เด็กหญิงอายุ 15 คันมากจนนอนไม่หลับ หมอคิดว่าเป็นอาการแพ้ แต่ไม่ดีขึ้นหลังรักษามา 3 เดือน สุดท้ายตรวจพบเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลือง
ความผิดปกติใดๆ ในร่างกายถือเป็นสัญญาณของปัญหาสุขภาพ เช่นกรณีของเด็กหญิงอายุ 15 ปี มีอาการคันขณะนอนหลับตั้งแต่เดือนมิถุนายน ตอนแรกเธอไปพบแพทย์และสันนิษฐานว่าเป็นอาการแพ้ทางผิวหนัง แต่หลังจากได้กินยารักษามา 3 เดือนก็ยังคงไม่ดีขึ้น หลังจากตรวจเพิ่มเติมจึงพบมะเร็งต่อมน้ำเหลืองระยะที่ 2 และกำลังเข้ารับการเคมีบำบัด
ตามรายงานสำนักข่าวเดลี่เมล์ “เนียมห์ ฟิชเชอร์” เด็กหญิงอายุ 15 ปี จากนอร์ธลานาร์กเชียร์ ประเทศสกอตแลนด์ นับตั้งแต่ในเดือนมิถุนายนปีนี้ เธอเริ่มมีอาการคันทุกคืนจนนอนแทบไม่ได้ ครอบครัวพาไปสถานพยาบาลเพื่อรับการรักษา ในตอนแรกแพทย์คิดว่ามีอาการแพ้ จึงสั่งยาและขอให้อยู่ห่างจากสารก่อภูมิแพ้ เช่น สัตว์เลี้ยง
อย่างไรก็ดี หลังจากได้รับการรักษามาเกือบ 3 เดือนแล้ว แต่อาการไม่ดีขึ้น ในเดือนสิงหาคม เธอพบว่ามีก้อนเนื้อขนาดใหญ่ที่คอ จึงพาไปที่แผนกฉุกเฉินของโรงพยาบาลขนาดใหญ่ ในที่สุดหลังจากการตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ อัลตราซาวนด์ และสเมียร์ พบสาเหตุที่แท้จริงของอาการทั้งหมด คือเธอป่วยเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลืองชนิดฮอดจ์กิน (Hodgkin’s lymphoma) ซึ่งขณะนี้อยู่ในระยะที่ 2
หลังจากได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็ง เธอได้รับการรักษาด้วยเคมีบำบัด 28 วันทันที และตอนนี้ได้เสร็จสิ้นไปแล้ว 2 ครั้ง จึงตัดสินใจใช้ประสบการณ์ของตนเองเพื่อเตือนผู้อื่น หากร่างกายมีอาการคันรุนแรงโดยไม่มีเหตุผลชัดเจน ควรเข้ารับการตรวจสุขภาพโดยเร็วที่สุด ไม่ว่าสถานการณ์จะเล็กน้อยแค่ไหนก็ไม่ควรมองข้าม
ตามรายงานชี้ให้เห็นว่า ต่อมน้ำเหลืองบวมโดยไม่เจ็บปวด เป็นอาการที่พบบ่อยที่สุดของมะเร็งต่อมน้ำเหลืองชนิดฮอดจ์กิน และมักเกิดที่คอ รักแร้ หรือขาหนีบ นอกจากนี้ ผู้ป่วยจำนวน 1 ใน 3 จะมีอาการคัน สาเหตุหลักคือระบบภูมิคุ้มกันจะปล่อยสารเคมีที่เรียกว่าไซโตไคน์ออกมาเพื่อต่อสู้กับมะเร็ง ความถี่ของอาการคันจะรุนแรงเป็นพิเศษ และมักเกิดขึ้นที่มือ เท้า และน่อง