยนวิธีสื่อสารกับลูกในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา
“ท้ายที่สุดแล้วลูกก็ยังเด็ก ผู้ปกครองควรอดทนในการสื่อสารกับลูก ๆ”
“ลูกได้คะแนนสูงในโรงเรียน คุณต้องการอะไรอีก”
“การสอนลูกอย่างเคร่งครัดเกินไปจะส่งผลต่อจิตวิทยาในอนาคตของเด็ก พ่อแม่ควรต้องทบทวนตัวเอง”
เด็กที่ต้องดิ้นรนกับแรงกดดันทางวิชาการอย่างหนักเป็นประเด็นที่มีการกล่าวถึงหลายครั้งในสื่อจีน ในเดือนมกราคม มีเคสเด็กชายป่วยซึมเศร้าไปที่สถานีตำรวจในมณฑลส่านซี และบ่นว่าพ่อแม่ของเขาบังคับให้เขาไปเรียนพิเศษทุกสุดสัปดาห์ โดยหวังว่าการกระทำของเขาจะช่วยให้รัฐบาลมีมาตรการบางอย่างกับสถานกวดวิชา