ดำน้ำ งมหาหลักฐานแตงโม อัจฉริยะแฉ พบเลือดน้อง ที่เสื้อผู้ต้องหา

Home » ดำน้ำ งมหาหลักฐานแตงโม อัจฉริยะแฉ พบเลือดน้อง ที่เสื้อผู้ต้องหา



ชุดประดาน้ำ งมหาหลักฐานคดีแตงโม อัจฉริยะแฉ พบคราบเลือดน้องที่เสื้อผู้ต้องหา ด้านส.ส.เต้จุดธูป เชื่อได้หลักฐานจริงแน่นอน เพราะเทคโนโลยีเปี่ยมคุณภาพ

วันที่ 31 พ.ค.2565 ที่ท่าเรือพิบูลสงคราม 1 จ.นนทบุรี นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์พร้อมชุดประดาน้ำเดินทางมางมหาวัตถุพยานหลักฐานคดีแตงโม-นิดา พัชรวีระพงษ์ตกเรือดับ โดยนายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ได้เดินทางมาจุดธูป 36 ดอก ไหว้ขอพรก่อนที่นายอัจฉริยะจะเริ่มภารกิจนำโดรนลงสำรวจใต้น้ำ จากน้นเจ้าตัวได้เดินทางไปประชุมต่อที่รัฐสภา

นายอัจฉริยะ กล่าวว่าวันนี้จะมีการค้นหา 3 จุด ประกอบด้วย ท่าปทราย วัดค้างคาว และ วัดเขมาภิรตาราม ซึ่งพิกัดทั้ง 3 จุด ได้มาจากข้อมูลดาวเทียม โดยใช้โดรนบินใต้น้ำ จำนวน 2 เครื่อง ค้นหาพยานวัตถุ มีด หรือที่เปิดขวดไวน์ รวมทั้งแก้วไวน์และขวดไวน์ ความคาดหวังในวันนี้ ถ้ามีการทิ้งหลักฐานจริงๆ ไม่ว่าจะผ่านกี่ปีก็เจอ คาดว่าใช้เวลาค้นหา ประมาณ 4 ชั่วโมง

“ตนเชื่อว่าบาดแผล บริเวณต้นขาด้านขวาของแตงโม ไม่ได้เกิดจากใบพัดเรือ แต่น่าจะเกิดจากของมีคม คนที่ทำคงไม่เอามีดกลับบ้าน เพราะว่ามีคราบเลือด วิธีการง่ายที่สุดคือทิ้งน้ำ”

โดยขณะนี้ตนทราบมาว่ามีคราบเลือดของแตงโม 2 จุด อยู่บนเสื้อผู้ต้องหา 1 คน ที่พูดเก่งๆ ซึ่งมีดีเอ็นเอตรงกับแตงโม ข้อมูลนี้ออกโดยหน่วยงานของรัฐ อยู่ที่ว่าตำรวจได้ใส่ในสำนวนส่งให้อัยการหรือไม่ เพราะที่ตนไปร้องหน่วยงานต่างๆ ก็ให้สอบเรื่องนี้ เพราะเป็นหลักฐานที่พิสูจน์ได้ว่าเป็นการฆาตกรรม หากวันนี้พบหลักฐานเพิ่ม ก็จะส่งให้หน่วยงานพิสูจน์หลักฐาน ของสถาบันนิติวิทยาศาสตร์

ส่วนรูปภาพในโทรศัพท์ของแตงโมที่อยู่กับบังแจ็คนั้น ตนไม่ได้ใช้ เพราะมีข้อมูลมากกว่าของบังแจ็ค อะไรก็ตามที่ส่งมาภายหลัง จะต้องมีการตรวจสอบก่อนทั้งหมด เพราะไม่อย่างนั้นจะกลายเป็นว่าเป็นการสร้างพยานหลักฐานเท็จ

“ยืนยันว่าสิ่งที่ทำทั้งหมดไม่มีการสร้างพยานหลักฐานเท็จ ซึ่งหลักฐานทั้งหมดตอนนี้มีอยู่พอสมควร และเป็นหลักฐานที่จับต้องได้ มีผู้เชี่ยวชาญยืนยัน”

ก่อนวันที่ 23 มิ.ย.ซึ่งอธิบดีอัยการภาค 1 จะมีคำสั่งฟ้อง ผู้ต้องหาทั้ง 6 คน ตนจะไปดำเนินการฟ้องเอง ไม่ไปยื่นกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอแล้ว เพราะเสียเวลาไปมาก ตอนนี้วัดกันไปเลย โดยวันเสาร์ที่ 4 มิ.ย.นี้ จะประชุมทีมทนายความกับนายมงคลกิตติ์ โดยมีหลักฐานทุกอย่าง

ส่วนที่นางพนิดา ศิริยุทธโยธิน คุณแม่แตงโม ให้สัมภาษณ์ว่าแตงโมเสียชีวิตบนบก ตรงนี้เกิดจากแม่ไม่ค่อยเข้าใจและไม่มีความรู้ทางกฏหมาย ตนจึงได้อธิบายให้แม่ฟังแล้วว่า บนบกคือการถูกทำร้าย ไม่ใช่การเสียชีวิต ซึ่งการเสียชีวิตเกิดจากจมน้ำตาย หลังจากอธิบายไป ทางคุณแม่ก็เข้าใจแล้ว

