ผลตรวจดีเอ็นเอแก๊งยา 15 ศพ ไม่ใช่คนไทย คาดเป็นมูเซอ ขบวนการค้ายาเพื่อนบ้าน ผบ.กกล.ผาเมือง สั่งเข้มเฝ้าระวังพื้นที่ หวั่นฝ่ายตรงข้ามชิงยาไอซ์คืน

กรณีกองกำลังผาเมือง ทหารพราน 3207 ศูนย์ปฏิบัติการ กองทัพภาคที่ 3 ร่วมกับ กองร้อยทหารม้าที่ 4 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารม้าที่ 5 ยิงปะทะกลุ่มบุคคลต้องสงสัย 15-20 คน ที่เดินลัดจากฝั่งพม่า กระทั่งพบผู้เสียชีวิต 15 ศพ และเป้ 29 ใบ บรรจุยาเสพติดให้โทษ ไม่ทราบจำนวนแน่ชัด รวมทั้งปืนยาวชนิดคาร์บิน 1 กระบอก ลูกระเบิดขว้างไม่ทราบชนิด 1 ลูก ตามที่เสนอข่าวไปนั้น อ่านข่าว ด่วน! กองกำลังผาเมือง ปะทะเดือด คาราวานยานรก ยิง15ศพ ทิ้งเป้29ใบ

ความคืบหน้า เมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 8 ธ.ค.65 พล.ต.ศุภฤกษ์ สถาพรผล ผู้บัญชาการกองกำลังผาเมือง เปิดเผยว่า นำเฮลิคอปเตอร์เพื่อเข้าพิสูจน์ทราบร่วมกับกำลังพลชุดปฏิบัติการ แต่สถานการณ์ยังไม่น่าไว้วางใจ จึงถอนตัวกลับออกมา แต่มีเจ้าหน้าที่ 4 ฝ่าย ทั้งแพทย์ ทหาร และปกครอง เข้าตรวจสอบสภาพศพ โดยเฉพาะการตรวจดีเอ็นเอ พบว่า ผู้เสียชีวิตไม่ใช่คนไทย แต่สันนิษฐานว่าเป็นกลุ่มมูเซอซึ่งเป็นขบวนการค้ายาเสพติดจากฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน

จากการตรวจสอบยาเสพติด ที่พบในกระเป๋าเป้ จำนวน 29 ใบ พบว่าภายในเป็นถุงใบชาซุกซ่อนยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์) จำนวน 348 กิโลกรัม ซึ่งเป็นการพฤติกรรมลักลอบของกลุ่มขบวนยาเสพติด

ทั้งนี้ มีรายงานว่า ด้านการข่าวคาดว่า ยาเสพติดดังกล่าวเป็นของขบวนการค้ายาเสพติดกลุ่มอาข่า ของนายเบเล่ ในพื้นที่ จ.ท่าขี้เหล็ก รัฐฉาน สหภาพเมียนมา ที่ลำเลียงยาบ้า ประมาณ 130 เป้ จากแหล่งพักในพื้นที่เมืองสาด รัฐฉาน สหภาพเมียนมา เข้ามาพักคอยในพื้นที่บ้านนากองมู สหภาพเมียนมา

จากนั้นกลุ่มมูเซอ ของนายจะอือ จะหวะ ในพื้นที่บ้านปาคี สหภาพเมียนมา ทยอยลำเลียงครั้งละ 20 เป้ โดยใช้กลุ่มรับจ้างลำเลียงประมาณ 15-20 คน เข้าสู่เขตไทยในห้วงวันที่ 3-20 ธ.ค.65 โดยคาดว่าจะใช้ช่องทางศาลาแปดเหลี่ยม และช่องทางหัวนก ต.ม่อนปิ่น อ.ฝาง จ.เชียงใหม่

นอกจากนี้ ทางพล.ต.ศุภฤกษ์ สั่งการให้ทุกฝ่ายเฝ้าจุดเกิดเหตุ ทั้งทหารม้ากองกำลังผาเมือง ทหารพราน ตำรวจตระเวนชายแดน 334 ทหารเคลื่อนที่เร็วกองกำลังผาเมือง ตำรวจภูธรฝาง นปส.ฝางฯ หลาย 10 นาย เพื่อรักษาจุดเกิดเหตุ และต้องนำกำลังป้องกันศพผู้เสียชีวิตและยาไอซ์ เพื่อไม่ให้ฝ่ายตรงข้ามกลับมาเพื่อชิงคืนไป เพราะยาไอซ์ในเวลานี้ราคาแพง ทางเจ้าหน้าที่วางแผนระมัดระวัง โดยในเขตพื้นที่ห้ามไม่ให้คนที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าโดยเด็ดขาด

ที่มา มติชนออนไลน์