ด.ต.หญิง โชว์ใบหย่า-ทะเบียนสมรสใหม่ โต้ พ.ต.ท. หลังบุกอาละวาดบ้านพักข้าราชการตำรวจ กล่าวหาว่ามีชู้ แฉซ้ำ อดีตสามีไปกับผู้หญิงไม่ซ้ำหน้า

จากกรณี พ.ต.ท.นายหนึ่งของสถานีตำรวจแห่งหนึ่งในพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ ได้เผยแพร่คลิปภาพขณะที่บุกเข้าไปในบ้านพักข้าราชการตำรวจของสถานีตำรวจแห่งหนึ่ง จ.ศรีสะเกษ และพบว่า ดาบตำรวจหญิง ซึ่งเป็นอดีตภรรยาของตนเองอยู่กับตำรวจยศสิบตำรวจเอก ซึ่งมีบ้านพักอยู่ใกล้กัน โดยพบว่า อดีตภรรยาของตนเองอยู่ภายในห้องพักกับชายหนุ่มที่เป็นตำรวจทำงานด้วยกัน ขณะเดียวกันมีพนักงานสอบสวนของสถานีตำรวจที่เกิดเหตุเข้ามาดูแลความเรียบร้อย

เนื่องจากเกรงว่าอาจจะมีเรื่องรุนแรงเกิดขึ้นมาและได้มีปากเสียงกัน เนื่องจาก พ.ต.ท. ถือว่าตนเองมียศสูงกว่า ร.ต.อ. แต่ว่าเพื่อนที่มาด้วยกันกับพ.ต.ท. ได้ดึงตัว พ.ต.ท. ออกไปจากที่เกิดเหตุ ก่อนจะเกิดความรุนแรงขึ้น และมีการเผยแพร่คลิปภาพทางสื่อโซเชี่ยลและสื่อมวลชน ทำให้มีการวิพากษ์วิจารณ์เรื่องนี้อย่างกว้างขวาง

ล่าสุดวันที่ 11 พ.ย.2565 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่สถานีตำรวจภูธรแห่งหนึ่งของ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นสถานที่ทำงานของ พ.ต.ท. พบว่า มีเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกลุ่มคุยกันเกี่ยวกับข่าวที่เกิดขึ้น เมื่อสอบถามถึง พ.ต.ท.นายนี้ เพื่อจะขอสอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้น เจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งว่า ให้ไปที่งานสืบสวน ซึ่งอยู่ที่ด้านข้างสถานีตำรวจ เมื่อไปที่ห้องงานสืบสวน ปรากฏว่า ห้องสืบสวนปิดล็อกกุญแจไว้ จึงโทรไปที่หมายเลขโทรศัพท์ของ พ.ต.ท. ปรากฏว่า เป็นสัญญาณฝากข้อความตลอด ไม่สามารถติดต่อได้

ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่สถานีตำรวจที่เกิดเหตุตามคลิป ได้พบกับ ร.ต.อ.สิทธิชัย (ขอสงวนนามสกุล) พนักงานสอบสวน ซึ่งเป็นตำรวจที่เข้าระงับเหตุและถูก พ.ต.ท. ห้ามไม่ให้เข้ามายุ่งเกี่ยวบอกว่าตนเองเป็น พ.ต.ท. ยศสูงกว่า ร.ต.อ.

จากการสอบถาม ร.ต.อ.สิทธิชัย กล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า ขณะเกิดเหตุ ตนกำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ ได้ยินเสียงดังมากจากบริเวณบ้านพักข้าราชการตำรวจ จึงร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจหลายนายเข้ามาตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ พบชายฉกรรจ์ประมาณ 3 คนอยู่ที่บริเวณบ้านพักของ ส.ต.อ.คิง โดยชายคนหนึ่งกำลังส่งเสียงดังบอกว่า ตนเองมาตามหาเมีย โดยอ้างว่า พบเมียตนเองกำลังนอนอยู่ในห้องนอนของ ส.ต.อ.คิง

