ดุสิตโพลเผย ปชช.ต้องการที่พึ่งอย่างมาก หลังเผชิญของแพง ค่าครองชีพสูง เศรษฐกิจตกต่ำ

Home » ดุสิตโพลเผย ปชช.ต้องการที่พึ่งอย่างมาก หลังเผชิญของแพง ค่าครองชีพสูง เศรษฐกิจตกต่ำ
ดุสิตโพลเผย ปชช.ต้องการที่พึ่งอย่างมาก หลังเผชิญของแพง ค่าครองชีพสูง เศรษฐกิจตกต่ำ

สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นของประชาชน เรื่อง“ที่พึ่งของคนไทย ณ วันนี้” กลุ่มตัวอย่างจำนวน 1,026 คน (สำรวจทางออนไลน์) สำรวจระหว่างวันที่ 14-17 พฤศจิกายน 2566

พบว่า จากการ ที่ต้องเผชิญกับปัญหาต่างๆ ทำให้ประชาชนรู้สึกต้องการที่พึ่งอย่างมาก ร้อยละ 52.34 เรื่องที่ต้องการที่พึ่งมากที่สุดคือเรื่องของแพง ค่าครองชีพสูง ร้อยละ 57.79 รองลงมาคือ สภาพเศรษฐกิจตกต่ำ ร้อยละ 55.14

นอกจากพึ่งตนเองแล้วบุคคลที่คิดว่าน่าจะเป็นที่พึ่งได้มากที่สุด คือ ครอบครัว ญาติผู้ใหญ่ที่นับถือ ร้อยละ 61.43 ทั้งนี้เรื่องที่ประชาชน อยากระบายความอัดอั้นมากที่สุด คือ “เศรษฐกิจเมื่อไหร่จะดีขึ้น” ร้อยละ 45.17 รองลงมาคือ “ของแพง เงินไม่พอใช้” ร้อยละ 43.87

ผลโพลตั้งแต่ช่วงรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ผ่านต่อมายังรัฐบาลเศรษฐา พบว่าปัญหาปากท้องเป็นโจทย์หินของ ทุกรัฐบาล เมื่อของแพงรายได้ไม่เพียงพอกับรายจ่ายจึงทำให้ต้องกู้หนี้ยืมสิน แก้ปัญหาด้วยการพึ่งพาตนเอง ญาติพี่น้อง และเพื่อนสนิท นี่คือชีวิตของคนไทยส่วนใหญ่ รวมไปถึงการหันไปหาที่พึ่งทางใจอย่างสิ่งศักดิ์สิทธิ์อีกด้วย ดังนั้นรัฐบาล จึงต้องเร่งแก้ปัญหาเศรษฐกิจในระยะยาวรวมถึงแก้ปัญหาเชิงโครงสร้างในภาพรวมเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน

จากผลสำรวจนี้เป็นคำตอบเบื้องต้นแล้วว่าในเวลานี้ประชาชนต้องการที่พึ่งในการใช้ชีวิต โดยของแพง ค่าครองชีพสูงคือเรื่องที่ประชาชนต้องการที่พึ่งมากที่สุด และตามมาติดๆอันดับที่ 2 กับเรื่องของเศรษฐกิจตกต่ำ ผลโพลดังกล่าวเป็นไปในทิศทางเดียวกันว่าการใช้ชีวิตของคนไทยกำลังมีปัญหาเร่งด่วนในเรื่องของแพง ค่าครองชีพสูง ซึ่งนอกจากตนเองแล้วบุคคลที่คิดว่าน่าจะเป็นที่พึ่งได้มากที่สุดสองอันดับแรก คือ ครอบครัว ญาติผู้ใหญ่ที่นับถือ และเพื่อนสนิท โดยมีรัฐบาลเป็นอันดับสุดท้ายอยู่อันดับที่ 5

สะท้อนถึงความเชื่อมั่นของประชาชนที่มีต่อรัฐบาลว่าจะพึ่งพาได้น้อยที่สุด จาก 5 อันดับ และประชาชนยังอัดอั้นใจในเรื่องเศรษฐกิจอีกด้วย จึงเป็นการตอกย้ำว่าปัญหาเรื่องของแพง ค่าครองชีพสูง เศรษฐกิจไม่ดี เงินไม่พอใช้ คือปัญหาสำคัญที่ประชาชนต้องการให้รัฐบาลเร่งแก้ไขโดยเร็ว แม้ว่าจะมีประชาชนเพียง ร้อยละ 18.46 เท่านั้นที่คิดว่าน่าจะพึ่งรัฐบาลได้

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