ตร.เช็กทะเบียนรถ คู่รักเอาต์ดอร์ร้านซักผ้า เตรียมเรียกตัวสอบ ชี้โทษปรับ 5 พัน ลั่นยังไงตำรวจก็ตามเจออยู่แล้ว ถ้าดูข่าวอยู่ติดต่อเข้ามามอบตัวได้เลย

จากกรณี เจ้าของร้านสะดวกซัก 24 ชั่วโมง ทนไม่ไหวร้องสื่อ หลังมีคู่หนุ่มสาวบุกเข้ามา มีเพศสัมพันธ์กันในร้าน 2 ครั้งแบบไม่อายใคร ทำเอาลูกค้ากลัวไม่กล้าเข้าร้าน ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 12 ธ.ค.65 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังจุดเกิดเหตุ ร้านให้บริการตู้ซักเสื้อผ้าหยอดเหรียญ 24 ชั่วโมง ตั้งอยู่ภายในซอยเชื่อมสัมพันธ์ 13 เขตหนองจอก กทม. พูดคุยกับ นายจักรพงศ์ ชูขันทอง อายุ 33 ปี เจ้าของร้าน เปิดเผยว่า เหตุการณ์คร้้งที่ 1 เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 22 ก.ย.65 แม่บ้านร้านตรงข้าม โทรมาบอกว่า มีนักศึกษาเห็นเห็นคู่หนุ่มสาวเข้ามามีเพศสัมพันธ์ที่ร้าน

พอตนไปเช็กกล้องวงจรปิด พบว่า ช่วงเวลาเกิดเหตุ 2 ทุ่ม มีคู่หนุ่มสาว ขับรถกระบะสีขาวมาจอดรถหน้าร้าน เปิดประตูลงมามีเพศสัมพันธ์กัน ตั้งใจโชว์นักศึกษาที่มาซักผ้าอยู่ในร้าน พอนักศึกษาเห็นทั้งคู่ก็ขับรถออกไป ตนจึงแจ้งความที่ สน.หนองจอก และติดป้ายประกาศไว้ที่ร้าน หากใครมีเบาะแสคนก่อเหตุ โทรมาแจ้งได้เลย

นายจักรพงศ์ บอกอีกว่า เหตุการณ์ครั้งที่ 2 เกิดขึ้นวันที่ 20 ต.ค.65 เวลาตี 2 มีคู่หนุ่มสาวขับรถยนต์สีขาวป้ายแดง มาจอดหน้าร้านจุดเดียวกับครั้งแรก ฝ่ายชายเปิดประตูลงจากรถ สวมเสื้อสีขาวไม่ได้ใส่กางเกง ส่วนฝ่ายหญิงใช้ปากช่วยทำอนาจารให้ฝ่ายชาย และมีเพศสัมพันธ์กันจนถึงตี 3

จากนั้นขับรถออกไป แต่ไม่ถึง 30 นาที ขับกลับมาจอดที่เดิม ทั้งคู่ลงมาจากรถด้วยสภาพเปลือยท่อนล่าง เดินเข้ามาภายในร้าน พร้อมกับทำท่าทางชวนกันมีเพศสัมพันธ์ แต่ฝ่ายหญิงเห็นกล้องวงจรปิดในร้าน จึงเดินกลับเข้าไปมีเพศสัมพันธ์กันในรถต่อจนถึงตี 5

นายจักรพงศ์ บอกอีกว่า ไม่แน่ว่าใจว่าเหตุการณ์ทั้ง 2 ครั้ง เป็นคนเดียวกันหรือไม่ ซึ่งครั้งที่ 2 มีเพศสัมพันธ์กันรุนแรงมาก ทำให้ได้รับความเสียหาย ลูกค้าไม่กล้ามาซักผ้าตอนค่ำ อยากบอกคนก่อเหตุว่า “อย่าหาทำแบบนี้เลย”

ด้านพ.ต.อ.ประเสริฐ สอนแจ่ม ผกก.สน.หนองจอก เปิดเผยว่า ตอนนี้กำลังรวบรวมพยานหลักฐาน เร่งติดตามตัวผู้ก่อเหตุ โดยเหตุการณ์ครั้งแรก ตำรวจตรวจสอบเลขทะเบียนของรถกระบะตู้ทึบในคลิป ทราบผู้ครอบครองรถแล้ว หลังจากนี้ต้องเรียกเข้ามาสอบปากคำเพิ่มเติมว่าเป็นคนก่อเหตุที่อยู่ในคลิปหรือไม่ ส่วนเหตุการณ์ครั้งที่ 2 เป็นรถยนต์สีขาวป้ายแดง ต้องประสานไปทางศูนย์รถยนต์ เพื่อตรวจสอบดูว่าใครเป็นเจ้าของรถ ยังไม่สามารถบอกได้ว่า เหตุการณ์ทั้ง 2 ครั้ง ผู้ก่อเหตุจะเป็นคนเดียวกันหรือไม่

สำหรับการก่อเหตุนี้ เข้าข่ายความผิดฐานอนาจารในที่สาธารณะ ตามมาตรา 388 แห่งประมวลกฎหมายอาญาผู้ใดกระทำการอันควรขายหน้าต่อหน้าธารกำนัล โดยเปลือยหรือเปิดเผยร่างกาย หรือกระทำการลามกอย่างอื่น ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 5,000 บาท ยังไงตำรวจก็ตามเจออยู่แล้ว ถ้าดูข่าวอยู่ติดต่อเข้ามามอบตัวได้เลย