ด.ต.หญิง โชว์ใบหย่า-ทะเบียนสมรสใหม่ โต้ พ.ต.ท. หลังบุกอาละวาดบ้านพักข้าราชการตำรวจ กล่าวหาว่ามีชู้

ร.ต.อ.สิทธิชัย กล่าวต่อว่า ตนเห็นว่า อาจจะมีการใช้กำลังความรุนแรง จึงบอกให้ชายคนดังกล่าวใจเย็น ๆ แต่ชายคนดังกล่าวบอกว่า เป็น พ.ต.ท. ตนเป็น ร.ต.อ. อย่าเข้ามายุ่ง ตนจึงบอกว่า ตนเป็นพนักงานสอบสวน ต้องเข้ามาดูแลความเรียบร้อย โดยมีเพื่อนของชายฉกรรจ์ที่กำลังอาละวาดถ่ายคลิปวีดีโอเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่ จากนั้น เพื่อนของชายฉกรรจ์ที่กำลังอาละวาดได้นำตัวของชายที่อ้างว่ามาตามหาเมียออกไปจากที่เกิดเหตุ ก่อนจะมาทราบชื่อของ พ.ต.ท. ในภายหลัง

ต่อมา ด.ต.หญิงจอย (นามสมมติ) และ ส.ต.อ.คิง (นามสมมติ) ตามที่เป็นข่าวกำลังนำเอกสารหลักฐานประกอบด้วยหลักฐานใบสำคัญการหย่า หลักฐานทะเบียนสมรส หลักฐานการโอนเงินและหลักฐานการซื้อขายที่ดินมารายงานข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นให้ พ.ต.ท.ยุทธศาสตร์ (ขอสงวนนามสกุล) ซึ่งเป็นหัวหน้าสถานีตำรวจภูธรที่เกิดเหตุได้รับทราบ

ทั้งนี้ เพื่อเป็นการยืนยันว่าทั้ง 2 คนไม่ได้เป็นชู้กันตามที่ พ.ต.ท.คู่กรณี กล่าวหาแต่อย่างใด ซึ่ง พ.ต.ท.ยุทธศาสตร์ได้ตรวจสอบดูเอกสารหลักฐานต่าง ๆ อย่างละเอียด พบว่า ด.ต.หญิงจอยได้จดทะเบียนหย่าขาดกับ พ.ต.ท.คู่กรณี ตั้งแต่วันที่ 10 เม.ย.2561 ที่สำนักทะเบียนอำเภอซับใหญ่ จ.ชัยภูมิ โดยมีการบันทึกหลังการหย่าไว้อย่างละเอียด โดยระบุว่า มีการแบ่งทรัพย์สินต่าง ๆ เรียบร้อยแล้ว ส่วนบุตรให้อยู่ในความดูแลของ ด.ต.หญิงจอย

ด.ต.หญิงจอย กล่าวว่า ตนได้หย่าขาดกับ พ.ต.ท. มาตั้งแต่ปี 2561 จากนั้น ตนก็ได้ย้ายมาปฏิบัติหน้าที่อยู่ที่สถานีตำรวจแห่งนี้ และพักอยู่ที่บ้านพักตำรวจที่เกิดเหตุมาโดยตลอด ซึ่งพ.ต.ท.ได้ขาดการติดต่อกับตนมานานแล้วและไม่ได้มีความสัมพันธ์ฉันสามีภรรยากันอีกเลย ซึ่งต่อมาตนได้มาคบหากับ ส.ต.อ.คิง ซึ่งเป็นตำรวจรุ่นน้องและมีบ้านพักอยู่ใกล้กัน และได้ตกลงที่จะคบหากันเป็นแฟน เนื่องจากตนต้องการสร้างครอบครัวใหม่และได้ไปจดทะเบียนสมรสกับแฟนใหม่เรียบร้อยแล้ว

