วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2567 มีรายงานข่าวเศร้า เพื่อนบ้านบุกครอบครองปรปักษ์ ตัดสินใจผูกคอลาโลก สืบเนื่องจากกรณีพิพาทที่เป็นกระแสโ่งดัง จนสังคมจับตามองและให้ความสนใจเป็นอย่างมากเมื่อไม่นานมานี้ เมื่อเพื่อนบ้านเข้ามาบุกรุก บ้านอากู๋ เข้ามาใช้ประโยชน์ในช่วงที่เจ้าของบ้านไม่ได้พักอาศัยแล้ว ก่อนที่จะยื่นครอบครองปรปักษ์ ในซอยรามอินทรา 58 แยก 6-2 จนกลายเป็นคดีความ
ล่าสุด มีรายงานเข้ามาว่าว่า “เมื่อเวลาประมาณ 09.30 น. หนึ่งในขบวนการเพื่อนบ้านบุกรุกครอบครองปรปักษ์ ได้ตัดสินใจลาโลก ด้วยการผูกคออยู่ในบ้านพักหลังข้างๆกัน ขณะนี้ เจ้าหน้าที่กำลังเข้าตรวจสอบรายละเอียด เบื้องต้น พบผู้ตายเป็นเพศชาย” ทั้งนี้ หากมีความคืบหน้าอย่างไรจะมารายงานให้ทราบอีกครั้ง
ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ (13 ก.พ. 67) ที่ผ่านมา น.ส.อำนวยพร มณีวรรณ์ หรือ ทนายกุ้ง พร้อมตำรวจ สน.โคกคราม และ นายซัน (หลานอากู๋) เข้าตรวจสอบบ้านพักเจ้าปัญหาในหมู่บ้าน ซอยรามอินทรา 58 กทม. ซึ่งเกิดข้อพิพาทระหว่างอากู๋ เจ้าของบ้านตัวจริง กับเพื่อนบ้านคู่กรณีที่ลักลอบเข้ามายึดบ้านและอ้างกรรมสิทธิ์ครอบครองปรปักษ์เป็นของตนเอง โดยตำรวจเข้าตรวจสอบสภาพภายในบ้าน และตรวจสอบกล้องวงจรปิดว่ามีบุคคลใดเข้ามาบุกรุกหรือไม่ และตรวจสอบมิเตอร์น้ำและไฟฟ้า ก่อนเจ้าของบ้านจะนำป้ายไวนิลมาแขวน มีข้อความระบุว่า ห้ามผู้ใดบุกรุก หากฝ่าฝืนจะดำเนินคดีตามกฎหมาย
ทั้งนี้ จากการบุกยึกคืนในครั้งนั้น ทางด้านทนาย ชี้แจงว่า หากพบมีบุคคลใดบุกรุกเข้ามาอีก จะสามารถเอาผิดได้ทันที ซึ่งย้อนไปเมื่อวันที่ (17 ก.ย. 66) มีการส่งมอบบ้านคืนให้เจ้าของตัวจริงไปแล้ว เมื่อมาตรวจสอบภายในบ้านก็ไม่พบสิ่งของใดๆ แต่ปรากฏว่าวันนี้พบที่นอน เก้าอี้โซฟา และหม้อหุงข้าว ที่นำมาใช้สร้างหลักฐานแอบอ้างว่าเป็นการพักอาศัยอยู่ ซึ่งการครอบครองปรปักษ์นั้น ต้องมีหลักฐานและเจตนาการเข้าพักอาศัยอย่างต่อเนื่องตลอด 10 ปี จึงมั่นใจหลักฐานของฝ่ายเจ้าของตัวจริง ได้แก่แผนที่บ้านที่นำเสนอผ่านสื่อต่างๆ และหลักฐานสำคัญที่แสดงการเป็นเจ้าของบ้าน