เมื่อวันที่ 2 มิ.ย.67 พ.ต.ต.เปรม เตรียมตัว สว.สอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี รับแจ้งเหตุคนจมน้ำเสียชีวิต ที่หนองบ้านถิ่น บ.สามพร้าว ม.2 ต.สามพร้าว อ.เมืองอุดรธานี เหตุเกิดเมื่อวันที่ 1 มิ.ย.ที่ผ่านมา หลังได้รับแจ้งจึงออกไปตรวจสอบ พร้อมด้วยตำรวจชุมชนตำบลสามพร้าว แพทย์เวร รพ.ศูนย์อุดรธานี กู้ชีพ อบต.สามพร้าว อาสากู้ภัยมูลนิธิอุดรสว่างเมธาธรรมสถาน
ที่เกิดเหตุเป็นหนองน้ำสาธารณะขนาดใหญ่ประมาณ 150 ไร่ ที่บริเวณร่องน้ำริมตลิ่งลึกประมาณ 2-3 เมตร ทราบว่าคนที่จมน้ำคือ น.ส.บี (นามสมมุติ) อายุ 51 ปี ชาว ต.สามพร้าว อ.เมือง จ.อุดรธานี สภาพศพนอนคว่ำหน้าจมอยู่ในน้ำ มีกะละมังพลาสติกสีส้ม คว่ำปิดร่างอยู่
ชุดกู้ภัยทางน้ำ 3 นาย ติดตั้งอุปกรณ์ดำน้ำ ก่อนลงไปงมศพขึ้นมา พบว่ามีตาข่ายดักปลาพันอยู่ตามร่างกาย ต้องใช้มีดตัดตาข่ายออก จึงสามารถนำศพขึ้นมาได้ ท่ามกลางความเศร้าโศกเสียใจของสามี ลูกสาว และญาติๆ ที่มายืนดูขณะเจ้าหน้าที่ลงไปงมหาศพอยู่ จากนั้นจึงนำศพขึ้นมาไว้บนฝั่ง
นายวันเพ็ญ อายุ 52 ปี สามีผู้ตาย ให้การว่า ภรรยาเป็นแม่หม้ายสามีตาย มีลูกสาวติด 3 คน มาอยู่กินกับตนประมาณ 4 ปี อาศัยที่กระท่อมนาของตนห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 300 เมตร ภรรยามีโรคประจำตัวหลายอย่าง หลักๆเป็นเบาหวาน ความดัน
เวลา 21.00 น. วานนี้ (1 มิ.ย. 2567) ภรรยาออกมางมหอยเชอรี่ ตนตื่นขึ้นมาเข้าห้องน้ำ เวลา 23.00 น. ก็ยังไม่เห็นกลับมา น้องชายตนที่ไปหาหอยด้วยกัน ก็ตามหาแล้ว 2 รอบ แต่ไม่เห็นภรรยาตนกลับมาบ้าน ไม่รู้ว่าหายตัวไปไหน เพราะเวลาหาหอยก็ต่างคนต่างหาคนละมุมของหนองน้ำ ตนและญาติพากันเรียกหาก็ไม่มีเสียงตอบรับ
“กระทั่งในเวลา 09.00 น.วันนี้ พวกผมจึงพากันค้นหาอีกครั้ง ก็พบภรรยาจมน้ำเสียชีวิต ที่มั่นใจว่าเป็นภรรยา เพราะจำรองเท้าได้ สาเหตุการจมน้ำคาดว่าภรรยาวูบด้วยโรคประจำตัวหลายโรค ส่วนผมก็ไม่กล้าลงน้ำ เพราะมีโรคประจำตัวเหมือนกันและกลัววูบจมน้ำ เคยห้ามภรรยาว่าอย่าลงน้ำไปหาหอยอีกเลย เพราะกลัวภรรยาจะจมน้ำ แต่ภรรยาก็ไม่ยอมฟัง และชอบมาหางมหอยตอนกลางคืนทุกวัน ผมเสียใจมากที่ห้ามภรรยาไม่ฟัง สุดท้ายก็มาจมน้ำเสียชีวิตแบบนี้” นายวันเพ็ญ กล่าว
- ไม่ให้อภัย! แม่เหยื่อลั่น คดีฆ่าปาดคอ หลังนิมนต์พระ เชิญดวงวิญญาณลูก ทำพิธี
- เกินมนุษย์! เด็ก 13 ถูกพ่อแท้ๆ ติดยา-ติดคุก ขืนใจลูกสาวนาน 4 ปี
- ฟาดเคราะห์! หนุ่มเดินทางเท้า เหยียบฝาท่อผุ แตกทะลุ ล้มหน้าคะมำ
