เมื่อช่วงสายวันที่ 5 มีนาคม 2567 เกิดเหตุไฟไหม้ด้านบนชั้น 2 ที่บ้านหลังหนึ่ง หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจและดับเพลิงเข้าตรวจสอบ พบลูกชายนักธุรกิจดังถูกไฟคลอกเสียชีวิตในห้องนอน ด้านพ่อคาดว่าลูกเสพยาเกินขนาดจนทำไฟลุกไหม้ในห้อง และยอมรับว่าลูกติดยามานานกว่า 2 ปี อีกทั้งยังเคยเกือบทำไฟไหม้บ้านจากการเสพยามาแล้ว 1 ครั้ง
ที่เกิดเหตุอยู่ด้านหลัง สน.บางซื่อ เป็นบ้าน 2 ชั้น ภายใน ซอยพหลโยธิน 14 เจ้าหน้าที่ดับเพลิงระดมกำลังรถน้ำกว่า 3 คัน เพื่อดับไฟบ้านหลังดังกล่าว โดยกลุ่มควันและเปลวเพลิงเกิดขึ้นที่บริเวณชั้น 2 ของตัวบ้านซึ่งเป็นห้องนอน เจ้าหน้าที่ดับเพลิงใช้เวลาประมาณ 30 นาที ในการดับเพลิง
จากการเข้าตรวจสอบในที่เกิดเหตุ พบว่าต้นเพลิงเกิดจากห้องนอนชั้น 2 ซึ่งเป็นห้องของลูกชายเจ้าของบ้าน ภายในห้องพบเตียงนอนถูกเพลิงไหม้จนได้รับความเสียหายเกือบทั้งหมด ข้างเตียงพบร่างของผู้เสียชีวิต ทราบชื่อ นายอานนท์ (สงวนนามสกุล) อยู่ในสภาพเปลือยกายอยู่ที่ข้างเตียง เจ้าหน้าที่ดับเพลิงจึงประสานให้ร้อยเวร สน.บางซื่อ เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน และแพทย์มาร่วมชันสูตร
- งานเข้า! คดีบุกรุก ครอบครองปรปักษ์ อัยการสั่งฟ้องผู้ต้องหา 3 ข้อหาหนัก
- ส่งลูกไม่ถึง ร.ร. พ่อประมาทพกปืนติดตัว สุดท้ายรถล้มทำปืนลั่นใส่ขาตัวเอง
- ผสด.ระทึก! รถทัวร์โดยสาร บ.ดัง ถูกก้อนหินปริศนา พุ่งใส่กระจกรถแตก
ด้าน พ.ต.ท.วรภัทร สุขไทย รอง ผกก.ป.สน.บางซื่อ เปิดเผยว่า จากการสอบปากคำพ่อของผู้เสียชีวิต เบื้องต้นทราบว่า ลูกชายไม่ลงมาที่ด้านล่างบ้านตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา ก่อนที่ช่วงสายพ่อจะพบกลุ่มควันและเปลวเพลิง จึงพยายามทุบประตูห้องเข้าไปด้านในและพยายามใช้น้ำดับ พร้อมทั้งประสานเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเข้ามาช่วยระงับเหตุ ก่อนจะพบว่าลูกชายของนอนเสียชีวิตอยู่ภายในห้อง นอกจากนี้พ่อของผู้เสียชีวิตยอมรับว่าลูกชายติดยาเสพติดประเภทไอซ์มาตั้งแต่ช่วง 2 ปีที่ผ่านมา
อีกทั้งช่วงประมาณ 2-3 เดือนที่ผ่านมา ลูกชายเคยใช้ไฟแช็คลนอุปกรณ์การเสพ จนเกิดอาการน็อคยาและหมดสติ ทำให้ไฟแช็คตกลงพื้นจนเกิดเพลิงลุกไหม้แต่คนในบ้านช่วยกันดับไว้ทัน กระทั่งมาเกิดเหตุอีกครั้งในวันนี้ จึงคาดว่าสาเหตุของเพลิงไหม้น่าจะเกิดจากการใช้ไฟในการลนอุปกรณ์เสพยา
อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่พบอุปกรณ์ลนไฟดังกล่าว จึงต้องให้กองพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบที่เกิดเหตุอย่างละเอียด ซึ่งจากการตรวจสอบเบื้องต้น พบขวดแก้วซึ่งเป็นอุปกรณ์การเสพ 1 ชิ้น จึงนำไปตรวจสอบพร้อมพยานหลักฐานอื่นๆ และให้แพทย์สถาบันนิติวิทยาโรงพยาบาลตำรวจ นำศพกลับไปผ่าชันสูตรอย่างละเอียดเพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตที่ชัดเจนต่อไป