นายอัจฉริยะ กล่าวอีกว่า ขอบคุณทนายรณรงค์ทนายเกิดผล ทนายรัชพล ที่สู้กับตนมาทางอ้อม และอยากฝากถึงทนายเดชา อยู่ในวงการเดียวกัน ไม่ต้องไปขู่แม่ การไลฟ์สดของเขา ลักษณะเหมือนการข่มขู่ เมื่อสละสิทธิ์การเป็นทนายความไปแล้ว ก็ควรจะหยุดนิ่ง ปล่อยให้เขาได้ทำงานไป ตรงนี้ทำให้แม่เกิดความไม่สบายใจและเกิดความกลัว สิ่งต่างๆ เหล่านี้ต้องมีจรรยาบรรณกันบ้าง ส่วนที่ส.ส.เต้ ทำไปเพราะเกิดจากความโมโห เพราะทนายเดชาไปข่มขู่แม่

สำหรับโดรนบินใต้น้ำ ROV ที่นำมาวันนี้ มีน้ำหนักประมาณ 4 กิโลกรัม มีกล้อง4K 30 เฟรมต่อวินาที ดำน้ำลึก 100 เมตร มีไฟในที่สว่าง 4,000 ลูเมน พิเศษตรงที่มีแขนจับวัตถุใต้น้ำ หนักได้ประมาณ 8 กิโลกรัม มี 6 ใบพัดสามารถหมุนได้ด้วยตัวเอง 360 องศา ควบคุมการสั่งงานด้วยโทรศัพท์ เคยใช้ค้นหารถและคนมาแล้ว

ขณะที่นายมงคลกิตติ์ เผยว่าวันนี้ได้จุดธูปบอกกล่าวเหมือนวันที่พบร่างแตงโม คือขอพรกับพระสยามเทวาธิราชและหลวงพ่อวัดค้างคาวให้ภารกิจสำเร็จ โดยที่ผ่านมาก็สำเร็จคืบหน้าทุกครั้ง และยังได้กราบไหว้พระแม่คงคาที่ดูแลท้องน้ำ รวมถึงวิญญาณแตงโม ขอให้ช่วยให้นายอัจฉริยะเจอพยานหลักฐานสำคัญ ที่ไม่ใช่พยานหลักฐานเท็จ แต่เป็นของจริง ซึ่งก็จะต้องส่งไปตรวจพิสูจน์อีกที

แต่วันนี้อุปกรณ์ที่นำมาใช้ เป็นอุปกรณ์ขั้นสูง ถือเป็นความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีที่จะมาช่วยหาพยานหลักฐาน

ส่วนประเด็นเรื่องคราบเลือดแตงโมที่เจอบนเสื้อของคนบนเรือ ตนทราบข้อมูบจากนายอัจฉริยะแล้ว ซึ่งเป็นข้อมูลคนละส่วนกับที่ตนมี แต่ตอนนี้ยังเปิดเผยรายละเอียดไม่ได้ เพราะเดี๋ยวไก่จะตื่น ทั้งนี้ เท่าที่ตนทราบมา ตอนนี้คนบนเรือ ไม่มีใครดูแลแล้ว ต้องดูแลตัวเอง

การที่นายอัจฉริยะบอกว่า จะไม่ไปยื่นหลักฐานต่อดีเอสไอแล้วนั้น ถือเป็นสิทธิของนายอัจฉริยะ ซึ่งได้ปรึกษากันแล้ว โดยนายอัจฉริยะได้ยื่นหลักฐานไปแล้วส่วนหนึ่ง ถ้าดีเอสไอจะรับเป็นคดีพิเศษก็คงรับได้ แต่ถ้าจะไม่รับก็ถือว่าไม่มีบทบาท ข้อสันนิษฐานของคุณแม่ว่าลูกสาวตายแบบผิดธรรมชาติ ไม่ได้ตายด้วยอุบัติเหตุก็จะต้องสู้ด้วยตัวเองไม่ได้อาศัยหน่วยงานราชการเป็นการต่อสู้ในกระบวนการยุติธรรมด้วยตัวเอง

ส่วนกรณีที่ทนายกฤษณะ ศรีบุญพิมพ์สวย บอกว่าวันพรุ่งนี้ (1 มิ.ย.) จะไปยื่นถอดถอนใบอนุญาตทนายความชื่อดังที่สภาทนายความ ตนได้รับแจ้งมาแล้ว ซึ่งจะดูตามข้อกฎหมาย และไม่ใช่แค่ทนายกฤษณะ แต่สมาชิกพรรคที่อยู่ในต่างจังหวัดก็จะไปแจ้งความเอาผิดเหมือนกัน และให้ไปเจอกันที่ศาล โดยใครที่กล่าวหาถึงพรรคในทางไม่ชอบว่าเป็นคณะตลก ส.ส.ปัดเศษ คนไม่ดี คนเลว ทั้งพรรคมีคนเดียว ก็จะได้เจอวิถีทางการเมืองคือมวลชน

“นี่ไม่ได้เป็นการขู่ แต่สมาชิกพรรคเจ็บใจ จึงฝากบอกว่า จะทำอะไรต้องระมัดระวัง เพราะตัวเองก็เป็นทนายความ”

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