ดีเอสไอบุกภูเก็ต! ทลายโกดังแบรนด์เนมปลอมรายใหญ่ ยึดกว่าแสนชิ้น มูลค่า 50 ล้าน

Home » ดีเอสไอบุกภูเก็ต! ทลายโกดังแบรนด์เนมปลอมรายใหญ่ ยึดกว่าแสนชิ้น มูลค่า 50 ล้าน


ดีเอสไอบุกภูเก็ต! ทลายโกดังแบรนด์เนมปลอมรายใหญ่ ยึดกว่าแสนชิ้น มูลค่า 50 ล้าน

ดีเอสไอบุกภูเก็ต! ทลายโกดังแบรนด์เนมปลอม แหล่งค้าปลีกรายใหญ่ ค้น 4 จุด อ.กระทู้-อ.เมือง ยึดของกลางกว่าแสนชิ้น มูลค่ากว่า 50 ล้านบาท

วันที่ 18 เม.ย.65 นายไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พ.ต.ท.พเยาว์ ทองเสน รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้สั่งการให้ ร.ต.อ.พลสัณห์ เทิดสงวน ผู้อำนวยการกองคดีทรัพย์สินทางปัญญา, น.ส.จารุวรรณ ครุสาตะ ผู้อานวยการส่วนคดี ทรัพย์สินทางปัญญา 1 และกำลังเจ้าหน้าที่กองคดีทรัพย์สินทางปัญญา นำหมายค้นของศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง เข้าตรวจค้นสถานที่เก็บสินค้าปลอม จำนวน 5 แห่ง

ซึ่งผลการตรวจค้นพบสินค้าปลอมเครื่องหมายการค้า 4 แห่ง คือ 1. โกดัง (ไม่ทราบเลขที่) หมู่ 5 ต.กะทู้ อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต 2.บ้านเลขที่ 112 และ 112/1 หมู่ 6 ต.กะทู้ อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต 3.บ้านเลขที่ 35/192 หมู่ 2 ต.เกาะแก้ว อ.เมือง จ.ภูเก็ต 4.บ้านเลขที่ 35/168 หมู่ 2 ต.เกาะแก้ว อ.เมือง จ.ภูเก็ต โดยพบสินค้าเสื้อผ้าปลอมเครื่องหมายการค้า อาทิ หลุยส์วิตตอง (LOUIS VUITTON) กุชชี่ (GUCCI) ไนกี้ (NIKE) อดิดาส (ADIDAS) ชาแนล (CHANEL) และยี่ห้ออื่นๆ จำนวนทั้งสิ้นกว่า 100,000 ชิ้น รวมมูลค่าความเสียหาย หรือมูลค่าตามราคาท้องตลาดกว่า 50 ล้านบาท เจ้าหน้าที่จึงได้ยึดไว้เป็นของกลาง

สืบเนื่องจากกองคดีทรัพย์สินทางปัญญา สืบสวนพบว่า มีสถานที่จำหน่ายสินค้าปลอมเครื่องหมายการค้าของบุคคลอื่นที่ได้จดทะเบียนแล้วในราชอาณาจักรอยู่ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต โดยสถานที่ดังกล่าวมีพฤติการณ์การกระทำความผิดเป็นแหล่งค้าส่งค้าปลีกผ่านเพจเฟซบุ๊ก โดยเสนอจำหน่ายสินค้าปลอมคุณภาพเกรด AAA เพื่อขายให้กับผู้ที่สนใจอย่างผิดกฎหมาย ซึ่งการกระทำดังกล่าวทำลายเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศไทย จึงได้วางแผนทำการตรวจค้นและยึดของกลางไว้ดำเนินคดีตามกฎหมาย

ทั้งนี้เนื่องจากการที่ประเทศไทยถูกสำนักผู้แทนการค้าสหรัฐ (USTR) จัดอันดับสถานะทางการค้า อยู่ในบัญชีประเทศที่ถูกจับตา (WL) ในเรื่องทรัพย์สินทางปัญญา กองคดีทรัพย์สินทางปัญญา และกรมสอบสวน คดีพิเศษมีนโยบายในการปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา โดยจะได้ดำเนินการสืบสวนจับกุมการละเมิด ทรัพย์สินทางปัญญาทั้งในกรุงเทพมหานครและต่างจังหวัด โดยเฉพาะเขตพื้นที่ที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ (พื้นที่ สีแดง) อย่างจริงจังและเด็ดขาดต่อไป

 

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