ด.ต.หญิงจอย กล่าวอีกว่า ต่อมาปรากฏว่า พ.ต.ท. ซึ่งเป็นอดีตสามี ได้บุกเข้ามาอาละวาดที่บ้านพักตำรวจซึ่งตนพักอยู่กับแฟนใหม่ พร้อมทั้งได้ถ่ายคลิปเอาไปเผยแพร่ทางสื่อโซเชียลมีเดียหาว่าตนมีชู้ทั้งที่ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด เนื่องจากว่าตนกับพ.ต.ท.ได้หย่าขาดจากกันแล้ว และมีการแบ่งทรัพย์สินกันเรียบร้อยแล้ว โดยตนเป็นคนดูแลบุตร การที่มากล่าวหาว่าตนมีชู้นั้นเป็นคำพูดที่รุนแรงเกินไป เนื่องจากว่าเมื่อหย่าขาดจากกันตามกฎหมายแล้ว ตนก็ย่อมที่จะดำเนินชีวิตของตนเองตามที่ตนต้องการได้

ด.ต.หญิงจอย กล่าวต่อว่า ซึ่งตนต้องการสร้างครอบครัวใหม่ให้เป็นหลักฐานมั่นคง เนื่องจากว่า พ.ต.ท. เที่ยวตะลอนไปกับผู้หญิงมากหน้าหลายตา แถมยังมีการโพสต์ภาพที่กำลังยุ่งอยู่กับผู้หญิงคนอื่นด้วย ซึ่งเป็นการสร้างความเจ็บช้ำใจให้กับตนเป็นอย่างมาก ดังนั้น การที่ตนตัดสินใจมีครอบครัวใหม่แล้วมากล่าวหาว่าตนมีชู้ มันไม่เป็นธรรมสำหรับตน ผู้ชายมีผู้หญิงหลายคนได้ไม่เป็นไร แต่พอตนต้องการสร้างชีวิตใหม่กับผู้ชายที่ตนรักและเข้าใจตน พร้อมที่จะดูแลตนไม่ได้ทิ้งขว้างตนไปอยู่ที่ไหนก็ไม่รู้ ตนกลับมาถูกกล่าวหาว่ามีชู้

ด.ต.หญิงจอย กล่าวด้วยว่า ตนจึงขอความเป็นธรรมจากทุกคนที่ทราบข่าวนี้ด้วยว่า หัวอกลูกผู้หญิงที่ถูกสามีทิ้งจนหย่าร้าง และได้สร้างครอบครัวใหม่จนจดทะเบียนสมรสด้วยกันแบบนี้ถูกตราหน้าว่ามีชู้หรือไม่ อยากฝากถึงพ.ต.ท.ว่า ขอให้เลิกยุ่งเกี่ยวกับตน อย่ามายุ่งเกี่ยววุ่นวายกันอีกต่อไป ต่างคนต่างอยู่เหมือนที่ผ่านมา ตนไม่อยากมีเรื่องมีความอะไรทั้งสิ้น

ด.ต.หญิงจอย กล่าวว่า แต่ทุกวันนี้ พ.ต.ท. ได้นำเอาเรื่องของตนไปโพสต์ในสื่อโซเชี่ยลมีเดียทำให้ตนและสามีใหม่ได้รับความเสียหายมาก เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องเป็นอย่างมาก ซึ่งสามีใหม่ของตนได้ไปแจ้งความดำเนินคดีกับพนักงานสอบสวน เพื่อให้ดำเนินคดีกับ พ.ต.ท.ตามกฎหมายแล้ว

ด้าน พ.ต.ท.ยุทธศาสตร์ กล่าวว่า เรื่องนี้ ตนได้รายงานเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ พล.ต.ต.ลาภ ศรีสำอางค์ ผบก.ภ.จว.ศรีสะเกษ ได้รับทราบด้วยวาจาแล้ว และได้สั่งการให้ ด.ต.หญิงจอย และ ส.ต.อ.คิง รายงานข้อเท็จจริงพร้อมพยานหลักฐานเอกสารต่าง ๆ ให้ตนทราบ เพื่อจะได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้นได้รับทราบ เพื่อโปรดพิจารณาต่อไป ทั้งนี้ จากการตรวจสอบเอกสารเบื้องต้นพบว่า ด.ต.หญิงจอยได้หย่าขาดจาก พ.ต.ท. ตั้งแต่ปี 61 และได้มีการจดทะเบียนสมรสกับ ส.ต.อ.คิง แล้ว