สุดเศร้า เด็กชายลูกครึ่ง 7 ขวบ นอนเฝ้าศพพ่อทั้งคืน ร้องไห้บอกเพื่อนบ้านให้ช่วย เผยอยู่กัน 2 คน เตรียมทำเอกสารพาลูกกลับอังกฤษ แต่ยังไม่สำเร็จ

วันที่ 5 สิงหาคม 2566 พ.ต.ต.ศุภสิทธิ์ สุภาเดช สว.สอบสวน สภ.พระอินทร์ราชา รับแจ้งมีผู้เสียชีวิต อยู่ในบ้านพักหลังหนึ่ง ม.7 ต.เชียงรากน้อย อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา ตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมประสานมูนิธิพุทธไทยสวรรค์ไปให้การสนับสนุน พบเป็นบ้านทาวน์เฮาส์สองชั้น ชาวบ้านและเจ้าหน้าที่มูนิธิพุทธไทยสวรรค์ช่วยกันเปิดประตูที่ล็อกจากด้านใน ภายในบ้านไม่พบร่องรอยการต่อสู้หรือรื้อค้น

ในห้องนอนชั้น 2 พบศพ นายดามาเน่ อายุ 77 ปี ชาวอังกฤษ นอนตะแคงอยู่บนที่นอน มีผ้าห่มคลุมร่างกาย แอร์ในห้องยังเปิดอยู่ ข้างผู้เสียชีวิต พบ ด.ช.อเร็กซ์ (นามสมมติ) อายุ 7 ปี ลูกชายผู้เสียชีวิต อยู่ในอาการเศร้าโศกเสียใจยืนเกาะเตียงและเขย่าตัวผู้เสียชีวิตอยู่ เป็นภาพที่สะเทือนใจต่อผู้ที่พบเห็น

สอบถามเพื่อนบ้าน นางบุญเนื่อง สีดา อายุ 73 ปี เล่าให้ฟังว่า เมื่อช่วงเช้าพบเห็นลูกชายของผู้เสียชีวิตมาเขย่าประตูอยู่ในบ้าน ร้องไห้เสียงดังพอสอบถามถึงพ่อน้องก็ชี้เข้าไปในบ้าน ทีแรกคิดว่าน่าจะล้มอยู่หรือเกิดอุบัติเหตุ แต่เมื่อขึ้นไปดูพบว่าพ่อเสียชีวิตอยู่บนที่นอน ทั้งนี้ทราบว่าผู้เสียชีวิตมีโรคประจำตัว โดยเมื่อคืนที่ผ่านมาเพื่อนบ้านใกล้เคียงได้ยินเสียงไอหลายครั้ง

นางกฤศรดา อภิภูธนโชติ อายุ 57 ปี เพื่อนบ้านอีกราย กล่าวว่า ผู้เสียชีวิตเป็นชาวอังกฤษ แต่งงานกับภรรยาชาวไทยและมีลูกด้วยกัน ต่อมาภรรยาเสียชีวิตไปแล้วเมื่อหลายปีที่ผ่านมา เด็กจึงอยู่กับพ่อ 2 คน ซึ่งเป็นบ้านของญาติกัน ก่อนหน้านี้ผู้เสียชีวิตพยายามให้ตนช่วยทำเอกสาร ถ่ายเอกสาร เพื่อจะเดินทางกลับไปอยู่ประเทศอังกฤษกับลูกชาย พยายามทำอยู่หลายครั้งแต่ยังไม่สามารถเดินทางกลับได้ จนกระทั่งมาเสียชีวิต

ทั้งนี้ ผู้เสียชีวิตกับลูกชายจะออกจากบ้านตอนซื้ออาหารแล้วจะกลับเข้าบ้านพักตามปกติ โดยสังเกตจากสภาพร่างกายของผู้เสียชีวิตแล้วสุขภาพไม่ค่อยแข็งแรงเนื่องมาจากสูบบุหรี่

ต่อมา น.ส.สุภาดา อนุศาสนนันท์ อายุ 33 ปี น้าสาวของ ด.ช.อเร็กซ์ เดินทางมาที่บ้านที่เกิดเหตุพร้อมสวมกอดหลานชายที่ยังอยู่ในอาการเศร้าโศกเสียใจ

ด้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจ ส่งศพผู้เสียชีวิตไปชันสูตร ที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ จ.ปทุมธานี เพื่อหาสาเหตุของการเสียชีวิตอย่างละเอียดอีกครั้ง พร้อมประสานทางสถานทูตอังกฤษ และญาติเพื่อรับร่างผู้เสียชีวิตดำเนินการทางศาสนาต่อไป