นายเด่น อายุ 47 ปี น้องชายสามีผู้ตาย ที่มาหาหอยด้วยกัน กล่าวว่า ตนและพี่สะใภ้จะมางมหอยที่หนองน้ำแห่งนี้แทบทุกคืน เพื่อนำไปทำอาหารกินและขาย พอมาถึงก็ต่างคนต่างหาคนละฝากคนละมุมหนองน้ำ
ตนเอาหอยมาเทใส่ถังกลับบ้าน 2 รอบ ก็ยังไม่เห็นพี่สะใภ้ขึ้นมา และไม่เห็นแสงไฟพี่สะใภ้ด้วย หาหอยจนถึงเที่ยงคืนแบตเตอรี่โคมไฟของตนหมด จึงกลับบ้านไปชาร์ต และกลับมาร้องเรียก เดินตามหาก็ไม่มีเสียตอบ จนแบตเตอรี่โคมไฟของตนหมดก็ยังไม่พบตัว จึงกลับบ้านไปบอกพี่ชายว่าไม่รู้ว่าพี่สะใภ้หายตัวไปไหน กระทั่งมาพบจมน้ำเสียชีวิต คาดว่าคงวูบ เพราะมีโรคประจำตัว และก็ไม่เคยพูดเป็นลางร้ายก่อนตาย แต่อย่างใด
ต่อมา น.ส.น้ำ อายุ 19 ปี ลูกสาวผู้ตาย เดินทางมาดูศพแม่ เมื่อมาถึงนั่งคุกเข่าร้องไห้ต่อหน้าศพแม่อย่างน่าเวทนา ก่อนเล่าให้ฟังว่า มีพี่น้อง 3 คน เป็นผู้หญิงทั้งหมด ตนเป็นคนสุดท้อง พี่คนโตทำงานอยู่ กทม. คนกลางอยู่ที่ญี่ปุ่น พี่ทราบเรื่องแม่แล้ว ทุกคนเสียใจมาก พ่อแท้ๆเสียชีวิตไปนานแล้ว แม่ย้ายมาอยู่ที่กระท่อมนากับพ่อเลี้ยง ตนก็แยกออกมาเช่าห้องอยู่ ทำงานอยู่ในตัวเมืองอุดรฯ อาทิตย์ที่แล้วตนมาหาแม่ที่กระท่อมนา
นัดกันว่าจะมาจัดงานวันเกิดตัวเองที่บ้านพ่อหลังเก่าใน บ.สามพร้าว ในวันที่ 24 เดือนนี้ แต่แม่ก็มาจากไปเสียก่อน และไม่ติดใจในการตายของแม่ เมื่อวานมีเรื่องแปลกใจว่าอยู่ดีๆ ก็นึกตามหาเฟซบุ๊กพี่สาวคนโต ไม่รู้ว่าจะเรื่องบังเอิญหรือไม่
นายจอมใจ หาสอดส่อง ผญบ.บ้านสามพร้าว ม.2 เปิดเผยว่า คนตายเป็นคน จ.กระบี่ มีครอบครัวแรกที่ บ.สามพร้าว สามีตายไปก่อนหน้าหลายปี จนทั้งคู่มาคบหากัน ตอนแรกที่ทั้งคู่มาอยู่กินกัน ก็มีเรื่องทะเลาะกันบ้าง แต่ก็เห็นกลับมารักกันดี
สามีป่วยก่อนเคยวูบหมดสติมาแล้ว จึงไม่ได้ทำงานหนักอะไร ภรรยาเองก็มาป่วยตาม แต่ยังออกมาหางมหอยเพื่อหาเลี้ยงตัวเองและสามีอยู่ สามีก็เคยห้ามแต่ภรรยาก็ยังออกมาหางมหอยอยู่ตลอด กระท่อมนาของทั้งคู่ก็จะมีเพื่อนแวะเวียนมาดื่มเหล้ากันประจำ สามีภรรยาคู่นี้ก็จะร่วมวงดื่มกันเป็นประจำ
เบื้องต้นตำรวจระบุว่า เมื่อตรวจสอบตามร่างกายไม่มีร่องการถูกทำร้าย บริเวณใกล้เคียงไม่มีร่องรอยการต่อสู้ คาดว่าระหว่างลงไปงมหอย ร่างผู้ตายได้ไปเกี่ยวตาข่ายดักปลา ที่ชาวบ้านได้วางดักไว้ในน้ำ แต่ผู้ตายไม่เห็น เนื่องจากเป็นเวลากลางคืน เมื่อตาข่ายพันร่างจนช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ และไม่มีคนพบเห็น จึงจมน้ำเสียชีวิต เมื่อเห็นว่าญาติไม่ติดใจสาเหตุการตาย จึงมอบศพให้ญาตินำไปบำเพ็ญกุศล