คอกาแฟตัวจริงรู้ดีว่าทุกวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี ถือเป็นวันพิเศษของคนรักกาแฟทั่วโลก เพราะถูกล็อกให้เป็น “วันกาแฟสากล” หรือ “International Coffee Day” จริงๆ มนุษย์รู้จักและได้ลิ้มรสชาติกาแฟกันมาตั้งแต่ ค.ศ. 800 แต่วันกาแฟสากลนั้นเพิ่งจะได้รับการอนุมัติจากองค์การกาแฟนานาชาติ  (International Coffee Organization : ICO) เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2015 ในการประชุมที่เมืองมิลาน ประเทศอิตาลี เพื่อส่งเสริมคนปลูกกาแฟและอุตสาหกรรมกาแฟ รวมไปถึงเฉลิมฉลองกาแฟให้เป็นเครื่องดื่มสากลที่ใครๆ ก็หลงรัก

แม้ว่าจุดเริ่มต้นของวันกาแฟสากลจะมาจากประเทศอิตาลี ดินแดนแห่งต้นกำเนิดชื่อกาแฟนานาชนิด แต่ความคลั่งรักกาแฟของคนไทยก็ไม่น้อยหน้าใคร

เชื่อหรือไม่ว่า! คนไทยดื่มกาแฟเฉลี่ย 586 แก้วต่อคนต่อปี เยอะขนาดที่องค์การกาแฟนานาชาติ (International Coffee Organization : ICO) ให้ประเทศไทยครองอันดับที่ 24 ประเทศที่นิยมดื่มกาแฟ ส่วนอันดับ 1 ต้องหลีกทางให้ประเทศฟินแลนด์ เฉลี่ยต่อคนดื่มกาแฟ 4 แก้วต่อวัน หรือประมาณ 1,460 แก้วต่อคนต่อปี!  

วัฒนธรรมการดื่มกาแฟกลายมาเป็นวิถีชีวิตของคนไทยเมื่อไรไม่ทราบเป็นที่แน่ชัด บางก็ว่ามีการปลูกเมล็ดกาแฟตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 3 บางยืนยันว่าเริ่มเข้ามาในรัชกาลที่ 4 หลักฐานเดียวที่พอเชื่อถือได้คือในปี พ.ศ. 2460 ร้านกาแฟแห่งในกรุงเทพฯ “Red Cross Tea Room” ได้ถือกำเนิดขึ้น

จากวันนั้นจนถึงวันนี้ สำหรับคนไทยกาแฟเป็นมากกว่าแค่เครื่องดื่ม แต่ยังแทรกซึมอยู่ในไลฟ์สไตล์ มีการสำรวจพบว่า 2 ใน 3 ของประชากรไทยนิยมดื่มกาแฟรองจากน้ำเปล่า และเมนูกาแฟที่คนไทยนิยมดื่มมากที่สุดได้แก่ ‘เมนูกาแฟใส่นม’ โดยมี ‘เมนูกาแฟดำ’ ได้รับความนิยมตามมาติดๆ  

แต่ถ้าพูดถึงแบรนด์กาแฟอันดับ 1 ของไทย ต้องหลีกทางให้ ‘เนสกาแฟ’ แบรนด์กาแฟที่อยู่คู่คนไทยมาตั้งแต่ พ.ศ. 2516 จัดจำหน่ายโดย บริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด ซึ่งถือหุ้น 100% โดย เนสท์เล่ เอส. เอ.ประเทศสวิตเซอร์แลนด์

เนสกาแฟ เป็นแบรนด์กาแฟภายใต้ บริษัท เนสท์เล่ เอส. เอ. ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และจัดจำหน่ายโดย บริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด จุดเริ่มต้นของเนสกาแฟเกิดขึ้นในปี 1929 โดย Max Morgenthaler ผู้เชี่ยวชาญด้านกาแฟ ได้รับมอบหมายภารกิจเข้าไปช่วยเก็บรักษาเมล็ดกาแฟที่ตกค้างในบราซิลอันเนื่องมาจากการล่มของตลาดหลักทรัพย์วอลล์สตรีท โดยจะต้องรังสรรค์กาแฟรสเยี่ยมแบบเรียบง่าย เพียงแค่เติมน้ำลงไป

Max และทีมงานใช้เวล่คิดค้นและหาวิธีการใหม่ๆ ในการทำกาแฟสำเร็จรูปที่ยังคงรสชาติของกาแฟที่เป็นธรรมชาติ จนกระทั่งปี 1938 พวกเขาก็ประสบความสำเร็จ NESCAFÉ จึงได้ถือกำเนิดขึ้น โดยชื่อแบรนด์นั้น เกิดจากการผสานตัวอักษรสามตัวแรกในชื่อบริษัท Nestlé และต่อท้ายด้วยคำว่า ‘café’ นั่นเอง 

หลังจากที่คนไทยได้ลิ้มรสชาติความกลมกล่อมของเนสกาแฟก็สามารถครองใจคอกาแฟจนสามารถครองส่วนแบ่งการตลาดอันดับ 1 มาถึงตอนนี้ จากผลสำรวจพบว่า 1 นาที คนไทยดื่มเนสกาแฟเฉลี่ย 9,500 แก้ว

ปัจจุบัน ผลิตภัณฑ์เนสกาแฟในประเทศไทย ได้แก่ เนสกาแฟ เรดคัพ, เนสกาแฟ เบลนด์ แอนด์ บรู, เนสกาแฟ อเมริกาโน่, เนสกาแฟ โกลด์, เนสกาแฟกระป๋องพร้อมดื่ม, เนสกาแฟ โพรเทคโพรสลิม และเนสกาแฟ ดอลเช่ กุสโต้

ปีนี้ บริษัท เนสท์เล่ จะจัดงาน NESCAFÉ Day อีกครั้ง ในวันที่ 28 กันยายน 2566 เพื่อให้ทุกคนมีส่วนร่วมในการสร้างความยั่งยืนไปด้วยกัน ครั้งแรกที่เนสกาแฟเนรมิตแฟชั่นฮอลล์ สยามพารากอน ให้กลายเป็นสวนกาแฟแบบการเกษตรเชิงฟื้นฟู (Regenerative Agriculture) ให้ทุกคนได้ร่วมกิจกรรมปลูกต้นไม้ในแก้วแดง

ภายในงานนอกจากจะได้ลิ้มรสชาติกาแฟคุณภาพดีที่ Sustainability Café พร้อมมุมถ่ายรูปเก๋ๆ ให้ได้เก็บภาพความประทับใจแล้ว เตรียมพบกับ หนุ่ม กรรชัย ณเดชน์ คูกิมิยะ ต่อ ธนภพ แจม รชตะ กลัฟ คณาวุฒิ และคู่ซี้เฟิร์ส ข้าวตัง ที่จัดเต็มความสนุกมาให้อย่างเต็มอิ่ม

 พลาดไม่ได้กิจกรรมร่วมลุ้นเป็น 80 ผู้โชคดี ที่จะได้ไปร่วม Meet & Plant ปลูกต้นไม้แบบ Exclusive กับต่อ, กลัฟ, แจม และเฟิร์ส-ข้าวตัง 

ใครมีนัดวันนั้นพอดีแต่อยากร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างความยั่งยืน สามารถร่วมปลูกต้นไม้แบบ Online เพื่อลุ้นรับแก้วและลายเซ็นจากศิลปิน จำนวน 5 รางวัล ติดตามรายละเอียดต่าง ๆ ได้ทาง Facebook: NESCAFÉ

[Advertorial]